กรณีการเสียชีวิตอย่างมากด้วยเงื่อนงำของ “น้องเมย” กำลังฉายสะท้อนให้เห็น “ภาพจริง” ของสังคมไทย

และจะส่ง “แรงสะเทือน” อย่างลึกซึ้ง

หากศึกษาตั้งแต่เริ่มต้นกระทั่งบทสุดท้าย คือ การแจ้งข่าวการเสียชีวิตไปยังครอบครัว

ดำเนินไปอย่างคลุมเครือ

คลุมเครือตั้งแต่สาเหตุการตาย และยิ่งคลุมเครือมากยิ่งขึ้นเมื่อในร่างของผู้ตาย”อวัยวะ”บางส่วนได้หายไป

นี่เป็นเรื่องสะเทือนใจอย่างยิ่ง

เมื่อเริ่มต้นอย่างคลุมเครือถ้อยแถลงอันปรากฏออกมายิ่งสับสนอลหม่าน กลับกลายเป็นการสร้างปัญหาเพิ่มปัญหา

ถามว่าทำไมกรณี “น้องเมย” จึงอึกทึก ครึกโครม

 

ลำพังสาเหตุการเสียชีวิตก็มากด้วยเงื่อนงำอยู่แล้ว หากที่ละเอียดอ่อนยิ่งกว่านั้นยังอยู่ที่ว่าเกิดขึ้นกับใคร

“น้องเมย” เป็นนักเรียน “เตรียมทหาร”

สังคมไทยมองและประเมินบทบาทของโรงเรียนนายทหารไว้ค่อนข้างสูง

ไม่ว่า “เตรียมทหาร” หรือ “โรงเรียนนายร้อย”

สะท้อนและยืนยันว่าครอบครัว”ภัคกาญจน์”เป็นครอบครัวที่ตั้งความหวังไว้กับสถาบันทหารอันเป็นสถาบันสำคัญ 1 ของสังคมไทย

ถือได้ว่าเป็นครอบครัวที่อยู่ระดับ”ดรีม”ของประเทศ

แรงสะเทือนอยู่ที่ว่า คนในครอบครัวระดับนี้ยังถูกกระทำจาก สถาบันทหาร สถาบันรัฐบาล อย่างมากด้วยเงื่อนงำเช่นนี้

แล้วครอบครัวระดับ “ล่าง” ลงมาจะเป็นอย่างไร ?

 

ขณะเดียวกัน ท่ามกลางการปิดบัง”ข่าวสาร”และข้อมูลเรื่องราวการเสียชีวิตของ”น้องเมย”ปรากฏผ่าน”ออนไลน์”

นี่คือ การปะทะอย่างแหลมคมยิ่งของสังคมไทย

ด้าน 1 มีการปิดกั้น ด้าน 1 มีการผลักรุนกระทั่งข่าวที่ถูกปิดกั้นกลายเป็นกระแสอันอึกทึกครึกโครมในสังคม

กระทบกระแทกไปยัง “สถาบันทหาร”

หากเริ่มจากความเป็นจริงของครอบครัว”น้องเมย”ที่เป็นส่วนหนึ่งอยู่ภายในระบบแห่ง”สถาบันทหาร”นี่คือการแตกกระจายออก จากความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ภายในองคาพยพ

ทุกอย่างดำเนินไปในแบบ “บิ๊ก เปรี้ยง”ทางสังคม