คดีเงินปิดปาก “ดาราหนังผู้ใหญ่” คดีหลอกหลอน “โดนัลด์ ทรัมป์”

(Photo by Ed JONES / AFP)

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 และกำลังเตรียมตัวสำหรับการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะมีขึ้นในปีหน้า ได้กลายเป็นผู้ที่สร้างประวัติศาสตร์มาแล้วหลายเรื่อง

ไม่ว่าจะการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านรัฐบาลหรือด้านทหารมาก่อน

ทรัมป์ยังเป็นคนแรกที่ถูกเข้าสู่กระบวนการถอดถอน หรืออิมพีชเมนต์ถึง 2 ครั้ง และยังเป็นคนแรกที่ท้าทายเรื่องการรับรองของ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 ที่ได้รับชัยชนะต่อจากทรัมป์

และล่าสุด ทรัมป์ยังจะกลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ถูกตั้งข้อหาทางอาญาด้วย หลังจากที่คณะลูกขุนใหญ่แขวงแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกา ตัดสินฟ้องข้อหาทรัมป์ กรณีการจ่ายเงินปิดปาก “สตอร์มี แดเนียลส์” ดาราหนังผู้ใหญ่ ในช่วงที่ทรัมป์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี ค.ศ.2016 เป็นเงิน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อไม่ให้แดเนียลส์ออกมาแฉเรื่องที่เธอเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทรัมป์ เมื่อปี 2006 และทรัมป์ก็ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนั้น โดยเอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน ไปได้

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาทั้งหมดเกี่ยวกับการจ่ายเงินดังกล่าว และยืนยันว่า ไม่ได้กระทำผิดใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหา รวมไปถึงปฏิเสธเรื่องการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแดเนียลส์ด้วย พร้อมกับยืนยันว่า จะยังไม่ถอนตัวออกจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า

พร้อมกันนี้ ทรัมป์ยังได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า “นี่คือการประหัตประหารทางการเมือง และการแทรกแซงการเลือกตั้งในระดับที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์”

(Photo by Tobias SCHWARZ / AFP)

เท้าความกลับไปถึงเรื่องสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์กับแดเนียลส์ ที่ถูกแฉออกมาเมื่อปี 2018 เมื่อสตอร์มี แดเนียลส์ หรือชื่อจริงคือ สเตฟานี คลิฟฟอร์ด ได้ให้สัมภาษณ์ในรายงาน “60 มินิตส์” เปิดเผยเรื่องราวสัมพันธ์สวาทระหว่างเธอกับทรัมป์ ว่า เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2006 หลังจากได้พบกันในงานกอล์ฟของคนดัง ที่ทะเลสาบทาโฮ

ขณะนั้น แดเนียลส์อายุ 27 ปี ส่วนทรัมป์อายุ 60 ปี และทรัมป์ได้ชวนแดเนียลส์ไปที่ห้องพักสุดหรูในโรงแรมของทรัมป์ ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กันในคืนนั้นนั่นเอง

ช่วงเวลานั้น นางเมลาเนีย ภรรยาของทรัมป์ เพิ่งจะคลอดลูกชายออกมาได้ไม่นาน หลังจากนั้น ก็มีการติดต่อกันเรื่อยๆ แต่ไม่ได้มีอะไรกัน และทรัมป์ก็ไม่เคยขอให้เธอปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น

กระทั่งปี 2011 ที่แดเนียลส์ตกลงจะขายเรื่องราวชีวิตของเธอ เป็นเงิน 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ เหตุดังกล่าวทำให้แดเนียลส์ถูกคุกคามเรื่อยมา และขู่ว่าอย่ายุ่งกับทรัมป์อีก

เรื่องราวผ่านไปจนถึงช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2016 ทรัมป์ลงชิงชัยในฐานะตัวแทนพรรครีพับลิกัน และ 11 วันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แดเนียลส์ถูกพาตัวไปยังตึกทรัมป์ ทาวเวอร์ เพื่อรับเงิน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากไมเคิล โคเฮน ทนายความส่วนตัวของทรัมป์ในตอนนั้น เพื่อแลกกับการให้แดเนียลส์ไม่พูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับทรัมป์

และมีการทำข้อตกลงกันเอาไว้ว่า จะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเรื่องดังกล่าวกับใคร โดยมีนายคีธ เดวิดสัน ทนายความของแดเนียลส์ กับนายไมเคิล โคเฮน ทนายความส่วนตัวของทรัมป์ ลงชื่อในสัญญาดังกล่าวด้วย

แต่โคเฮนออกมาแก้ข่าวว่า เงินที่จ่ายให้กับแดเนียลส์ ไม่ใช่เงินของทรัมป์ หากแต่เป็นเงินของเขาเองที่จ่ายให้กับแดเนียลส์

 

การออกมาตอบโต้ดังกล่าวของฝ่ายทรัมป์ ทำให้แดเนียลส์ลุกขึ้นมาฟ้องทรัมป์กับโคเฮน เพื่อขอยุติสัญญาดังกล่าว และว่า ข้อตกลงดังกล่าว ไม่มีผลอย่างถูกต้องเนื่องจากทรัมป์ไม่เคยลงนามในข้อตกลงดังกล่าว

ซึ่งทีมทนายของทรัมป์เองก็ยอมรับว่า ทรัมป์ไม่ได้เซ็นชื่อในสัญญาดังกล่าว และยังไม่คิดจะนำมาบังคับด้วย ทำให้ผู้พิพากษายกคำฟ้องคดีกังกล่าวไป เพราะเห็นว่าทั้งโจทก์และจำเลยมีทางออกของคดีนี้ด้วยตัวเองแล้ว

ส่วนโคเฮน ถูกพิพากษาจำคุก 36 เดือน เมื่อเดือนธันวาคม 2018 และทำให้คณะลูกขุนใหญ่ แขวงแมนฮัตตัน เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าปิดปากดังกล่าวต่อ และมีการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเรื่อยมา

ทั้งนี้ การตกลงจ่ายเงินปิดปากนั้นสามารถทำได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย แต่อัยการเขตแมนฮัตตันกำลังสืบสวนว่ามีการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจเกี่ยวกับการจ่ายเงินปิดปากนี้หรือไม่ เนื่องจากทรัมป์บันทึกการจ่ายเงินให้แก่แดเนียลส์ไว้ว่า เป็นค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ ซึ่งถือว่าเป็นการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายในรัฐนิวยอร์ก

แม้ว่าคราวก่อนทรัมป์จะรอดจากคดีของแดเนียลส์ไปแล้ว จนได้กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

คราวนี้ก็ต้องมาเจอคดีเก่าเกี่ยวกับแดเนียลส์อีก แต่จะรอดไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกหรือไม่นั้น ต้องรอจับตาดูกันต่อไป