ผ่าแผนทลายมาเก๊า 888 ‘เบนซ์ เดม่อน’ หัวโจก ล่าต่อ ‘ลัมโบร์’ 100 ล้าน ดารา ‘ดิว’ เปิดใจปมแฉ

เป็นปฏิบัติการของตำรวจที่น่าจับตา สำหรับการบุกทลายเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ “มาเก๊า 888”

ซึ่งเป็นการขยายผลจากการออกมาแฉของดาราสาว ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ นั่นเอง

โดยเว็บมาเก๊า 888 นี่ถือเป็นเว็บพนันรายใหญ่ อันดับต้นๆ ของประเทศ มีเงินหมุนเวียนมหาศาล มีเหยื่อเป็นนักเล่นพนันชาวไทยและต่างชาติจำนวนมาก

จนกลายเป็นต้นเหตุของอาชญากรรม และปัญหาสังคมหลากหลายประการ

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะเป็นข่าวจับกุมอย่างยกใหญ่ กลับมีการระบุว่ากลุ่ม 4 บ. ที่เป็นพี่น้องกันทั้งหมดได้เดินทางหลบหนีไปต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็บุกทลายจนได้

ถือว่าเป็นอีกแนวรุกหนึ่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบมาตลอด

แสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่

แต่ก็ต้องรอดูบทสรุปว่าจะสาวได้ถึงตัวการบิ๊กเบิ้มจริงๆ หรือไม่ อย่างไร

ค้นโกดัง

บุกทลายเว็บพนันมาเก๊า 888

เหตุบุกทลายเครือข่ายเว็บพนันครั้งนี้ คงต้องย้อนจุดเริ่มต้นไปที่โพสต์ทิ้งระเบิดของดาราสาว ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม ระบุว่า “อะ… บ้านทำเว็บพนันใหญ่ชื่อ ‘มาเก๊า 888’ มีพี่น้อง 4 คนผู้ชายหมด ชื่อเล่น บ.ทั้งบ้าน น้องเพิ่งหมั้นวันนี้ กำลังจะแต่งงานวันที่ 22 มกราคม ที่จะถึง คาดว่าวงการเว็บพนันออนไลน์น่าจะไปร่วมงานแต่งถ้วนหน้า และมีคนมีชื่อเสียงร่วมงานเยอะ”

สายสืบ-ตำรวจใดใดทำงานด้วยครับ มีข้อมูลอยู่แล้ว อยากรวบใคร รวบเลย! ฝากนักสืบ และผู้มีประสบการณ์ทำงานด้วยค่า

ป.ล. ไม่ผิดที่มีความรักและแต่งงาน แต่ผิดที่ทำธุรกิจสกปรก ไม่ขาว ผิดกฎหมาย และกล้าจัดงานใหญ่โต ในขณะที่คนอื่นโดนจับกัน โชว์ความรวยที่ได้มาจากเว็บพนันที่หลอกเงินคนไทย

พร้อมติดแฮชแท็กทิ้งท้ายว่า #ตำรวจไทยเก่งที่สุด #ทำคดีอื่นแล้วฝากคดีนี้ด้วยค๊าพี่ตำรวจ

หลังจากโพสต์ดังกล่าวก็เกิดความปั่นป่วนขนานหนัก โดยเฉพาะวงการนักพนัน และวงการตำรวจ เพราะเป็นที่รู้กันดีกว่า “มาเก๊า 888” เป็นเว็บใหญ่ชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศ ขนาดเครือข่ายของสามีอดีตดารา แยม-ธมลพรรณ ภานุชิตพุทธิวงศ์ ที่ถูกจับพร้อมเงินสดจำนวนมาก บ้านหรู และซูเปอร์คาร์ ยังเทียบไม่ได้กับเว็บพนันรายนี้

ทำให้สังคมจับตาว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรกับกรณีดังกล่าว ท่ามกลางกระแส “4 บ.” เผ่นหนีไปต่างประเทศ หลังเป็นข่าว

ทิ้งเวลาอยู่เกือบเดือน ปฏิบัติการกวาดล้างก็ปรากฎ โดยเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการหน่วยคอมมานโด บุกทลายเครือข่ายเว็บพนันมาเก๊า 888 จู่โจมค้น 8 จุดใน กทม.และปริมณฑล และสามารถอายัดทรัพย์สินได้จำนวนมาก

โดยที่น่าสนใจคือที่หมู่บ้านหรู ถ.เลียบคลองประปา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ของนายณัฐพงศ์ หรือซิโก้ ชินลา อายุ 28 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณา หรือชักชวน โดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน

พบโพยพนันฟุตบอล โพยหวย และข้อมูลลูกค้า โดยข้อมูลพบว่านายณัฐพงศ์มีหน้าที่ดูแลด้านการเงินของเครือข่าย ขณะที่เจ้าตัวหลบหนีออกจากบ้านพักไปแล้ว แต่ก็ไปไม่รอด เมื่อชุดจับกุมอีกชุดจับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมใน จ.อุดรธานี

ไม่เพียงแค่นั้น ยังบุกค้นบ้านเลขที่ 449 ซอยเทศบาลนิมิตใต้ 15 หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กทม. ของนายณพมนัส หรือมายส์ สังขทรัพย์ อายุ 39 ปี ยึดอาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน รถยนต์ 3 คัน กระเป๋าแบรนด์เนมจำนวนมาก ตุ๊กตาแบร์บริก นับสิบตัว สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร เอกสารการจดทะเบียนบริษัท โดยเจ้าตัวเผ่นหนีไปฮ่องกงเรียบร้อย

พร้อมค้นบริษัท บีท เดอะ เวิลด์ จำกัด ย่านอาร์ซีเอ เขตห้วยขวาง กทม. พบเอกสารจัดตั้งบริษัท มีความเชื่อมโยงนายณพมนัสกับนายบอส หนึ่งในกลุ่มพี่น้อง 4 บ. โดยนายบอสเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ส่วนนายณพมนัสเป็นประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายการตลาด ประกอบธุรกิจการผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มชูกำลัง

เป็นประเดิมการทลายเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่!!

ผังผู้ก่อเหตุ

คุ้ยต่อล่าลัมโบร์ 100 ล้าน

ไม่เพียงแค่นั้น ยังคงปฏิบัติการต่อเนื่อง โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ระบุว่า บช.สอท.และตำรวจ PCT ร่วมกันขยายผลอีกกว่า 40 เป้าหมาย โดยก่อนหน้านี้ได้ออกหมายจับไปแล้ว 13 หมาย 1 ในนั้นคือ “เบนซ์ เดม่อน” หรือ นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร อายุ 37 ปี เป็นพี่ชายคนโตในตระกูล 4 บ. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 325/2566 ลงวันที่ 31 มกราคม 2566 ในความผิดฐานรวมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันฟอกเงิน รวมอยู่ด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

ปัจจุบันยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ เนื่องจากผู้ต้องหายังอยู่ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง แต่สามารถจับผู้ที่เกี่ยวข้องและมีความเชื่อมโยงทางด้านการเงิน และกลุ่มบัญชีม้าได้แล้วรวม 32 คน ซึ่งรวม 6 คน ใน 13 หมายจับด้วย

และเข้าตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพี่น้อง 4 บ. ทั้งสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอหรือสถานบันเทิงย่านสุขุมวิทที่นายเบนซ์ เดม่อน ชอบไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนที่ทำเกี่ยวกับพนันออนไลน์ ส่วนจะเป็นหุ้นส่วนจริงหรือหุ้นลม ต้องรอการตรวจสอบเพื่อขยายผล

ทั้งนี้ ยังได้เข้าค้นคอนโดมิเนียมของนายเบนซ์ เดม่อน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 พบว่าจ้างบริษัทขนส่งเอกชนขนย้ายทรัพย์สิน ซึ่งยังไม่ทราบว่าด้านในเป็นทรัพย์สินอะไร

ต่อมาวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ก็บุกนำหมายค้นจากศาลจังหวัดธัญบุรี ค้นโกดังแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี หลังพบว่าเป็นโกดังเก็บทรัพย์สินของนายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หรือเบนซ์ เดม่อน พี่คนโตของตระกูล 4 บ. หนึ่งในผู้ต้องหาเอี่ยวพนันออนไลน์มาเก๊า 888 เช่าไว้ 6 เดือน เดือนละ 12,000 บาท ซึ่งต้องดูว่ายังมีโกดังจุดอื่นๆ ที่เช่าไว้เป็นที่ซุกทรัพย์สินหรือไม่

ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. ระบุว่า รถลัมโบร์กินีของนายชัยวัฒน์ ที่ระบุว่าเป็นคันเดียวในประเทศ และมีอยู่ 7 คันบนโลก มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างการติดตาม พบว่าเปลี่ยนมือผู้ถือครองไปแล้วก่อนจะเป็นข่าว และเปลี่ยนสีไปแล้ว ปัจจุบันน่าจะเป็นสีเทา และเชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย

ส่วนโกดังที่เข้าค้น พบเป็นโกดังขนาด 8 ตารางเมตร 1 ห้อง ทรัพย์สินที่พบ เป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าแบรนด์เนม ถ้วยรางวัล อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารอยู่

ขณะที่ทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดจะถูกอายัดไว้ตรวจสอบต่อไป

หายใจรดต้นคอไปเรื่อยๆ

ผู้กองไบร์ท

‘เบนซ์’ นัดมอบตัว ตร.

สําหรับการดำเนินคดีกับ 4 บ.นั้น หลังจากที่ออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ หรือเบนซ์ เดม่อน ได้ส่งทนายติดต่อขอมอบตัวในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ แต่แล้วก็มาติดต่อขอเลื่อนเป็นช่วงบ่ายวันที่ 9 กุมภาพันธ์

โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ระบุว่า หากนายชัยวัฒน์เดินทางกลับถึงไทย จะต้องผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งกรณีนี้เป็นผู้ต้องหามีหมายจับ ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ทันที การส่งทนายความประสานเข้ามอบตัว จึงไม่มีความจำเป็น

ทั้งนี้ รายงานตำรวจเชื่อว่านายชัยวัฒน์จะเข้ามอบตัว เนื่องจากหนังสือเดินทางไทยเข้าเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่อยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ทำให้นายชัยวัฒน์และน้องชายต้องออกจากฮ่องกง

ขณะที่อีก 1 บ. คือ ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร หรือผู้กองไบร์ท รองสารวัตรฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก ที่เป็นน้องคนเล็ก เดินทางกลับเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ถูกสั่งขัง 7 วัน ซึ่งเป็นการลงโทษทางวินัยที่ขาดราชการ และมีคำสั่งปล่อยเมื่อเที่ยงคืนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า จากการสอบสวน ร.ต.อ.คุณากรให้การว่าไม่ทราบว่าพี่ชายทำเว็บไซต์พนัน เพราะไม่ได้สนใจเรื่องส่วนตัวของกันและกัน แม้จะมีพิรุธอยู่บ้าง แต่เมื่อไม่มีหมายจับ เมื่อปล่อยตัวจากโทษขังแล้ว ก็ถือเป็นอิสระ จะเดินทางไปไหนก็ได้ รวมทั้งไปต่างประเทศด้วย

ต่อมาวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.คุณากรเข้าให้ปากคำ บช.สอท.อีกครั้ง ก่อนยื่นหนังสือลาออกจากราชการ ระบุสาเหตุว่าไปดูแลบิดาที่ชราภาพ

ส่วนดิว อริสรา ที่เป็นผู้เริ่มแฉนั้น ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุการเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ ปฏิเสธเป็นเรื่องแบล็กเมล์ แต่เป็นเพราะก่อนหน้านี้เคยถูกเบนซ์ที่เป็นแฟนเก่า ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ใช้มาม่าที่มีน้ำร้อนๆ ราดหัว แต่คนในบ้านนั้นไม่มีใครปกป้องหรือแม้แต่ห้ามปราม เป็นชนวนเหตุในการตัดสินใจแฉครั้งนี้

ขณะที่ความคืบหน้าของคดีคงต้องติดตามต่อไปว่าจะสาวไปถึงไหน

แต่ที่แน่ๆ เป็นหนังชีวิตแน่นอน!!!