ตี ป.ปลาหน้าไซ แก้ รธน.นายกฯ อยู่เกิน 8 ปี ยุบสภาหนี ‘ซักฟอก’

9 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สมัครสมาชิก และยืนยันสถานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อย่างยิ่งใหญ่

บิ๊กอีเวนต์ครั้งนี้ ยืนยันว่า ทุนยักษ์ใหญ่พร้อมสนับสนุนบิ๊กตู่อย่างเต็มเหนี่ยว พล.อ.ประยุทธ์ประกาศจุดยืนและจุดขายชัดเจน ด้วยการตอกการย้ำ “จุดแข็ง” ของตัวเอง คือ เรื่องรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ้ำแล้วซ้ำอีก พร้อมส่งสัญญาณ “ประเทศไทยต้องไปต่อ”

กล่าวกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ ตัวเลือกที่ดีที่สุดของปีกอนุรักษนิยม ตามมายาคติ “การเมืองของคนดี” แนวคิดที่ว่าด้วย “ให้คนดีปกครองบ้านเมือง” ที่สะกดจิตมวลชนเสื้อเหลืองมายาวนาน

แต่ปัญหาและข้อจำกัดสำคัญที่สุด คือ กติการัฐธรรมนูญที่เป็นตัวล็อกว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์จะไปต่อก็ไปต่อได้แค่ 2 ปี นั่นคือ ประยุทธ์เป็นนายกฯ ได้แค่ปี 2568 เท่านั้น

ข้อจำกัดนี้จะถูกทะลวงได้ก็ต่อเมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อก ไม่เช่นนั้น ไม่มีใครเลือกรวมไทยสร้างชาติอย่างแน่นอน เพราะแคนดิเดตพรรคนี้เป็นนายกฯ ได้แค่ 2 ปี

หายนะและข้อจำกัดนี้ อาจทำให้พรรคของประยุทธ์ได้ ส.ส.ต่ำกว่า 25 เสียง และจะเป็นการปิดสวิตช์แคนดิเดตนายกฯ ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ทันที

ถัดจากวันเปิดตัวอย่างแรงของ พล.อ.ประยุทธ์ การโยนหินถามทางจากปีกอนุรักษนิยมที่เล่นบทบาทเป็น ส.ว. ก็เปิดฉากขึ้นทันที อย่างรู้งานและรู้ใจ

13 มกราคม นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ออกมาเปิดเผยว่า กมธ.มีรายงานการศึกษาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ว่าด้วยวาระของนายกฯ ที่กำหนดว่าจะดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีไม่ได้ เนื่องจากมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันต้องพัฒนาแก้ไข เพื่อให้สอดรับกับทุกพรรคการเมือง เพราะไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งคราวต่อไป สามารถใช้กติกาดังกล่าวได้ จึงมอบให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นผู้ดำเนินการศึกษารายละเอียด

ชัดเจนที่สุดต้องนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ที่ออกมาสนับสนุนประเด็นไม่ควรจำกัดวาระนายกฯ ไว้ที่ 8 ปี ว่า “หาก พล.อ.ประยุทธ์พ้นวาระ แต่นายกรัฐมนตรีเป็นคนดี ไม่ควรจะจำกัดวาระการทำงานแค่ 8 ปี คนดีอยู่เกิน 8 ปีไม่เป็นไร แต่ถ้าได้นายกฯ ไม่ดี ผมไม่ขอเจาะจงว่าเป็นใคร ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเอง ประเด็นนี้ ส.ว.หลายคนสนับสนุนให้แก้ไข”

นี่คือการตอกย้ำมายาคติเรื่องให้คนดีปกครองบ้านเมืองอย่างชัดเจน

กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว

การโยนหินถามทางของ ส.ว.สาย พล.อ.ประยุทธ์ โดน “ทัวร์ลง” ในฉับพลันทันที จากปีกพรรคการเมืองฝ่ายค้านและนักวิชาการ

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ชี้ว่า “ชัดขนาดนี้แล้วก็อยู่ที่ประชาชนจะยอมให้คนพวกนี้ชำเรากติกาเพื่อผลประโยชน์ตัวเองอีกหรือไม่ ถ้าปล่อยให้ประยุทธ์ขึ้นเป็นนายกฯ ได้เขาทำแน่ ที่คิดกันคือสกัดเพื่อไทยไม่ให้แลนด์สไลด์ ทำรวมไทยสร้างชาติให้ได้เกิน 25 ที่นั่ง เอาเสียงพรรคร่วมรัฐบาลเดิมรวมกับ 250 ส.ว. ตั้งประยุทธ์เป็นนายกฯ ก่อน แล้วตกงูเห่าจากฝ่ายตรงข้ามด้วยกล้วยและเก้าอี้รัฐมนตรี เลือกตั้งครั้งนี้จะใช้เงินซื้อเสียงกันมหาศาล เสร็จแล้วก็จะซื้อ ส.ส.กันเป็นประวัติการณ์ นี่คือการเมืองแบบคนดีที่อ้างมาตลอด 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คุณยึดติดอำนาจ คิดแบบนี้แล้วถูกจับได้ ยางอายไม่มีหรือ”

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี สวนกลับณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประเด็นปลดล็อกวาระ 8 ปี ว่า ไม่เคยได้ยินใครพูดเรื่องดังกล่าวนอกจากนายณัฐวุฒิ และไม่มีทางจะแก้ในรัฐบาลสมัยนี้ หากแก้สมัยหน้าก็จะอยู่ที่ ส.ส. หากคิดว่าแลนด์สไลด์คุมได้ ไม่มีใครจะไปแก้อะไรได้ ต่อให้ ส.ว.รวมกัน 250 คน อีกทั้ง 250 ส.ว.ในอนาคตจะไม่ใช่เหมือน ส.ว.ในปัจจุบันเพราะในปี 2567 จะมีการเลือกตั้ง ส.ว.ทั่วประเทศ

การมาพูดเรื่องนี้ในตอนนี้ เป็นการหาเรื่องพูดให้ด่ากันเล่น เขาเรียกว่าตีปลาหน้าไซ คือกันไว้ก่อนก็ดีแล้ว

ถ้าจะเข้าใจคำว่า ตีปลาหน้าไซ ให้ชัดเจน ต้องอ้างอิงจากราชบัณฑิตยสภา ที่อธิบายสำนวนตีปลาหน้าไซ ว่าหมายถึง การพูดหรือทำอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเหตุให้กิจการของผู้อื่นซึ่งกำลังดำเนินไปด้วยดีต้องหยุดชะงักลงหรือไม่สำเร็จ เปรียบกับการจับปลาโดยใช้ไซวางไว้ในลำน้ำเพื่อดักให้ปลาเข้า เมื่อมีคนตีปลาหรือกระทุ่มน้ำตรงหน้าไซทำให้น้ำปั่นป่วน ปลาจึงตื่นหนีไปไม่เข้าไซที่ดักไว้

ไม่ใช่แค่ณัฐวุฒิที่ออกมาตีปลาหน้าไซ อดีต กกต. สมชัย ศรีสุทธิยากร เป็นอีกคนที่ออกมาตั้งคำถามว่า “ฉลาดหรือโง่” ที่ออกมาเปิดประเด็นแก้รัฐธรรมนูญให้นายกฯ เกิน 8 ปี การเปิดประเด็นแก้รัฐธรรมนูญให้นายกฯ อยู่เกิน 8 ปีได้ ทั้งๆ ที่เวลาที่เหลืออยู่ของสภาผู้แทนฯ ไม่น่าจะเพียงพอสำหรับการพิจารณา

1. ใครๆ ก็รู้ว่า สภาผู้แทนฯ จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 หลังจากนั้น แม้มีวุฒิสภา แต่ก็ไม่สามารถประชุมใดๆ ได้จนมีสภาผู้แทนฯ ชุดใหม่

2. การแก้รัฐธรรมนูญ ต้องทำในที่ประชุมรัฐสภาเท่านั้น ส.ว.ไม่มีสิทธิกระทำตามลำพัง

3. การเปิดประเด็นในช่วงนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าทำไม่ได้ จึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมกระแสนายประยุทธ์ในการเลือกตั้งว่า เลือกฉันสิ ฉันไม่ได้อยู่แค่สองปีนะ เดี๋ยวก็แก้ให้ฉันอยู่ไม่มีกำหนดได้ เพราะฉันเป็นคนดี

4. แต่คนจุดประเด็นสร้างกระแส อาจลืมไปว่า จะมีผลในทางลบ สร้างความไม่พอใจแก่คนอีกจำนวนมาก ว่า แค่นี้เอ็งยังไม่พออีกหรือ 8 ปีที่แปดเปื้อนยังไม่พอ ยังจะแก้กติกาเพื่อตัวบุคคลโดยเอาหน้ากากคนดีมาใส่อีก และจะทำให้การตัดสินใจเลือกตั้งเป็นไปในทางตรงข้าม ยิ่งถล่มทลายมากขึ้น เชิญชวน ส.ว.ทั้งหลายออกมาพูดสนับสนุนกันเยอะๆ เลยครับ พ่อคนฉลาด

นักวิชาการอย่าง ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวในรายการ The Politics 17 มกราคม อย่างน่าสนใจว่า ชั่วโมงนี้ หลายพรรคการเมืองพยายาม delete หรือลบ พล.อ.ประยุทธ์ออกจากสมการการเมือง ทำอย่างไรไม่ให้รวมไทยสร้างชาติไปไม่ถึง 25 ที่นั่ง เพราะสมการการเมืองที่ไม่มีประยุทธ์ง่ายต่อการจัดตั้งรัฐบาลมากกว่ามีประยุทธ์ในสมการการเมือง

นี่คือเหตุผลที่ ส.ว.ต้องออกมาจัดเต็มคาราเบล โยนหินถามทางปลดล็อก 8 ปี เพื่อประยุทธ์ จนทำให้ทัวร์ลงอย่างหนัก นับเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเลย

ชลน่าน ศรีแก้ว

กลางกระแสผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปต่ออย่างทุลักทุเล เกมสำคัญที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ คือ การช่วงชิงความได้เปรียบในการกดปุ่มยุบสภา ถ้ารวมไทยสร้างชาติพ้นจากสภาพวุ้นไปสู่ความพร้อมในการชิงชัยในศึกเลือกตั้ง ประยุทธ์ก็ยุบสภาได้ทันที

แต่ถ้าฝ่ายค้านใช้เวทีสภาซักฟอกประยุทธ์อย่างหนักในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์

นี่คือกระแสการเมืองที่ว่า อาจมีการยุบสภาหนีซักฟอก

ซึ่งเรื่องนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาดักคอโดยระบุว่าวิตกพอสมควรที่ฝ่ายรัฐบาลจะชิงยุบสภาก่อน โดยได้ข่าวมาว่ามีการดูฤกษ์งามยามดีในการยุบสภาไว้แล้วคือ 14 กุมภาพันธ์ 24 กุมภาพันธ์ หรือ 7 มีนาคม

ด้านสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการ The Politics 17 มกราคม ว่า สิ่งบอกเหตุยุบสภาก่อนอภิปรายซักฟอก คือ ปกติฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายซักฟอก หลังจากนั้น 1-2 สัปดาห์จะมีการอภิปราย แต่ครั้งนี้ยื่นญัตติตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2565 เพิ่งจะมีหนังสือแจ้งให้อภิปรายหลัง 15 กุมภาพันธ์ 2566 ดูผิดสังเกตมาก

จากแผนเดิมน่าจะซักฟอกรัฐบาลปลายมกราคมหรือต้นกุมภาพันธ์ กลายเป็นได้ซักฟอกปลายกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเวลาที่หมิ่นเหม่มาก เพราะจะเป็นช่วงที่ ส.ส.ย้ายสังกัดพรรค ก่อนเส้นตาย 7 กุมภาพันธ์ ช่วงนั้น สภาจะป่วนมาก เพราะองค์ประชุมจะไม่ครบ

การดึงเวลาไปยาวขนาดนั้น ทำให้เชื่อว่า รัฐบาลยุบสภาก่อนซักฟอกแน่

จากเกมโยนหินถามทางต่ออายุประยุทธ์ ถึงยุบสภาหนีซักฟอก บ่งบอกสภาพ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นอย่างดี