หนุ่มเมืองจันท์ : แรงกระเพื่อม

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

วันก่อน มีการนัดเลี้ยง “ตูน บอดี้สแลม”

เป็นการเลี้ยงส่ง “ตูน” ก่อนจะเริ่มโครงการก้าวคนละก้าว วิ่งจาก “เบตง” จังหวัดยะลา ไป “แม่สาย” จังหวัดเชียงราย

ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร

ทุกคนอยากให้กำลังใจ “ตูน”

เพราะรู้ว่าการวิ่งครั้งนี้หฤโหดมาก ต้องใช้ทั้งกำลังกายและกำลังใจมหาศาล

ผมถามเขาว่าตอนวิ่งจาก กทม. ไปบางสะพานครั้งที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นทางราบ

แต่ครั้งนี้มีหลายช่วงที่เป็นภูเขา

ที่ชัดที่สุดคือ “เบตง” และ “เชียงราย”

ระหว่างทางก็อีกเพียบ

เจอทางแบบนี้เขาจะทำอย่างไร เพราะจะกินแรงมาก

“ผมคิดไว้แล้วครับ” ตูนบอก

“ผมจะเดิน”

โห…เรียบง่ายมากเลย

ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน

ถ้าวิ่งไม่ไหว ก็เดิน

ผมหัวเราะ แล้วเสนออีกทางเลือกหนึ่ง

“ถ้าเหนื่อยมาก และเจอทางชันมาก ตูนขึ้นรถไฟเลย” ผมแนะนำ

“แล้ววิ่งบนรถไฟ”

จริงไหมครับ ไม่ผิดกติกาของตัวเองว่าจะ “วิ่ง”

ระยะทางก็เท่าเดิม

2,191 กิโลเมตร

แต่ประหยัดแรงกว่าเยอะ

หรือถ้าวิ่งถึงหาดใหญ่แล้วคนบริจาคเงินครบ 700 ล้านบาทตามเป้าหมาย

ก็ให้ “ตูน” ขึ้นเครื่องบินที่หาดใหญ่

วิ่งบนเครื่องไปลงเชียงใหม่

แล้ววิ่งจากเชียงใหม่ไปเชียงราย

แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว

เสนอ “ตูน” ไว้ก่อนครับ

เผื่อว่าแรงใจจากคนไทยมอบให้ “ตูน”

เกินความคาดหมาย

โครงการก้าวคนละก้าว เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลทั่วประเทศของ “ตูน” ครั้งนี้

สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่

มีการตั้งคำถามถึงระบบการจัดสรรงบประมาณของไทย

และอื่นๆ อีกมากมาย

แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดแรงกระเพื่อมของการสนับสนุน “ตูน” อย่างกว้างขวาง

นอกจากกลุ่มธุรกิจใหญ่จะบริจาคเงินก้อนใหญ่

ตั้งแต่ “คิงเพาเวอร์” ที่ประเดิมรายแรกบริจาคเงิน 24 ล้านบาท ดูแล “ตูน” ตลอดการวิ่ง

สนับสนุนตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียให้ทีมงานอย่างเต็มที่

และอื่นๆ อีกมากมาย

กลุ่มบริษัทกัลฟ์ ก็สนับสนุน 10 ล้านบาท

และยังมีนักธุรกิจอีกหลายคนที่บริจาคเงินหลักล้านบาทให้กับ “ตูน”

แต่ที่น่ารักที่สุดก็คือ คนไทยที่บริจาคเงินคนละเล็กคนละน้อยผ่านทุกช่องทาง

ตอนที่คุยกัน ตัวเลขขึ้นหลัก 10 ล้านแล้วทั้งที่ “ตูน” ยังไม่เริ่มวิ่ง

ผมเห็นกระแสของคนที่อยากช่วยจำนวนมาก

ทุกคนรู้สึกว่าโครงการระดมทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ครั้งนี้เป็นโครงการที่ดี

นอกจากจะมี “เป้าหมาย” ที่ดี

“เส้นทาง” ที่นำไปสู่ “เป้าหมาย” ก็งดงาม

 

…ไม่ได้ต้องการเงินจำนวนมากจากคนจำนวนน้อยๆ

แต่ต้องการเงินจำนวนน้อยๆ จากคนจำนวนมาก…

ภาพที่เสนอมาก็ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม

…ขอเพียงแค่เงินคนละ 10 บาทจากคนไทย 70 ล้านคน…

แค่นี้ก็ได้ 700 ล้านบาทตามเป้าหมายแล้ว

ถ้าโครงการนี้สำเร็จ ผมเชื่อว่าจะสร้าง “ความหวัง” และ “แรงบันดาลใจ” ให้ “คนตัวเล็ก” จำนวนมาก

เขาได้รู้ว่า “พลัง” ของเขามีความหมาย

ขอเพียงแค่รวมตัวกัน และมีเป้าหมายเดียวกันที่เด่นชัด

…แค่นั้นเอง

นอกเหนือจากนักธุรกิจใหญ่ “จำนวนน้อย” ที่บริจาคเงิน “จำนวนมาก”

ผมเห็นคนหลายคนที่อยากช่วยระดมทุนให้ “ตูน”

ทำเป็นกลุ่มเล็กๆ

โรงพยาบาลบางสะพานก็ทำ “เสื้อ” ขายเพื่อนำเงินเข้าโครงการนี้

แป๊บเดียวหมดครับ

โรงพยาบาลหลายแห่งก็ทำคล้ายๆ กัน

คนในพื้นที่ก็ช่วยซื้อกันเต็มที่

เพราะรู้ว่าเงินก้อนนี้จะนำไปช่วยใคร

ในเฟซบุ๊กของผม เมื่อประมาณกลางเดือนตุลาคม มีน้องคนหนึ่งทำร้านหมูกระทะ

เธอกำลังคิดหาวิธีระดมทุนจากการขายหมูกระทะมาบริจาคให้ “ตูน”

น่ารักมาก

เสียดายไม่ได้ตามต่อว่าโครงการนี้ไปถึงไหนแล้ว

หรือ “กอล์ฟ” น้องคนหนึ่งที่เรียน ABC รุ่น 7 ฟัง “ตูน” ไปเล่าเรื่องโครงการก้าวทีละก้าว

เขาเป็นนักกินชั้นเทพ

รู้จัก “เชฟดัง” หลายคน

“กอล์ฟ” ชวนเชฟดังๆ 3-4 คนมาร่วมทำบุญกัน

เขาลงทุนวัตถุดิบ เชฟลงแรง

ชวนเพื่อนๆ มากินเป็นเมนูพิเศษ คิดค่ากินต่อหัวค่อนข้างสูง

รายได้ทั้งหมดบริจาคเข้าโครงการนี้

ได้ไปเยอะทีเดียว

ผมเห็นแรงกระเพื่อมแบบนี้หลายกลุ่มมาก

แม้แต่ตัวเองยังอดไม่ได้เลยครับ

ตอนที่ช่วยสำนักพิมพ์มติชนขายหนังสือ “ชีวิตผิดได้” ทางเฟซบุ๊กของผม

อย่างที่เคยเล่าไปว่าตอนแรกจะลดราคาสัก 10% หรือ 20 บาท

แต่คิดอีกที เอาเงินก้อนนี้ไปทำบุญซื้ออุปกรณ์การแพทย์ดีกว่า

ถือว่าทำบุญร่วมกับผู้อ่าน

ไม่ต้องรอเจอกันอีกในชาติหน้า

แค่หวังว่าจะผูกพันกันมากขึ้นในชาตินี้

ระดับเจอหนังสือเล่มใหม่เมื่อไร

…ซื้อเลย

ผมบอกกับคนอ่านตรงๆ ว่า 20 บาทนี้จะบริจาคเข้าโครงการก้าวคนละก้าว

เปิดให้สั่งซื้อ 2 ล็อต มีคนสั่งซื้อมา 2,003 เล่ม

เงินก้อนนี้บวกกับเงินจากผู้ใหญ่ใจดีบางคน

และผมนำค่าเรื่องบางส่วนสมทบทุนเพิ่มให้ครบ 70,000 บาท

เหตุผลที่ตั้งใจให้เป็นตัวเลข 70,000

เพราะเป็นเลข 7 ตามเป้าหมายของ “ตูน”

แต่ของเขา 700 ล้านบาท

ของผู้อ่าน 70,000 บาท

ถ้าเทียบกับ 10 บาทที่ “ตูน” ขอจากคนไทย

มันเยอะมาก

แต่ถ้าเทียบกับ 700 ล้านบาท

มันน้อยมาก

แค่ 0.01% ของเป้าหมาย

แต่นึกเล่นๆ ว่าถ้ามีคนลุกขึ้นมาทำ 0.01% เยอะๆ

แค่ 10,000 คน จาก 70 ล้านคน

0.01% จะกลายเป็น 100%

70,000 บาท จะกลายเป็น 700 ล้านบาททันที

ส่วนหนึ่งที่ผมชอบโครงการนี้มาก เพราะสร้างแรงกระเพื่อมให้คนทุกกลุ่ม

ใครมีมากช่วยมาก

ใครมีน้อยช่วยน้อย

ทำให้สิ่งที่คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้

ให้กลายเป็นจริง

แค่คิดก็มีความสุขแล้วครับ