เผยแพร่ |
---|
การตั้งคำถามต่อสถานะและการดำรงอยู่ของ “คสช.” ว่าไม่เหมือนเดิมเปราะบางต่อความเข้าใจผิดเป็นอย่างสูง
จะเป็นไปได้อย่างไร
ในเมื่อ “อำนาจ” ก็ยังอยู่ในมือของคสช.ครบถ้วน ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังนั่งอยู่หัวโต๊ะ
มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ความช่วยเหลือใกล้ชิด
กระนั้น คำถามนี้ได้นำไปสู่การเปรียบเทียบอันละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่ง
เปรียบเทียบกับเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เมื่อผ่านเดือนพฤษภาคม 2558 เมื่อผ่านเดือนพฤษภาคม 2559 เมื่อผ่านเดือนพฤษภาคม 2560
“สถานะ” ของคสช.จะยัง “เหมือนเดิม” อีกหรือ
จุดเปลี่ยนที่มี่ผลสะเทือนเป็นอย่างสูงต่อสถานะและการดำรงอยู่ของคสช.เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560
เมื่อประกาศและบังคับใช้ “รัฐธรรมนูญ”
แน่นอน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างตามพิมพ์เขียวอันกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ครบถ้วนและอาจจะล้นเกินด้วยซ้ำ
นี่คือ หลักประกันสำคัญในทางการเมือง
กระนั้น ภายในหลักประกันจากรัฐธรรมนูญนี้เองที่ทำให้ต้องมีองค์ประกอบอื่น ปัจจัยอื่นทางการเมืองตามมา
ต้องมี “กฎหมายลูก”
ต้องนำไปสู่”การปลดล็อก”พรรคการเมือง เพื่อตระเตรียมและเคลียร์พื้นที่ก่อน “การเลือกตั้ง”
และ”การเลือกตั้ง”นั่นแหละคือปัจจัยที่ยากจะปัดปฏิเสธได้
นับแต่เดือนเมษายน 2560 เป็นต้นมา ปัจจัยใหม่ๆในทางการเมืองได้ค่อยๆก่อรูปขึ้น
บทสรุปจาก “พรรคประชาธิปัตย์”ก็คือ
การเมืองไทยได้ก้าวเข้าสู่กระบวนการของ”การเลือกตั้ง”แล้ว
เพียงแต่จะเป็นเมื่อใดเท่านั้น
นี่คือ ปัจจัยซึ่งดำเนินไปในลักษณะ “กดดัน”
“อำนาจ”ยังอยู่ในมือคสช.แน่นอน แต่ก็เป็นอำนาจที่มีความจำเป็นต้องคลายลงเชิงเปรียบเทียบกับเมื่อ 3 ปีก่อน
เราจะทำตาม “สัญญา” ขอ “เวลา” อีกไม่นาน