ทางรอดอยู่ในครัว : เดินไปตลาดได้มื้อเช้าอร่อย | อุรุดา โควินท์

ทางรอดอยู่ในครัว : เดินไปตลาดได้มื้อเช้าอร่อย

 

วันก่อนฉันไปทำผม พอทำเสร็จ ฉันโทร.ให้เขามารับกลับบ้าน บังเอิญเขากำลังพาหมาเดินออกกำลังกาย ถ้ารอนั่งรถกลับ ก็น่าจะสักครึ่งชั่วโมง ฉันยืนหน้าร้านทำผมราว 5 นาที เป็น 5 นาทีที่ยาวนานเกินไป ฉันจึงตัดสินใจเดินกลับบ้าน

หนทางไม่ได้ไกล เป็นเราเองที่เอะอะก็นั่งรถ ได้เดินช้าๆ ตอนเย็น ฉันรู้สึกดีบอกไม่ถูก มีต้นกระถินข้างทางหลายต้น (ไว้วันไหนทำน้ำพริกจะมาเก็บ) ได้เห็นบ้านบางหลังที่ไม่เคยเห็น เห็นที่ดินว่างเปล่า และเจอหมาน่ารักมากสองตัว

เดินเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด เพียงแต่พอคิดว่าเราต้องเดินออกกำลังกายสักครึ่งชั่วโมง มันดูไร้จุดหมาย (จะไปทางไหน จะวนซอยใดให้ครบครึ่งชั่วโมง) ฉันจึงเกิดไอเดียใหม่ เดินไปตลาดเด่นห้าตอนเช้าน่าจะไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ไป-กลับราวหนึ่งชั่วโมง ได้ออกกำลังกาย และได้จ่ายตลาดซื้อของกลับมาทำอาหารกิน

ฉันจึงตื่นแต่เช้า ดื่มน้ำอุ่นสองแก้ว แล้วเดินไปตลาด อากาศดีมาก เริ่มได้กลิ่นฤดูหนาว เป็นอย่างที่คาด ใช้เวลา 25 นาที เดินลัดเลาะในซอย ออกทางถนนใหญ่หน้าค่าย มุ่งหน้าสู่ตลาด ระหว่างทางก็จินตนาการว่าจะทำอะไรกินดี ตลาดเด่นห้ามีของขายไม่มาก แต่มีกะทิสดที่คั้นดีมาก หรือจะแกงเขียวหวานกินกับขนมจีน

หิ้วขนมจีนหนึ่งกิโล กะทิ ไก่ และอื่นๆ กลับบ้านน่าจะไม่ไหว หนักเกินไป คงต้องหาอาหารที่วัตถุดิบเบา

 

ก่อนถึงตลาด ฉันเจอคุณยายใส่ชุดขาวมารอใส่บาตร

“ไปไหนคะนี่” ยายถาม

“จ่ายตลาดค่ะ”

“ไม่เอามอเตอร์ไซค์ไปล่ะลูก”

“เดินก็ดีนะคะ อากาศดี”

“มันไม่มีทางเท้า หนูต้องระวังหน่อยนะ” ยายเตือน

สิ้นเสียงยาย ฉันเพิ่งคิด ใช่ ไม่มีทางเท้าให้เดิน ตลอดเส้นทาง ฉันเดินริมถนน ไม่ใช่ทางเท้า

น่าแปลกที่ไม่มีใครคิดทำทางเท้า และฉันไม่ค่อยเห็นคนเชียงรายเดินเท้า ถนนเต็มไปด้วยมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานไฟฟ้า รถจักรยานแบบถีบ แต่ไม่มีใครเดิน

เมื่อคิดว่าฉันเป็นคนเดียวที่กำลังเดินอยู่บนถนนสายนี้ ก็ให้รู้สึกฮึกเหิม

เสียก็แต่ เมื่อเข้าตลาดไป ดูไม่ค่อยมีอะไรให้ซื้อ ลูกค้าครึ่งตลาดยืนรอหน้าร้านข้าวเหนียวสังขยา…กินขนมกันแต่เช้าเชียว

มีหมูขายเขียงเดียว มีไก่ทอด ไม่มีไก่สด พ่อค้าปลาไม่มาขาย

ฉันลืมไปว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ พ่อค้าแม่ขายจะน้อยลง จากที่น้อยอยู่แล้ว ดูเหมือนแทบไม่เหลือวัตถุดิบให้จินตนาการ

ค่อยละเลียดดูทีละแผง หมายตาปลาดุกย่างไว้ ถ้าไม่มีอะไร ก็จะซื้อปลาดุกย่างไปกินกับข้าว แล้วผัดผักอีกสักอย่าง

แต่แล้วก่อนกลับฉันเจอร้านหนึ่ง ขายมะเขือยาวย่าง ย่างมาอย่างดี ลอกเปลือกออกเรียบร้อย นอกจากมะเขือยาว ก็มีพริกย่าง หอมย่าง กระเทียมย่างด้วย

จะไม่ทำตำมะเขือได้อย่างไรเล่า ถ้ามีของตรงหน้าขนาดนี้

ตำมะเขือเป็นของโปรด แต่ไม่ค่อยได้กิน สารภาพว่าไม่ชอบย่างมะเขือ รู้สึกว่ามันเสียเวลาจัง ครั้นซื้อกินก็ไม่ค่อยถูกปาก เพราะหอมกับกระเทียมย่างน้อยเกินไป

ได้ชุดทำมะเขือย่าง ฉันแวะซื้อข้าวนึ่งครึ่งกิโล แล้วเดินกลับบ้าน จ่ายเงินไป 65 บาท ได้มื้อเช้าของเราสองคน

ตำมะเขือต้องกินกับไข่ต้ม พอเดินถึงบ้าน ฉันรีบเปิดเตาสองเตา ตั้งหม้อต้มไข่หนึ่งเตา อีกเตา ย่างหอมกับกระเทียมเพิ่ม

ตำมะเขือจะอร่อยขึ้นมาก ถ้าเราหนักมือกับหัวหอมย่าง และกระเทียมย่าง พริกนั้นใช้ทั้งพริกหนุ่มและพริกจินดาแดง จะได้รสเผ็ดกำลังดี

ย่างหอมแดงกับกระเทียมด้วยกระทะเทฟลอน ต้องการไฟอ่อน และเวลา รอให้สุก ให้ข้างในนิ่ม ทิ้งไว้ให้เย็นค่อยปอกเปลือก หย่อนลงครก มีเท่าไหร่ใส่ให้หมด ยิ่งเยอะยิ่งอร่อย

หอมกับกระเทียมแล้ว ทีนี้ก็พริกย่าง ใส่ลงครกตามไป หยอดเกลือสักหน่อย แล้วตำให้ทุกอย่างแหลก

ควรใส่ฮ้าแห้ง หรือน้ำปลาร้าสักหน่อย แต่ถ้าไม่มี ก็หย่อนกะปิก้อนน้อยลงครก ตามด้วยมะเขือย่าง

ตำ และตำ และตำ ให้ทุกอย่างเข้ากัน ถ้ายังจืด เติมเกลือ หรือน้ำปลา น้ำตาลไม่จำเป็น เพราะทั้งมะเขือเผา และหัวหอมเผา มีรสหวานปลายลิ้น

ไข่ต้มควรเป็นไข่ต้มแข็ง สุกจนถึงไข่แดง ปอกแล้วบิเป็นชิ้นเล็กๆ วางไว้ข้างจานรอตำมะเขือ

สำหรับฉัน การผัดตำมะเขือด้วยไฟอ่อนก่อนเสิร์ฟทำให้มันอร่อยแบบทวีคูณ

ใช้น้ำมันน้อยๆ เจียวหอมกับกระเทียมให้หอม แล้วตักตำมะเขือจากครกลงไปผัด ใช้ไฟอ่อน ค่อยๆ ผัดให้ร้อน

ใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย

 

ฉันไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอกนะ นี่เป็นตำมะเขืออร่อยที่สุดในรอบปี ถึงพริกถึงหอมถึงกระเทียม เผ็ดเค็มกำลังดี

ข้าวเหนียวครึ่งกิโลกรัมหมดเกลี้ยง ตำมะเขือกับไข่ต้มก็หมด เราคงอิ่มไปจนบ่าย

ฉันเริ่มติดใจการเดินไปตลาดยามเช้าแล้วล่ะสิ •

 

ครัวอยู่ที่ใจ | อุรุดา โควินท์