E-DUANG : “รับ” และ “รุก” ทาง “การเมือง”

เหมือนกับคำสัญญาที่ว่าจะ “ปลดล็อก” พรรคการเมืองในเดือนพฤศจิกายน เป็นการ “รุก” ในทางการเมือง

เป็นการรุกต่อเนื่องจาก “ปฏิญญา ทำเนียบรัฐบาล”

โดยการกำหนดการประกาศเลือกตั้งในเดือนมิถุนายน 2561 ว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2561

เป็นรูปธรรมแห่ง “การรุก”ในทางการเมืองจริงหรือ

ในเมื่อ “ปฏิญญา ทำเนียบขาว” ยืนยันว่าเดือนพฤศจิกายน 2561 จะประกาศวันเลือกตั้ง

ในเมื่อ “แผนปลดล็อก” เดิมเป็นอีกอย่าง

นั่นก็คือ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ล้วนมีพิมพ์เขียวตรงกัน

ปลดล็อก” เมื่อ “กฎหมายลูก” เสร็จ

 

ลักษณะที่ไม่ว่าหมายกำหนดในเรื่อง “ปลดล็อก” หรือคำประกาศเรื่อง “การเลือกตั้ง” ล้วนคลาดเคลื่อน

นี่คือ สภาวะไม่แน่นอน ควบคุมไม่ได้

ทุกอย่างดำเนินไปในแบบ “จำต้องเป็น” มิได้ดำเนินไปในแบบด้วยความสุกงอม และเต็มใจ

เท่ากับสะท้อนว่า “แผน” มิได้เป็นไปตาม “แผน”

สภาพการณ์เช่นนี้ไม่ว่าจะมองผ่านแว่น”การเมือง”ไม่ว่าจะมองผ่านแว่น “การทหาร”

ย่อมมิใช่ “การรุก” หากแต่เป็น “การรับ”

ทั้งยังเป็นการรับในลักษณะเป็น”การตั้งรับ”อย่างถูกรุกถูกกระทำจากอีกฝ่าย

ถามว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

 

หากมองตามความเคยชินของ “คสช.” หรือบรรดา “ลูกแหล่งตีนมือ” ที่ห้อยโหนโจนทะยานอยู่โดยรอบ

ก็ต้องมองว่าเป็น “เพื่อไทย”

แต่คำถามที่ตามมาก็คือ แรงกดดันจาก “สหรัฐอเมริกา” แรงกดดันจาก “สหภาพยุโรป”

ยากที่จะมองและประเมินว่าเป็น “เพื่อไทย”

ความเรียกร้องต้องการนี้ยังมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ยังมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา ยังมาจากพรรคภูมิใจไทย ยังมาจากพรรคชาติพัฒนา

ทั้งหมดนี้คือแรงกดดันจาก”พลังประชาธิปไตย