มติ ก.ต.ช. 6:0 ตั้ง ‘บิ๊กเด่น’ ผบ.ตร. ‘บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่อ’ ขยับรอง ผบ.ตร. ‘สำราญ’ ขึ้น ผช.ผบ.ตร.-‘ธิติ’ น.1/บทความโล่เงิน

บทความโล่เงิน

 

มติ ก.ต.ช. 6:0 ตั้ง ‘บิ๊กเด่น’ ผบ.ตร.

‘บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่อ’ ขยับรอง ผบ.ตร.

‘สำราญ’ ขึ้น ผช.ผบ.ตร.-‘ธิติ’ น.1

 

ในที่สุดการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อ 29 สิงหาคม ลุล่วงไปด้วยดี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่ พล.อ.ประวิตรได้กลับมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อีกครั้ง เพื่อทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม บรรยากาศเป็นไปด้วยความราบรื่น

แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวจะรื้อโผฉบับเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนยุติปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว

แต่ในที่สุดผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งส่วนใหญ่เป็นโผเดิม

 

ก.ต.ช.มีมติ 6 : 0 ให้ “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ (นรต.38) อาวุโสอันดับ 2 ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 13

ถัดจากนั้นที่ประชุม ก.ตร.พิจารณาบัญชี 254 นายพล ที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เสนอไว้ นั่นคือ ผช.ผบ.ตร. เลื่อนเป็นรอง ผบ.ตร. 4 ราย, ผช.ผบ.ตร. หมุนเวียน 1 ราย, ผบช.เลื่อนเป็น ผช.ผบ.ตร. 6 ราย, ผบช.หมุนเวียน 7 ราย, รอง ผบช.เลื่อนขึ้นเป็น ผบช. 16 ราย, รอง ผบช.หมุนเวียน 23 ราย, ผบก.เลื่อนเป็นรอง ผบช. 40 ราย, ผบก.หมุนเวียน 71 ราย และรอง ผบก.เลื่อนขึ้นเป็น ผบก. 86 ราย

สำหรับ “บิ๊กเด่น” นั้น เป็น ตท.22 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เพราะฉะนั้น สายสัมพันธ์ทางทหารของ “ว่าที่ ผบ.ตร.” ย่อมไม่ธรรมดา

เกษียณอายุ 30 กันยายน 2566

เส้นทางราชการผ่านงานสายโรงพัก เริ่มรับราชการครั้งแรกปี 2528 ตำแหน่ง รอง สวส.สน.พลับพลาไชย เขต 2 ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ รอง ผกก.ป.สน.บางรัก ผกก.สน.คลองตัน แล้วขยับขึ้นรอง ผบก.191,รอง ผบก.อคฝ. เลื่อนขึ้นเป็น ผบก.อำนาจเจริญ แล้วย้ายเข้าเมืองกรุง นั่ง ผบก.น.2 ยุค พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา (ยศในสมัยนั้น) เป็น ผบช.น.

จากนั้นโดนพิษการเมืองเป็น ผบก.พะเยา แล้วอัพเก้าอี้เป็นรอง ผบช.ภ.5 และ ผบช.สกพ. ตามลำดับ ก่อนย้ายมาขึ้นผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และโยกเป็น ผบช.ภ.3 จากนั้นสไลด์ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. ต่อเนื่องจนเป็นรอง ผบ.ตร.

ว่าที่ “พิทักษ์ 1” เคยเอ่ยกับคนใกล้ชิดว่า อยากจะสานต่อนโยบายทุกอย่างต่อจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ ที่จะเกษียณอายุ 30 กันยายนนี้ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ด้วยทุกนโยบายที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์เคยทำไว้ ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งสิ้น

“หัวใจของการทำงานให้มีประสิทธิภาพ คือการติดตามและประเมินผล” เป็นคำที่ “บิ๊กเด่น” มักกล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ

 

สําหรับรอง ผบ.ตร.ว่าง 4 ตำแหน่ง มี ผช.ผบ.ตร. 4 คนได้ขึ้น ดังนี้ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผช.ผบ.ตร. (นักเรียนนอก) อาวุโสอันดับ 1 พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผช.ผบ.ตร. (นรต.41) พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผช.ผบ.ตร. (รัฐศาสตร์ มธ.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. (นรต.47)

ระดับ ผช.ผบ.ตร.ว่าง 6 ตำแหน่ง โยกสลับ 1 ตำแหน่ง มี ผบช.ได้รับแต่งตั้ง ดังนี้ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผบช.ศ. (นรต.43) อาวุโสอันดับ 1 พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. (นรต.41) อาวุโสอันดับ 2 พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผบช.รร.นรต. (นรต.42) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. (นรต.50) พล.ต.ท.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ ผบช.กมค. (นรต.40) พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ ผบช.สพฐ.ตร. (นรต. 41) ขณะเดียวกันมีการโยกสลับ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง จตช. (นรต.41) เป็น ผช.ผบ.ตร.

ระดับ ผบช.แต่งตั้งหมุนเวียน 23 ตำแหน่ง ที่ถือว่าเป็น “ม้ามืด” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 (นรต.40 ) สไลด์นั่ง ผบช.น. ตามแรงส่งของ “บิ๊กปั๊ด” ที่คิดแล้วว่า “มือถึง” คุมนครบาลอยู่ เบียด พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. (นรต.40) ที่มาแรงตกโค้งสุดท้าย

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สกพ. (นรต.43) เป็น ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ส. (นรต.42) สายตรง “ผบ.ปั๊ด” โยกเป็น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ทำหน้าที่ประสานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย (นรต.40) โยกเป็น ผบช.ส. พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐ์พงศ์ ผบช.สยศ.ตร. (นรต.42) โยกเป็น ผบช.สกบ. พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จตร. (นรต.43) โยกเป็น ผบช.สพฐ.ตร.

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.สตม. (นรต.41) เลื่อนเป็น ผบช.สกพ. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ รอง ผบช.น. (นรต.40) หน้าห้อง ผบ.ตร. เลื่อนเป็น ผบช.รร.นรต. พล.ต.ต.อนุชา รมยนันท์ (นรต.43) รอง ผบช.สกพ. เลื่อนเป็น ผบช..ก.ตร.

พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบช.ก. (นรต.40) เลื่อนเป็น ผบช.สอท. หรือ “ผู้บัญชาการไซเบอร์” ถือว่าเป็นเก้าอี้ใหญ่ที่ผู้ใหญ่วางตัวไว้

พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต (นรต.40) รอง ผบช.ภ.7 เลื่อนเป็น ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ (นรต.46) รอง ผบช.น. เลื่อนเป็น ผบช.กมค. พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. (นรต.39) เลื่อนเป็น ผบช.ศ. พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ส. (นรต.42) สายตรง ผบ.ตร. ขยับไปเป็น ผบช.ภ.8

 

สําหรับตำแหน่งสำคัญ อาทิ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร (นรต.38) ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม (นรต.42) ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 (นรต.39) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 (นรต.38) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี (นรต.41) ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 (นรต.38) พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ (นรต.39) ผบช.สตม. อยู่ที่เดิม เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช (นรต.50) ผบช.ก. สมัครใจไม่ขยับ

ระดับ ผบก.-รอง ผบช. ที่น่าสนใจ อาทิ พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ (นรต.42) ผบก.สส.จชต. โยกเป็น ผบก.ภ.จว.ยะลา พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา (นรต.46) เลื่อนเป็นรอง ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. (นรต.46) เลื่อนเป็นรอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.ภ.2 (นรต.47) โยกเป็น ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล รอง ผบก.สปพ. (นรต.45) ขึ้นเป็น ผบก.สปพ. (191)

ติดตามต่อว่า บัญชี “รอง ผบก.-ผกก.” ยุคบิ๊กเด่น ราวเดือนตุลาคมจะมีความเป็นธรรม ยึดความรู้ความสามารถ และอาวุโส มากกว่า “ตั๋ว” แค่ไหน?