ฟ้า พูลวรลักษณ์ : หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (132) : วิกรม กรมดิษฐ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์


เมื่อ คุณวิกรม กรมดิษฐ์ บอกว่า

๑ สังคมนี้ไม่มีเหตุผล

๒ สังคมนี้ไม่มีความยุติธรรม

๓ สังคมนี้ไม่มีน้ำใจ

คำพูดเหล่านี้ถูกต้องทุกอย่าง ที่น่าพิศวงคือผู้พูดคือคุณวิกรม ที่เป็นนักคิด นักเขียน นักปราชญ์ เขาไม่รู้มาก่อนเลยหรือ เขาน่าจะรู้นะ มันง่ายดายออก หรือเหมือนคนในสังคมจำนวนมาก ที่สิ่งแสนจะธรรมดา ต้องเกิดกับตัวเองก่อน จึงจะรู้

ข้อดีของคุณวิกรมมีมากมาย ฉันจะไม่พูดถึง แต่จะพูดถึงเฉพาะข้อเสีย คือ

๑ น่าอิจฉา

๒ น่าหมั่นไส้

และในโลกของโซเชียลมีเดีย สองคุณสมบัตินี้ ย่อมดึงดูดฝูงยุง และฝูงแมลงวัน เผ่าพันธุ์ที่ชอบมาไต่ตอม สิ่งที่น่าอิจฉา และน่าหมั่นไส้

ในยุคโบราณคุณวิกรมก็จะถูกอิจฉาและหมั่นไส้อยู่ดี

แต่ในยุคนี้ มันจะกระหึ่มด้วยเสียงยุงและแมลงวัน บินมาไต่ตอมจนแทบหายใจไม่ออก

โซเชียลมีเดีย

คือโลกของคนขี้อิจฉา ขี้หมั่นไส้ ขี้นินทา


นกตัวเดียว สร้างปัญหาให้คุณวิกรมได้มากมาย

แต่อย่าว่าแต่นกตัวเดียวเลย ที่จริงเห็บตัวเดียว หมัดตัวเดียว ก็สร้างปัญหาได้มหาศาล

หินก้อนเดียว กรวดก้อนเดียว ก็สร้างปัญหาได้ ถึงระดับดับสูญ

๑ ถ้านกเงือกตัวนี้ไปอยู่ในบ้านคนธรรมดา จะไม่มีใครมองเห็น

๒ ถึงเห็นก็ไม่สังเกต

๓ ถึงสังเกตก็ไม่ว่าอะไร

๔ ถึงว่าก็ไม่เป็นข่าว

แต่ละบรรทัดที่ขับเคลื่อนนี้ คือความไม่เป็นธรรมของสังคม ทำให้ฉันคิดถึงทักษิณ เขามีข้อเสีย ซึ่งหนักกว่าคุณวิกรมเสียอีก คือ

๑ น่าอิจฉา

๒ น่าหมั่นไส้

๓ น่าหวาดระแวง

๔ น่ากลัว

คุณวิกรมยังไม่น่าหวาดระแวง ไม่น่ากลัว

ดังนั้น ความไม่ยุติธรรม ไม่มีเหตุผล ไม่มีน้ำใจ ที่กระหน่ำคุณทักษิณ จึงแรงกว่าสิบเท่าร้อยเท่า

คุณวิกรมฉลาดกว่าคุณทักษิณ จึงไม่เล่นการเมือง

เอาตัวรอดได้ดีกว่า พลิ้วกว่า เสเพลกว่า เป็นศิลปินมากกว่า

น่าประหลาด ที่คุณทักษิณกลับซื่อกว่า

คนมีอุดมการณ์ทางการเมืองล้วนเป็นคนซื่อ

ฉลาดแค่ไหน ก็คือซื่อ


สังคมไม่มีเหตุผล

๒ สังคมไม่มีความยุติธรรม

๓ สังคมไม่มีน้ำใจ

ยิ่งคิดก็ยิ่งซึ้ง แต่ที่ยิ่งซึ้งเพราะผู้พูดคือคุณวิกรม คนที่วันนี้จัดอยู่ในกลุ่มอภิสิทธิ์ชน สามารถเดินทางไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินส่วนตัว มีบ้านที่เป็นปราสาทราชวัง สามารถสร้างฮาเร็มถ้าต้องการ หากเขาบ่นหรือคร่ำครวญ เสียงของมันจะดังสนั่นหวั่นไหว เหมือนมีลำโพงยักษ์

โดยไม่ได้ตั้งใจ คุณวิกรมได้เป็นกระบอกเสียงยักษ์ของพวกยากไร้

หากบรรดามหาเศรษฐีออกมาคร่ำครวญว่า

๑ สังคมไม่มีเหตุผล

๒ สังคมไม่มีความยุติธรรม

๓ สังคมไม่มีน้ำใจ

เสียงของมันจะดังไปถึงดวงจันทร์

ฉันเคยเห็นเศรษฐีที่คุกเข่าลง บอกว่า

สงสารหนูเถอะ ที่บ้านหนู ไม่มีเงินจะกินข้าว

คำพูดนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก เสียงนี้ก้องกังวาน แทงทะลุใจ

ผู้ฟังจะมึนงง ตอบไม่ออก ไม่รู้ตัวเองตกอยู่ในโลกไหน

ถ้าบรรดาตระกูลใหญ่ออกมาคร่ำครวญ

๑ สังคมไม่มีเหตุผล

๒ สังคมไม่มีความยุติธรรม

๓ สังคมไม่มีน้ำใจ

ถ้อยคำนี้จะกลายเป็นคำคลาสสิค กรีดลึกลงไปในจักรวาล บัดนี้เสียงของมัน คงล่องลอยออกไปไกลถึงดาวพฤหัสฯ ดาวเสาร์ และล่องลอยออกไปอีก

การสื่อสารนี้ ได้ไปถึงหูมนุษย์ต่างดาว