ภูมิใจไทย ภูมิใจเสนอ นายกฯ ‘ไอ้หนู’ ทำได้จริง ทำได้เลย/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

ภูมิใจไทย ภูมิใจเสนอ

นายกฯ ‘ไอ้หนู’

ทำได้จริง ทำได้เลย

 

ใกล้เข้าสู่ช่วงครบวาระ 4 ปี ของสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน ที่จะหมดวาระในช่วงเดือนมีนาคม 2566 ท่ามกลางสภาวะทางการเมืองที่คุกรุ่นรายวัน บวกกับประเด็นใหญ่อย่างเรื่อง 8 ปีของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็ยังเป็นเรื่องที่ถูกจับตาอย่างหนักว่าจะจบลงอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์จะได้ไปต่อด้วยกลไกและช่องโหว่ที่พร้อมรองรับให้อยู่ต่อ หรือต้องลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ยังเป็นสิ่งที่สังคมเฝ้ารอคำตอบ

หนึ่งปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัด ท่ามกลางบทสรุป 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ที่ยังรอคำตอบ นั่นก็คือการที่พรรคการเมืองเริ่มขยับเตรียมความพร้อมรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 ด้วยการออกไปพบปะพี่น้องประชาชนในจังหวัดต่างๆ เพื่อเรียกคะแนนและสร้างความนิยมไว้รอการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ไล่เรียงมาตั้งแต่ “พรรคเพื่อไทย” ที่บุกลงพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ อันเป็นฐานคะแนนเสียงที่ใหญ่ที่สุดของพรรคมาโดยตลอด โดยมี “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ร่วมลงพื้นที่ปลุกกระแสแลนด์สไลด์ตามเป้าหมายที่พรรคตั้งไว้

ขณะที่ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่มี “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เป็นหัวหน้าพรรค ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ระดมขุนพลของพรรคจัดเวทีโชว์ผลงานรัฐบาล ประกาศศักดาพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งลงพื้นที่จังหวัดในภาคอีสานและจังหวัดต่างๆ

ส่วนพรรคอื่นๆ อย่าง “ก้าวไกล” หรือ “ภูมิใจไทย” ก็เริ่มเคลื่อนไหวตามมาติดๆ เช่นกัน

 

การเคลื่อนไหวของพรรคต่างๆ ไม่ได้มีแค่การลงพื้นที่เพียงอย่างเดียว แต่หนึ่งสิ่งที่เห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ คือ นักการเมืองหลายคนเริ่มส่งสัญญาณความพร้อมที่จะกระโจนลงไปชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ส่งสัญญาณออกมาอย่างชัดเจนว่าพร้อมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากประชาชนให้โอกาสทั้งตนและพรรค

แต่ทว่า หนึ่งคนที่แย่งซีนแย่งกระแสในการลงชิงนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากที่สุดในตอนนี้ เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ล่าสุดลงพื้นที่ จ.ลพบุรี พร้อมกับ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรค คณะผู้บริหารพรรค และทีม ส.ส.กว่า 30 คน ขึ้นเวทีปราศรัย “พูดแล้วทำ” ณ ลานตากพืช สำนักงานขนส่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ลพบุรีทั้ง 4 เขต หวังครองเก้าอี้ครบทุกเขต โดยเฉพาะเขต 1 ที่ได้ “ประทวน สุทธิอำนวยเดช” อดีต ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ ที่เปลี่ยนค่ายย้ายมาร่วมงานกับภูมิใจไทยอย่างเต็มตัว

โดยช่วงหนึ่งของการกล่าวปราศรัย นายอนุทินได้กล่าวขอบคุณพี่น้องชาวลพบุรีที่ให้ความไว้วางใจเลือก ส.ส.พรรคภูมิใจไทยมาตลอด แถมยังบอกอีกว่า จังหวัดไหนได้ ส.ส.ยกจังหวัด จังหวัดนั้นต้องมีรัฐมนตรี การเลือกตั้งครั้งหน้าจึงวอนขอพี่น้องชาวลพบุรีเลือกผู้สมัครของพรรคทั้งหมด แต่ที่สร้างความฮือฮาหนักมากก็คือคำกล่าวของนายอนุทินที่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัด ว่าพร้อมแล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี

“นโยบายพรรคภูมิใจไทย จังหวัดไหนยกจังหวัด จังหวัดนั้นต้องมีรัฐมนตรีครับ ถ้าพี่น้องให้โอกาสต่อไปก็จะทำให้มากขึ้นกว่านี้ เที่ยวนี้ 3 กระทรวง เที่ยวหน้าขอสัก 6 กระทรวงได้ไหมครับพี่น้อง พี่น้องเลือกมาเต็มๆ เลย ไม่ต้องเกรงใจพวกผม เลือกให้เยอะๆ พวกผมจะได้มีแรงมาทำงานให้พี่น้องอย่างเต็มที่ ตำแหน่งอะไรช่างหัวมัน ถ้าเลือกมาเยอะๆ จำเป็นจะต้องเป็นนายกฯ ก็เป็นครับ จะได้ทำงานกับพี่น้องได้ พี่น้องจะได้เรียกนายกฯ พี่น้องว่าไอ้หนู ถ้าเรียกท่านอนุทินเมื่อไหร่ลาออกเลยครับ”

 

ประเด็นนี้ถูกสังคมพูดถึงเป็นอย่างมาก ว่าถึงเวลาแล้วใช่หรือไม่ ที่คนอย่างอนุทินพร้อมจะขึ้นมาชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า หลังจากที่ปล่อยให้ “พล.อ.ประยุทธ์” นั่งเก้าอี้นายกฯ มานาน

ก่อนที่อนุทินจะออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า เวลาเลือกตั้งที่เป็นการแข่งขัน ทุกพรรคการเมืองต้องนำเสนอนโยบายที่คิดว่าประชาชนให้ความมั่นใจ ถูกใจประชาชน แล้วมีการลงคะแนนเสียงให้กับพรรคนั้นๆ กรณีของพรรคภูมิใจไทยของตน ก็ต้องเสนอนโยบายที่ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนใหม่ๆ ต่อยอดจากของเดิม แก้ไขปัญหาปากท้อง ฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19

“เราก็นำเสนอไป หากได้รับการเลือกตั้งมา ก็ต้องว่ากันไปตามเกม ไม่ได้จะเป็นนายกฯ พรุ่งนี้ อันนั้นคือหลังเลือกตั้ง ถ้าหลังเลือกตั้ง คนเลือกภูมิใจไทยมา 200 ที่นั่ง จะไม่เป็นได้หรือ แต่อย่าเพิ่งไปพูดเช่นนั้นเลย ยังเป็นเรื่องอนาคต พวกผมต้องมานั่งทำการบ้านเยอะ” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถูกสื่อมวลชนถามถึงความมั่นใจในการที่จะทำหน้าที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็คิดอะไรให้เป็นบวกไว้ก่อน คิดอะไรที่เป็นลบ คิดเป็นฝ่ายค้านไว้ เดี๋ยวนโยบายก็ไม่ออกกัน ลูกพรรคไม่ยอมนโยบาย

และเมื่อถามถึงการเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกฯ เจ้าตัวกล่าวว่า แต่ละพรรคก็เสนอชื่อ อย่างพรรคภูมิใจไทย ตามประเพณีก็เสนอชื่อหัวหน้าพรรคคนเดียวมาตลอด แต่พรรคอื่นไม่ทราบ

 

ไม่ใช่แค่คำพูดพร้อมน้ำเสียงที่ดุดันของนายอนุทิน ที่แสดงชัดถึงเจตจำนงในการจะลงชิงตำแหน่งนายกฯ พรรคภูมิใจไทยเริ่มปฏิบัติการรุกหนักทั่วทุกพื้นที่ที่คาดว่าจะปักธงตำแหน่ง ส.ส.เขตได้ บวกกับมีจำนวน ส.ส.ในมือเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ดูดตัวมาก็ดี หรือกลุ่มงูเห่าที่ย้ายมาจากพรรคอื่นก็ดี

อย่างล่าสุดมีข่าวจะได้ขุนพลคนสำคัญอย่าง “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” ส.ส.บ้านใหญ่จากนครปฐม ที่อาจโบกมือลาจากพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมมาซบอกพรรคภูมิใจไทย

ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภูมิใจไทยค่อนข้างมีความพร้อมทางด้านขุนพลที่จะลงสนามเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้ามากที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้

เรื่องนี้ “บก.ลายจุด หรือนายสมบัติ บุญงามอนงค์” เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ “The Politics ข่าวบ้านการเมือง มติชนทีวี” ประเมินความพร้อมพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าที่จะมาถึง ว่าเป็นพรรคที่มีตัวแปรสำคัญและมีโอกาสสูงมาก เนื่องจากเป็นพรรคที่ขายนโยบายอะไรไว้แล้วทำจริงมาโดยตลอด

“ภูมิใจไทยเป็นตัวแปรที่สำคัญ คะแนนเขามาแน่ เป็นพรรคการเมืองที่จังหวะก้าวทางการเมืองเก๋ามาก เก๋าเกม เข้าใจบริบททางการเมืองไทยเป็นอย่างดี ภูมิใจไทยเขาเดินเกมได้น่าทึ่งมากนะ ผมคิดว่าตอนนี้พลังดูดของภูมิใจไทยหนักกว่าพลังดูดของพลังประชารัฐเยอะ พลังประชารัฐนี่ดีดตัวออกไปเยอะแล้ว ไม่รู้คราวหน้าพลังประชารัฐจะหน้าตาเป็นยังไง แต่ว่าภูมิใจไทยเป็นพรรคที่มีโอกาสสูงมาก ทั้งกำลังในเรื่องของตัวบุคคล และการทำงานแบบเชื่อมโยง นโยบายที่เขาประกาศไว้ในทางการเมืองตอนหาเสียง ถ้าจะเทียบว่ามีพรรคการเมืองพรรคไหนที่สามารถดำเนินการทางการเมืองตามที่ตัวเองหาเสียงได้อย่างเป็นรูปธรรม ผมคิดว่าภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ชัดที่สุดในรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้น เวลาเขาไปหาเสียงรอบหน้าแล้วเขาตอกย้ำเรื่องนี้อีกทีคือจบ ภูมิใจไทยเขามีจุดโหว่อยู่นิดเดียวคือตอนที่บอกจะไม่เลือกประยุทธ์ แต่ถ้าเป็นนโยบายเรื่องอื่นผมเห็นเขาทำตามนั้นทุกอย่างนะ”

การประกาศความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย เริ่มส่งสัญญาณแรงขึ้นทุกนาที แม้จะบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่ทุกพรรคการเมืองต้องเตรียมตัวให้พร้อม แต่วินาทีนี้ก็ต้องยอมรับว่าภูมิใจไทยเป็นพรรคที่เนื้อหอมและดูจะพร้อมที่สุดในบรรดาทุกพรรคก็ว่าได้ มีผลงานการันตี ทำได้จริง ทำได้เลย ประจักษ์แก่สายตาประชาชน พร้อมทั้งจำนวนคนและผลงาน แถมหัวหน้าพรรคยังออกปากพร้อมนั่งเก้าอี้นายกฯ หากประชาชนให้โอกาส

ซึ่งหากพรรคใหญ่บางพรรคไม่พลาดพลั้งในศึกเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงไปเสียก่อน เห็นทีโอกาสที่ภูมิใจไทยจะมีนายกฯ ชื่อ “ไอ้หนู” ก็ดูจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน