ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 สิงหาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
บทความต่างประเทศ
น้ำท่วมใหญ่ในรอบ 80 ปีของเกาหลีใต้
สัญญาณเตือนจากภาวะโลกร้อน
กลายเป็นภาพที่สร้างความตกตะลึงสำหรับคนทั่วโลก สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ในกรุงโซล เมืองหลวงของประเทศ หลังจากเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม และตกหนักลงมาเรื่อยๆ จนเกิดน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ของประเทศ ทำให้ทางการต้องประกาศยกระดับเตือนภัยฉุกเฉินเป็นระดับ 3
ขณะที่ปริมาณฝนในกรุงโซลเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม มีปริมาณสูงถึง 14 เซนติเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เคยมีการบันทึกสถิติมา คือในปี ค.ศ.1904 และถือว่าเป็นระดับน้ำร่วมที่สูงที่สุดในรอบ 80 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1942 เป็นต้นมา
นอกเหนือจากสภาพท้องถนนที่เอ่อท่วมจนไม่เห็นถนนเลยแล้ว น้ำยังทะลักลงไปตามสถานีรถไฟใต้ดินจำนวนมาก ทำให้สถานีบางแห่งต้องปิดให้บริการในช่วงที่เกิดน้ำท่วมด้วย
โดยหลายพื้นที่บริเวณตอนใต้ของแม่น้ำฮัน ได้รับผลกระทบอย่างหนักที่สุดจากเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ ซึ่งรวมไปถึงย่านกังนัม ย่านที่อยู่อาศัยของบรรดาผู้มีอันจะกิน ที่กลายเป็นเมืองใต้น้ำในทันที
ภาพน้ำท่วมเมืองในเกาหลีใต้ถูกแพร่สะพัดออกไปตามสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก แสดงให้เห็นระดับน้ำที่ท่วมสูงมิดหลังคารถ ขณะที่รถบางคันก็ลอยล่องไปกับสายน้ำ บางคนนั่งอยู่บนหลังคารถเพื่อรอคอยความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม ในวันต่อมา วันที่ 9 สิงหาคม น้ำก็เริ่มลดระดับลง เหลือไว้เพียงซากความเสียหายตามท้องถนน รถยนต์ที่ลอยไปติดอยู่ตามริมถนนบ้าง ติดอยู่ตามต้นไม้บ้าง และซากข้าวของที่เกลื่อนอยู่ตามท้องถนน โดยมีการออกประกาศดินถล่มในเกือบ 50 เมือง ขณะที่เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทำงานกันตลอดทั้งคืนเพื่อให้สถานีรถไฟใต้ดินสามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติในวันรุ่งขึ้น
ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิต จากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในเกาหลีใต้ ณ วันที่ 10 สิงหาคม อยู่ที่ 9 รายแล้ว และสูญหายอีกจำนวนหนึ่ง
ในจำนวนผู้เสียชีวิต มี 3 คนในกรุงโซล ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือเอาไว้ไม่ทัน ซึ่ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน อาศัยอยู่ในเขตกวานัก ตอนใต้ของกรุงโซล แต่อาศัยอยู่ภายในที่พักกึ่งใต้ดินของอาคารแห่งหนึ่ง และได้ร้องขอความช่วยเหลือไปแล้ว ก่อนที่จะถูกน้ำท่วมเสียชีวิตทั้ง 3 คนในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 8 สิงหาคมนั่นเอง
ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในบ้านที่อยู่ใกล้กันในเขตทงจัก เสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำในบ้านเช่นกัน นอกจากนี้ ก็ยังมีรายงานพบผู้เสียชีวิตที่จุดอื่นๆ อีก
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงแค่ประเทศเกาหลีใต้เท่านั้นที่ต้องเผชิญกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ในช่วงเวลาเดียวกัน คือคืนวันที่ 8 สิงหาคม ประเทศญี่ปุ่นเองก็เจอกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่บางส่วนของประเทสเช่นกัน อย่างที่ฮอกไกโด ก็มีรายงานเกิดน้ำท่วมขึ้นในบางพื้นที่ แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ขณะที่ประเทศเกาหลีเหนือ ที่ใกล้ชิดติดกับเกาหลีใต้ ก็เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก จนทางการต้องประกาศเตือนภัยฝนตกหนักในเขตพื้นที่ตอนใต้และตะวันตกของประเทศ
โดยยังมีรายงานฝนตกลงมาหนักอย่างต่อเนื่องในเกาหลีใต้จนถึงวันที่ 11 สิงหาคม
และอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นมาอีกได้
ตามรายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือไอพีซีซี ได้ระบุไว้ว่า การที่หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเผชิญกับสภาพฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องเช่นนี้ และมรสุมฤดูร้อนอาจจะรุนแรงมากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เป็นผลมาจาก “ภาวะโลกร้อน” นั่นเอง
ทั้งนี้ อุณหภูมิในเกาหลีใต้อุ่นขึ้นเกือบ 2 องศาเซลเซียส ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเร็วกกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลก โดยรายงานของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ได้ย้ำว่า ปริมาณฝนในเกาหลีมีเพิ่มมากขึ้น และค่าเฉลี่ยของปริมาณน้ำฝนในแต่ละปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 17.25 เซนติเมตรภายในสิ้นศตวรรษนี้ หากไม่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง!!
การเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 80 ปีของเกาหลีใต้ครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนเสียงเตือนอีกครั้ง ให้ชาวโลกได้รับรู้เกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นได้ทุกแห่งบนโลกนี้!!
เครดิตภาพ AP
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022