นโยบายในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกญี่ปุ่น/บทความพิเศษ สุภา ปัทมานันท์

政治 自民党選対本部の看板前でポーズをとる自民党総裁の岸田文雄首相(右)ら=15日午後、東京・永田町の自民党本部

บทความพิเศษ

สุภา ปัทมานันท์

 

นโยบายในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกญี่ปุ่น

 

วันที่ 10 กรกฎาคม 2022 ที่จะถึงนี้ ญี่ปุ่นกำหนดให้มีการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก(参議院選挙)เป็นการเลือกตั้งทดแทนสมาชิกที่ต้องออกตามวาระ

วุฒิสมาชิกของญี่ปุ่นมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด มีจำนวน 248 คน แบ่งเป็นสมาชิกที่มาจากแบบแบ่งเขต (選挙区) 45 เขตทั่วประเทศ และสมาชิกที่มาจากแบบสัดส่วน(比例代表) อยู่ในตำแหน่งคราวละ 6 ปี กำหนดให้ทุก ๆ 3 ปี สมาชิกจำนวนกึ่งหนึ่งต้องออกตามวาระ ครั้งที่แล้วมีการเลือกตั้งเมื่อเดือน กรกฎาคม 2019 มีสมาชิกครบวาระที่ต้องเลือกใหม่ในครั้งนี้ รวม 125 คน ระบบแบ่งเขต จำนวน 75 คน และระบบสัดส่วน 50 คน

ในการหาเสียงเพื่อผู้สมัครวุฒิสมาชิก หัวหน้าพรรคของแต่ละพรรคพยายามชูนโยบายที่จะสามารถชนะใจคนญี่ปุ่นให้ได้ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกรุมเร้าทั้งด้านเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งด้านการต่างประเทศ การป้องกันประเทศจากการแสดงแสนยานุภาพของเกาหลีเหนือ และจีน เป็นต้น

พรรคแอลดีพี(自民党)นาย ฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ชูสโลแกน“กล้าตัดสินใจ ทำจริง ปกป้องประเทศญี่ปุ่น สร้างอนาคต” เน้นนโยบายสำคัญ 7ประการ ประการแรก นโยบายต่างประเทศและการรักษาความมั่นคง โดยเสริมสร้างกำลังป้องกันประเทศอย่างเข้มแข็ง เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มประเทศนาโต้ มีค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศเกิน 2% ของจีดีพี และตั้งแต่ปีงบประมาณหน้า จะใช้งบประมาณที่สำคัญให้บรรลุเป้าหมายภายใน 5 ปี

รัฐบาลพร้อมสำหรับ “ความสามารถในการตอบโต้การรุกราน(反撃能力)” รวมถึงการโจมตีโดยขีปนาวุปจรวดนำวิถีระยะไกลด้วย ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับการที่ญี่ปุ่นไม่สะสมกำลังอาวุธ

นโยบายด้านค่าครองชีพ ราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น เงินเฟ้อ ขณะนี้ยังสามารถควบคุมได้เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ รัฐบาลถือเป็นนโยบายเร่งด่วน จะจัดสรรเงิน 1 ล้านล้านเยน (2.6 แสนล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือด้านการครองชีพ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ ลดภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารและการบริโภค เป็นต้น เพื่อให้แต่ละท้องถิ่นเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเองอย่างเร่งด่วนตามสถานการณ์

นโยบายเศรษฐกิจ “ลัทธิทุนนิยมใหม่(新しい資本主義)” รัฐบาลนำมาใช้เพื่อสร้างสังคมที่รับรู้ได้ถึงความมั่งคั่งและเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ผลักดันนโยบาย “คาร์บอนเป็นศูนย์(脱炭素)” และมุ่งขับเคลื่อนการลงทุนด้านทรัพยากรบุคคล จะใช้เงินลงทุน 10 ปี ข้างหน้ามากกว่า 150 ล้านล้านเยน เพื่อสนับสนุนการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนให้บรรลุเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม และจะใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างปลอดภัยเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน

รัฐบาลเตรียมรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 7 ที่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อมากขึ้น โดยผลิตวัคซีนในประเทศทั้งแบบฉีดและแบบกินไว้อย่างเพียงพอ

เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ(憲法改正)จะผลักดันและเร่งกระบวนการในรัฐสภาให้เป็นรูปธรรม ตามที่ได้ให้สัญญาไว้ตั้งแต่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ

พรรครัฐธรรมนูญเพื่อประชาธิปไตย(立憲民主党) พรรคฝ่ายค้าน นายเคนตะ อิสุมิ(泉健太)ชูสโลแกน “ความมั่นคงในชีวิต”(生活安全保障)นโยบายเร่งด่วนคือ ต่อสู้กับค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น สินค้ามีราคาแพง โดยการลดภาษีผู้บริโภค(消費税)ลงเหลือ 5% เพื่อลดภาระของครัวเรือนขณะนี้

ด้านการศึกษาจะเดินหน้านโยบายการศึกษาฟรี จนถึงระดับมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยท้องถิ่น และบริการอาหารกลางวันของนักเรียนประถมถึงมัธยมต้นของท้องถิ่นฟรี ยืดช่วงเวลาให้ผู้ปกครองรับเงินช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงจบชั้นมัธยมปลาย และเพิ่มจำนวนเงินแต่ละเดือนอีกด้วย

การป้องกันประเทศจากการแสดงแสนยานุภาพข่มขู่คุกคามของเกาหลีเหนือ และจีนแผ่ขยายอิทธิพลมาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ญี่ปุ่นจำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศที่ปรับเพิ่มลดได้ตามสถานการณ์ที่เป็นจริง ไม่ใช่งบประมาณแบบตายตัว เพราะการปกป้องอธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด

พรรคพร้อมยืนเคียงข้างประชาชน จัดทำนโยบายเศรษฐกิจเพื่อความเติบโตทางเศรษฐกิจและความมั่นคงอย่างยั่งยืน

 

พรรคฝ่ายค้านอีกพรรคหนึ่ง ที่มีฐานเสียงแถบคันไซ โอซากา คือ พรรคอิชิน(維新の会)นาย อิชิโร มัทสึอิ(松井一郎)หัวหน้าพรรคชูสโลแกน “ปฏิรูปแล้วเติบโต” โดยการลงทุนกับคนรุ่นต่อไปในอนาคต(将来世代への投資)อย่างจริงจัง ด้วยการช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าการศึกษาแบบให้เปล่าจนถึงชั้นมัธยมปลาย และเพื่อเพิ่มจำนวนเด็กเกิดใหม่ จึงมีนโยบายยกเว้นค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ในการคลอดบุตร กล่าวคือให้คลอดบุตรฟรี คู่สมรสไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายก้อนโตในการมีบุตรอีกต่อไป

ส่วนการช่วยเหลือค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น นโยบายระยะสั้นที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน คือการลดภาษีผู้บริโภคและการลดภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊สหุงต้ม ลดภาระค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น และลดภาษีนิติบุคคลของธุรกิจขนาดกลางและเล็กเพื่อช่วยให้ธุรกิจรายย่อยอยู่รอดได้

ด้านนโยบายความมั่นคง และการต่างประเทศ สถานการณ์ที่รัสเซียรุกรานยูเครน และสงครามที่ยืดเยื้อก่อให้เกิดความวิตกกังวลใจ จำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณในการป้องกันประเทศอย่างแน่นอน ทั้งนี้พรรคเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ ยังเสนอให้ลดจำนวนสมาชิกสภา และลดสิทธิประโยชน์ต่าง ๆของบรรดาสมาชิกสภาที่มีมากมายเหนือประชาชนทั่วไป เรียกร้องให้ท่านผู้แทนทั้งหลายยอมให้มีการปฏิรูปโดยเฉือนเนื้อตัวเองก่อน นับว่าข้อนี้น่าสนใจ และยังไม่มีพรรคอื่นเสนอเลย พรรคนี้ย้ำว่าพร้อมจะทำการปฏิรูปในเรื่องที่ “พรรครัฐบาลไม่ทำหรือทำไม่ได้”

เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่างเสนอนโยบายจูงใจคือ เกี่ยวกับค่าครองชีพ ราคาสินค้าที่แพงขึ้น สินค้าขาดแคลนเนื่องจากสถานการณ์สงครามยูเครนที่ยืดเยื้อ ยังมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด และยังถูกซ้ำเติมด้วยค่าเงินเยนที่อ่อนลงอย่างมากในรอบ 24 ปี ส่วนด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องที่ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ เนื่องจากสถานการณ์รอบด้านก่อให้เกิดความหวาดวิตก

นโยบายของพรรครัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้านจะสามารถเรียกความนิยมจากผู้ลงคะแนนเสียงชาวญี่ปุ่นได้มากกว่ากัน นายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคแอลดีพี จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกครั้งนี้ได้เกินกึ่งหนึ่งอีกอย่างสบาย ๆ หรือไม่

รอดูกัน…