เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง : ชุมชนเติบโต

ไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนตลาดน้ำตลิ่งชันมาเป็นปีแล้ว ครั้งสุดท้ายเห็นปิดปรับปรุงด้านกายภาพเป็นระยะเวลาหนึ่ง เสาร์ที่ผ่านมาได้ฤกษ์พากันไปรื้อฟื้นรสชาติขนมจีนเจ้าอร่อยที่จอดขายอยู่ข้างแพ ก็ปรากฏว่ารสชาติอร่อยคงที่ไม่เปลี่ยนแปร

จุดนัดพบบรรยากาศชาวบ้านของแท้แห่งนี้ยังรักษาบรรยากาศดั้งเดิม ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทีละน้อยไม่ทำให้แปลกแยกและตกใจ เช่น ที่นั่งรับประทานอาหารบนแพที่เคยให้นั่งบนเก้าอี้เตี้ยบนพื้นเท่านั้นก็มีเก้าอี้นั่งห้อยขามาเสริมเป็นเรื่องสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ มีการต่อแพยาวออกไปรองรับลูกค้าได้มากขึ้น และเพิ่มแพด้านข้างไว้รองรับปริมาณลูกค้าที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน

อาหารรสเด็ดที่นิยมกินกันยังมีอยู่เหมือนเดิม นอกจากขนมจีนก็มีหอยทอด ก๋วยเตี๋ยวหมู ปลาเผา กุ้งแม่น้ำเผา หอยแมลงภู่ลวกจิ้ม เป็นต้น

เป็นเรื่องสะดวกสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่จะจัดเตรียมเครื่องปรุงจากบ้านใส่เรือมา และทำสดทีละชามให้ลูกค้าที่นั่งคอยบนแพ สะดวกสำหรับเจ้าของแพ ดีสำหรับเขตที่ไม่ต้องทำความสะอาดบริเวณที่ตั้งเหมือนเป็นแผงบนพื้นดิน

เมื่อไหร่ที่เรือถูกยกมาขึ้นบก บรรยากาศก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และถือได้ว่าเป็นการปิดตำนานตลาดน้ำตลิ่งชันเป็นแน่แท้

แต่เดิมมาตลาดนัดตลิ่งชันเป็นพื้นที่สำหรับคนท้องถิ่นและคนที่อยู่ใกล้เคียง แต่เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นที่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยแล้ว เนื่องจากเราไปถึงในช่วง 9-10 นาฬิกา พื้นที่รับประทานอาหารบนแพยังมีคนเบาบาง แต่ในบริเวณทางเข้าที่มีร้านขนมเรียงรายเริ่มมีคนหนาแน่น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินซื้อของและเดินดูของกันหนาตา

ตลาดน้ำตลิ่งชันแห่งนี้มีรถเมล์เข้ามาถึง อยู่หน้าเขตตลิ่งชัน จึงสะดวกสำหรับการสัญจรเข้ามาของนักท่องเที่ยว ที่จอดรถมีไม่มากนักจึงเป็นการดีที่เลือกมาในเวลาเช้าเกือบสาย รับประทานมื้อบรันช์ได้เหมาะเหม็ง แล้วไปเดินจับจ่าย

หลังจากการ “ปรับปรุงครั้งใหญ่” ของเขต ตลาดน้ำตลิ่งชันก็มีสิ่งดึงดูดใจเพิ่มขึ้น มีอาหารและขนมแปลกๆ เพิ่มขึ้น ทดสอบดูรสชาติและราคาแล้ว ใช้ได้มากๆ ทีเดียว ขนมเปียกปูนที่ลงทุนมากวนกันต่อหน้าก็มีเนื้อแป้งที่นุ่มนวล ที่เรียกความสนใจได้มากคือการแสดงวิธีทำกระยาสารทให้เห็นชัดๆ ตั้งแต่กวน เอามาแผ่บนถาด ปาดเหมือนทำบล๊อกปูนซีเมนต์ แล้วตัดเป็นแท่งขณะยังไม่เย็นตัว จากแท่งใหญ่เป็นแท่งเล็ก บรรจุถุงปิดป้าย

ใช้มือตลอด แต่ความชำนิชำนาญทำให้ชิ้นเท่ากันเป๊ะดุจใช้เครื่องจักรทำ

ดูแล้วเพลินค่ะ

ที่นี่ยังมีกิจกรรมนั่งเรือเที่ยวตามคลอง มีรายการแวะตามแหล่งวัฒนธรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ชมวิถีชีวิตดั้งเดิมแท้ แต่ยังไม่เคยลองเลยละ ต้องทดไว้โอกาสหน้า

รถลากที่เอาไปด้วย เต็มคันด้วยของคาวหวานไปฝากคนที่บ้าน และยังแถมหอบหิ้วกันอีกทุกคน ของที่ไม่เคยเห็นนานแล้ว ล้วนแต่เป็นขนมในดวงใจ เช่น ขนมขี้หนู ข้าวต้มน้ำวุ้น หรือแม้แต่ขนมเบื้องญวน ก็ได้พบที่นี่ ที่หมายตาไว้ว่าจะต้องซื้อหาคราวต่อไป

ไม้ดอกไม้ใบก็มีขาย ราคาพอสมควร น่าซื้อหาติดมือ เช่นเดียวกับผักและผลไม้ ผักที่ซื้อมาปรากฏว่าหวานสดกว่าซื้อตามตลาดสดในเมือง

ผู้เขียนคิดว่าเขตตลิ่งชันมีวิสัยทัศน์ชัดเจน ที่ปรับปรุงตลาดน้ำตลิ่งชันแบบพอดีๆ ไม่โลภ ให้ที่นี่ยังคงมีบุคลิกแบบเดิม แต้มคิ้ว แต้มปากเพียงเล็กน้อย คงเสน่ห์ของมันไม่เปลี่ยนแปร และที่สำคัญสินค้าที่มาขาย มีคุณภาพ คงรสชาติดุจเดียวกับอดีต มีความเปลี่ยนแปลงเรื่องหีบห่อบ้าง

เรื่องหีบห่อนี้เป็นเรื่องที่ต้องเล่า เข้าใจว่าคงมีการบอกต่อกันให้พยายามใช้สิ่งที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ ที่ตลาดน้ำตลิ่งชันโฟมมีใช้น้อย ส่วนใหญ่จะใช้กระดาษเคลือบมันแบบที่ใช้ห่อข้าวมันไก่ เอามาติดคลิปสี่ด้านเป็นกระทง บางร้านก็ใช้กระทงใบตอง

นอกจากนี้ เอสซีจีก็มารณรงค์จำหน่ายถ้วยชามกระดาษยี่ห้อ Nest ที่มีทั้งรูปลักษณ์แบบจานทั่วไปและแบบที่พิมพ์สีเขียวเลียนแบบใบตอง แล้วดัดเป็นรูปกระทง ใช้ใส่อาหารได้สุนทรียรสกว่ากล่องโฟมเป็นไหนๆ และก็ย่อยสลายง่ายด้วย

น้องจากเอสซีจีบอกว่าไปรณรงค์ตามตลาดแบบนี้ละค่ะ เรียกว่าน้องเขาเลือกกลุ่มเป้าหมายได้เหมาะสมดี

การค้า การท่องเที่ยวที่ตลาดน้ำตลิ่งชันวันนี้คึกคัก แม้รายได้หมุนเวียนแต่ละวันจะไม่มากมาย แต่ก็กลับคืนสู่ท้องถิ่น ชาวตลิ่งชันไม่ต้องวิ่งไปเปิดร้านที่ตลาดไหน เปิดใกล้ๆ บ้านนี้ เพียงแค่รักษาฝีมือและตัวตนของเราเอาไว้

ต้องชมเขตตลิ่งชันที่นำภาษีมาใช้แบบได้ประโยชน์ กลับคืนท้องถิ่นเต็มเม็ดเต็มหน่วย และถ้าจะให้ดี ใส่ใจเรื่องความสะอาด หาวิธีกำจัดขยะที่ลอยมาตามน้ำมาพักข้างแพอีกนี้ดเดียวก็จะสมบูรณ์แบบค่ะ