E-DUANG : กองเชียร์ พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เหนื่อย

ยิ่งเห็นอาการดิ้นของ “กองเชียร์” พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ที่ ออกมาหงุดหงิดแทน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ แล้ว

ยิ่งเหนื่อยแทน

เหนื่อยเพราะว่า การปกป้อง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ อาจกลายเป็นการทำร้าย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์

จะให้เรื่องนี้เหมือนกรณี นายถวิล เปลี่ยนศรี คงยาก

ยากเพราะว่าเครือข่ายและสายสัมพันธ์ของ นายถวิล เปลี่ยนศรี มีมากกว่า เหนือกว่า

อย่าลืมว่า นายถวิล เปลี่ยนศรี เคยอยู่ใน “ศอฉ.”

จึงไม่เพียงแต่แนบแน่นกับฝ่าย “การเมือง” หากแต่ยังแนบแน่นอย่างเป็นพิเศษกับ “ทหาร”

เมื่อแตะ นายถวิล เปลี่ยนศรี ก็เป็นเรื่อง

 

กรณีของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ อาจแลดูขึงขังเมื่อลอยมาจาก “ดีเอสไอ” มาอยู่ “พศ.”

เป็นการมาพร้อมกับ “มาตรา 44”

แต่สิ่งที่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เผชิญเป็นวัดพระธรรมกาย มิใช่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ประเด็นก็คือ มิได้จำกัดเฉพาะ “ธรรมกาย”

เมื่อ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ขยายกรอบ ขยายวงออกไปตามแผน “ปฏิรูปพระพุทธศาสนา”

ก็เลยกลายเป็นเรื่อง

ป้อมปราการที่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ประสบกลับเป็นพระเถระผู้ใหญ่ และที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ การเดินชนกับ “มหาเถรสมาคม”

เดินมาถึงตรงนี้แม้กระทั่ง นายวิษณุ เครืองาม ก็ต้องอึ้ง

 

บรรดา “กองเชียร์” พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ลองย้อนกลับไปนั่งทบทวนและสรุปอย่างเข้มงวดและจริงจัง

ก็จะมองเห็นช่องว่าง รอยโหว่

ความเป็น “คนดี” ของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ไม่มีใครสงสัย

แต่ปมเงื่อนอยู่ตรง “ยุทธวิธี” มากกว่า

เป็นยุทธวิธีอันสะท้อนความไม่เข้าใจในกระบวนการทำงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)อย่างเพียงพอ

เข้าทำนอง “ฉลาด” อันขาด “เฉลียว”