สถานีคิดเลขที่12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————-

ไฟละลายหิมะ

————————-

นั่งดูพิธีปิดโอลิมปิคฤดูหนาว ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อค่ำวันที่ 20 กุมภาพันธ์

สัมผัสได้ถึงความพยายามสร้างมิตรภาพ

ภายใต้คำขวัญ “ก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน”

ได้เห็น นักกีฬารัสเซีย ที่แม้ไม่มีสิทธิใช้ธงและเพลงชาติด้วยถูกลงโทษเรื่องสารต้องห้าม แต่ก็ยืนหยัดสู้จนได้รับเหรียญ”สกีมาราธอน” ขึ้นแท่นรับเหรียญสุดท้ายในพิธีปิด ยืนยันการมีอยู่ของรัสเซียอย่างน่าภาคภูมิ

ขณะที่ นายโธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) กล่าวในพิธีปิดอย่างน่าประทับใจ

“พลังความเป็นหนึ่งเดียวกันของโอลิมปิกเข้มแข็งกว่าพลังงานอื่นๆ ที่พยายามจะแบ่งแยกมนุษย์ออกจากกัน ในทุกๆ วัน นักกีฬาพยายามที่จะสร้างสถิติที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง และก็น่าปลื้มใจมากที่เห็นนักกีฬาหลายคนเชียร์ให้คู่แข่งประสบความสำเร็จในการทำลายสถิติของพวกเขาเอง มันไม่ใช่แค่การเคารพผู้อื่น แต่เป็นการให้กำลังใจ ถึงแม้ว่าประเทศของนักกีฬาเหล่านั้นจะมีความขัดแย้งกันอยู่ก็ตาม นักกีฬาเป็นแรงบันดาลใจของคนทั่วโลก โดยการช่วยเหลือเกื้อกูลกันและสันติภาพ นักกีฬาหลายคนพยายามช่วยกันสร้างสันติภาพในเหตุการณ์ที่รัสเซียและยูเครนกำลังขัดแย้งกันในช่วงนี้”

มิตรภาพ และเป้าหมาย ก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน เต็มเปี่ยมในสนามกีฬารังนก

ทั้งนี้นายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ซึ่งมาร่วมพิธีเปิดโอลิมปิคฤดูครั้งนี้ ก็คงได้รับรู้เป้าหมาย “ก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน”เช่นกัน

แต่กระนั้นเพียงวันสองวันจากนั้น ก็เกิดการพลิกผันแบบหน้ามือ เป็นหลังมือ

เมื่อนายปูติน ก็ก่อวิกฤตร้อน”รัสเซีย-ยูเครน” ขึ้น

ทำให้เสียงของประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เป็น”หิมะ”ถูกไฟหลอมละลายไปทันที

มีเสียงของนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาแทน

“ประธานาธิบดีปูติน เพื่อเห็นแก่มนุษยชาติ โปรดนำกำลังทหารกลับสู่รัสเซีย”

ซึ่งในนาทีนี้ คำวิงวอนดังกล่าว คงเป็นไปได้ยากเต็มที

เพราะรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีเต็มรูปแบบต่อยูเครนแล้ว

นายปูติน ไม่สนใจคำประณามจากทั่วโลก

แถมขู่ว่าประเทศใดก็ตามที่พยายามเข้ามาแทรกแซง จะได้รับผลกระทบชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

โลกจึงร้อนระอุ และได้รับผลกระทบกันถ้วนทั่ว

แน่นอนรวมถึงไทยด้วย

ซึ่งก็คงจะต้องหาทางลดผลกระทบโดยเฉพาะผลกระทบเศรษฐกิจ ให้น้อยที่สุด

โดยเฉพาะ ราคาน้ำมันแพง ที่อาจนำไปสู่ภาวะ “แพง-จน-พัง” อีกรอบ

ขณะเดียวกันคงต้องวางท่าทีให้ดี ระหว่างขั้วของรัสเซีย ที่มีจีนสนับสนุน กับขั้วของสหรัฐและชาติตะวันตก (ซึ่งก็มีส่วนสำคัญเช่นกันที่สร้างเงื่อนไขและปัจจัยที่นำไปสู่วิกฤตคราวนี้)

เราจะยืนอยู่จุดไหน

จะห้าวเป้ง แบบ ขั้วอนุรักษ์นิยมอย่างที่สะท้อนผ่าน บางคนบางฝ่ายในประเทศไทย หรือไม่

คือส่งกำลังใจและชื่นชมไปยัง นายปูติน และกองทัพรัสเซีย ถึงภาวะผู้นำ ที่มีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว เด็ดขาด จริงใจ เป็นมิตรที่ดี ไม่เจ้าเล่ห์ต่อราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจน เชื่อถือได้ เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง

ท่าทีแบบนี้ แม้ฝ่ายอนุรักษ์ ซึ่งตอนหลังๆใช้ทฤษฏีสมคบคิดเอาประเด็นชังชาติไปพัวพันกับประเด็นความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เกิดภาวะการณ์ “ชิดจีน-ห่างสหรัฐ-ชาติตะวันตก” จะชื่นชอบ

แต่ฝ่ายอื่นๆโดยเฉพาะ ผู้กำหนดนโยบายของประเทศ คงคิดให้รอบด้าน ไม่สุดขั้ว เลือกข้าง จนเกินไป