ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | เอกภาพ |
ผู้เขียน | พิชัย แก้ววิชิต |
เผยแพร่ |
เอกภาพ
พิชัย แก้ววิชิต
นก
นกตัวเล็กๆ กับสายไฟเพียงลำพัง
สถานะทางสังคมจะเป็นอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเป็นนกตัวเล็กๆ ในเมืองใหญ่ ชีวิตที่ต้องออกหากินไปตามสัญชาตญาณของกลไกชีวิต
ความหิวกระหายกระตุ้นให้มันออกหากิน
รังเป็นที่อยู่อาศัยมีไว้เพื่อพักผ่อนหลับนอนและสร้างความปลอดภัยให้กับชีวิต
การสืบพันธุ์จะถูกกระตุ้นให้ทำกิจกรรมเมื่อถึงเวลาตามความเหมาะสม
มันควรจะเป็นชีวิตนกๆ ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ สมควรที่จะถูกมองข้ามได้โดยไม่ยาก
มันไม่มีผลกระทบ ไม่มีผลประโยชน์อะไรมากพอที่จะให้น่าสนใจ
มันเป็นนกตัวเล็กๆ ที่เกาะสายไฟอยู่ ไม่นานก็คงจะบินหนีไปตามทางของมัน
และผมก็ควรเดินผละออกไปแบบทางใครทางมัน
แต่ความคิด ความรู้สึก ของผมกลับอยากรู้มากกว่าสิ่งที่เห็น
มันไม่ใช่นกที่น่าสนใจระดับพญาอินทรี เป็นเพียงแค่นกตัวเล็กๆ แต่เพราะปีกน้อยๆ ของมันไม่เคยทำให้มันตกจากท้องฟ้าที่กว้างใหญ่และยังคงใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเท่าที่มันเป็น
ไม่มีราคา แต่มันมีชีวิต
หากมองความต่างของชีวิตระหว่างคนกับนก
ความกดดันจากชีวิตที่ซับซ้อนของคนเราก็ดูจะยุ่งยากกว่ามาก
เพราะหลายสิ่งในชีวิตของคนเรามีมากมาย กับทางเลือกที่หลากหลายที่จำต้องตัดสินใจ
การตัดสินใจในตัวเอง ตัดสินผู้อื่น หรือถูกผู้อื่นตัดสินก็เป็นไปได้พอๆ กันในรูปแบบของชีวิต
นกเล็กๆ มีปีกของมัน คนเราก็มีปีกแห่งความฝัน หากแต่ปีกแห่งความฝันของคนเราไม่ได้โบยบินไปในทิศทางที่ควรเป็น
บางครั้งมันก็เหมือนเป็นการปลิดปลิวร่วงลงของชีวิตมากกว่าที่จะโบยบินสูงขึ้นไป ต่างไปจากปีกน้อยๆ ที่กระพือบินท่ามกลางท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ของนกตัวเล็กๆ และกับชีวิตที่ไม่มีให้เลือกมากนัก
แต่นกก็จะดูมีอิสระในชีวิตอยู่ไม่น้อย
จะกิ่งไม้หรือสายไฟ สำหรับมันก็แค่สิ่งที่จะใช้ยึดเกาะให้มันทรงตัวไว้เพื่อให้ได้เห็นสิ่งที่ควรมอง เพื่ออาหาร เพื่อความปลอภัย เพื่อการสืบต่อของชีวิตก็เป็นพอ
ดูคราวๆ เห็นง่ายๆก็เหมือนนกจะสบายชีวิตกว่า
แต่ถึงอย่างนี้แล้วนกก็ยังเป็นนก คนก็ยังเป็นคน ไม่มีคนแบบไหนอยากที่จะเป็นนก และไม่แน่ว่านกก็ไม่อยากเป็นคนเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ผมจะบินไม่ได้เหมือนนกในทางกายภาพ
หากแต่การโบยบินโดยอาศัยความรู้สึกนึกคิด เพื่อนำพาผมได้เห็นมุมมองชีวิตที่สูงขึ้นไปจากที่เคยเห็นและได้ให้มองภาพของชีวิตที่กว้างขึ้นและไกลกว่าที่เคยก็จะดีไม่น้อย
บางทีก็อาจถึงเวลาบ้างแล้วที่จะขยับปีกแห่งความฝันแล้วโบยบินไปในทิศทางที่ต้องการและได้โฉบลงไปเกาะทรงตัวไปกับกิ่งยอดของความเรียบง่ายของชีวิต
ถึงตอนนี้มันไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องเล่าธรรมดาๆ ของคนที่รักถ่ายภาพกับนกตัวเล็กๆ ที่เกาะอยู่บนสายไฟ โดยบังเอิญเจอ
เรื่องเล่าที่ดูจะไม่เข้ากันกับยุคสมัยของผู้คนที่กำลังจับตาดูสิ่งมีชีวิตจากดาวอังคารและนอกโลกที่ไกลออกไป
เจ้านกตัวเล็กส่งเสียงร้องดังขึ้นก่อนที่จะบินข้ามหัวผมไปอย่างรวดเร็ว เหมือนจะร้องเตือนว่า “สลัดความกังวลออกจากใต้ปีก”
ขอบคุณมากมายครับ