นก / เอกภาพ : พิชัย แก้ววิชิต

พิชัย แก้ววิชิต

เอกภาพ

พิชัย แก้ววิชิต

 

นก

 

นกตัวเล็กๆ กับสายไฟเพียงลำพัง

สถานะทางสังคมจะเป็นอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเป็นนกตัวเล็กๆ ในเมืองใหญ่ ชีวิตที่ต้องออกหากินไปตามสัญชาตญาณของกลไกชีวิต

ความหิวกระหายกระตุ้นให้มันออกหากิน

รังเป็นที่อยู่อาศัยมีไว้เพื่อพักผ่อนหลับนอนและสร้างความปลอดภัยให้กับชีวิต

การสืบพันธุ์จะถูกกระตุ้นให้ทำกิจกรรมเมื่อถึงเวลาตามความเหมาะสม

มันควรจะเป็นชีวิตนกๆ ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ สมควรที่จะถูกมองข้ามได้โดยไม่ยาก

มันไม่มีผลกระทบ ไม่มีผลประโยชน์อะไรมากพอที่จะให้น่าสนใจ

มันเป็นนกตัวเล็กๆ ที่เกาะสายไฟอยู่ ไม่นานก็คงจะบินหนีไปตามทางของมัน

และผมก็ควรเดินผละออกไปแบบทางใครทางมัน

แต่ความคิด ความรู้สึก ของผมกลับอยากรู้มากกว่าสิ่งที่เห็น

มันไม่ใช่นกที่น่าสนใจระดับพญาอินทรี เป็นเพียงแค่นกตัวเล็กๆ แต่เพราะปีกน้อยๆ ของมันไม่เคยทำให้มันตกจากท้องฟ้าที่กว้างใหญ่และยังคงใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเท่าที่มันเป็น

ไม่มีราคา แต่มันมีชีวิต

จากภาพถ่ายที่เห็น จะมีนกตัวเล็กๆ ที่เกาะอยู่บนสายไฟ ตึกสีขาวกับท้องฟ้าสีน้ำเงิน กับองค์ประกอบที่ซ่อนอยู่คือจุดที่มาจากตัวนก เส้นที่มาจากสายไฟและจากตึกที่มีสีขาว ส่วนท้องฟ้าก็ให้สีน้ำเงิน เมื่อองค์ประกอบทั้งหมดรวมกันอยู่ตรงหน้า ความพอใจกับสิ่งที่เห็น สัญชาตญาณบอกให้ผมยกกล้องขึ้นถ่ายภาพความงามทั้งหมด หากแต่เรื่องราวและจุดสนใจของนกตัวเล็กๆ ดูจะขยายใหญ่ขึ้นกว่าองค์ประกอบอื่นที่อยู่ในภาพ จนได้เห็นความหมายที่ซ่อนอยู่

 

หากมองความต่างของชีวิตระหว่างคนกับนก

ความกดดันจากชีวิตที่ซับซ้อนของคนเราก็ดูจะยุ่งยากกว่ามาก

เพราะหลายสิ่งในชีวิตของคนเรามีมากมาย กับทางเลือกที่หลากหลายที่จำต้องตัดสินใจ

การตัดสินใจในตัวเอง ตัดสินผู้อื่น หรือถูกผู้อื่นตัดสินก็เป็นไปได้พอๆ กันในรูปแบบของชีวิต

นกเล็กๆ มีปีกของมัน คนเราก็มีปีกแห่งความฝัน หากแต่ปีกแห่งความฝันของคนเราไม่ได้โบยบินไปในทิศทางที่ควรเป็น

บางครั้งมันก็เหมือนเป็นการปลิดปลิวร่วงลงของชีวิตมากกว่าที่จะโบยบินสูงขึ้นไป ต่างไปจากปีกน้อยๆ ที่กระพือบินท่ามกลางท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ของนกตัวเล็กๆ และกับชีวิตที่ไม่มีให้เลือกมากนัก

แต่นกก็จะดูมีอิสระในชีวิตอยู่ไม่น้อย

จะกิ่งไม้หรือสายไฟ สำหรับมันก็แค่สิ่งที่จะใช้ยึดเกาะให้มันทรงตัวไว้เพื่อให้ได้เห็นสิ่งที่ควรมอง เพื่ออาหาร เพื่อความปลอภัย เพื่อการสืบต่อของชีวิตก็เป็นพอ

ดูคราวๆ เห็นง่ายๆก็เหมือนนกจะสบายชีวิตกว่า

แต่ถึงอย่างนี้แล้วนกก็ยังเป็นนก คนก็ยังเป็นคน ไม่มีคนแบบไหนอยากที่จะเป็นนก และไม่แน่ว่านกก็ไม่อยากเป็นคนเช่นเดียวกัน

 

ถึงแม้ผมจะบินไม่ได้เหมือนนกในทางกายภาพ

หากแต่การโบยบินโดยอาศัยความรู้สึกนึกคิด เพื่อนำพาผมได้เห็นมุมมองชีวิตที่สูงขึ้นไปจากที่เคยเห็นและได้ให้มองภาพของชีวิตที่กว้างขึ้นและไกลกว่าที่เคยก็จะดีไม่น้อย

บางทีก็อาจถึงเวลาบ้างแล้วที่จะขยับปีกแห่งความฝันแล้วโบยบินไปในทิศทางที่ต้องการและได้โฉบลงไปเกาะทรงตัวไปกับกิ่งยอดของความเรียบง่ายของชีวิต

ถึงตอนนี้มันไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องเล่าธรรมดาๆ ของคนที่รักถ่ายภาพกับนกตัวเล็กๆ ที่เกาะอยู่บนสายไฟ โดยบังเอิญเจอ

เรื่องเล่าที่ดูจะไม่เข้ากันกับยุคสมัยของผู้คนที่กำลังจับตาดูสิ่งมีชีวิตจากดาวอังคารและนอกโลกที่ไกลออกไป

เจ้านกตัวเล็กส่งเสียงร้องดังขึ้นก่อนที่จะบินข้ามหัวผมไปอย่างรวดเร็ว เหมือนจะร้องเตือนว่า “สลัดความกังวลออกจากใต้ปีก”

ขอบคุณมากมายครับ