E-DUANG : “พลานุภาพ” แห่ง “ความเงียบ”

ไม่ว่าการออกโรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าการออกโรงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

นั่นคือ ยิ่งลักษณ์ EFFECT

เป็น EFFECT อันเนื่องแต่ “การหายตัว” ไปอย่างไร้ร่องรอย นับแต่วันที่ 25 สิงหาคม เป็นต้นมา

เหมือนกับจะเป็น “การหนี”

แต่เนื่องจากเป็น “การหนี” อย่างมีลักษณะทางยุทธศาสตร์จึงก่อผลสะเทือน

เหมือนกับเป็นผลสะเทือนต่อ “ยิ่งลักษณ์”

แต่หากเปิด “หัวใจ” ให้กว้าง ติดตามแต่ละข้อมูลที่ไหลเลื่อนเข้ามายัง “สายพานข่าว” ก็จะเริ่มรู้สึก

รู้สึกใน “ผลกระทบ” ที่เริ่มกว้างไกล

 

รูปธรรมแรกสุดก็คือ การชี้นิ้วเข้าหากันระหว่าง “มิตรร่วมรบ” ในทางการเมือง

ตั้งข้อสงสัยต่อ “คสช.”

เป็นนิ้วอันชี้มาจาก 1 พรรคประชาธิปัตย์ 1 พันธมิตรประชา ชนเพื่อประชาธิปไตย 1 กปปส.

สงสัยว่าเปิด “ไฟเขียว” ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

หากคสช.และรัฐบาลไม่สามารถทำความกระจ่างต่อกรณี “การหายตัว”ไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“โจทก์” ก็มีโอกาสกลายเป็น “จำเลย”

ยิ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นิ่งในลักษณะ “กบดาน” ยาวนาน เพียงใด ความสงสัยยิ่งตกกับ “คสช.”

จึงต้องปล่อย “จดหมายปลอม” ออกมา

 

หนทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เหมือนกับเป็น “การหนี” แต่เนื่องจากเป็นการหนีอย่างมีลักษณะในทาง “ยุทธศาสตร์”

จึงเสมอเป็นเพียง “การหายตัว”

หายตัวไปจากวงจร “ข่าว” หายตัวไปจากสปอตไลต์ของคสช.อย่างสิ้นเชิง

“การหายตัว” ไปจึงมีลักษณะเป็น “ฝ่ายกระทำ”

เป็นไปได้ว่า ความเงียบจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยังดำรงอยู่อย่างน้อยก็ให้พ้นไปจากวันที่ 27 กันยายนตามกำหนดของศาล

“ความเงียบ” นั่นแหละคือ “พลานุภาพ”