โลกหมุนเร็ว/เปลี่ยน ไม่เปลี่ยน เปลี่ยน ไม่เปลี่ยน

โลกหมุนเร็ว/เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง [email protected]

เปลี่ยน ไม่เปลี่ยน เปลี่ยน ไม่เปลี่ยน

รัก ไม่รัก รัก ไม่รัก รัก ไม่รัก หญิงสาวที่กำลังตกหลุมรักชายหนุ่มเพียรปลิดกลีบดอกไม้ทีละใบเพื่อเสี่ยงทายว่าหนุ่มนั้นรักเธอหรือไม่ ถ้ากลีบสุดท้ายไปลงเอยที่คำว่า “รัก” เธอก็จะแช่มชื่นและมีความหวัง

ในโลกที่สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นทุกวันนี้ หญิงสาวไม่มานั่งเด็ดกลีบดอกไม้กันอีกแล้ว

เธออาจเปลี่ยนแฟนทันทีที่รู้สึกว่า “คนนี้ไม่ใช่”

เช่นเดียวกับวิถีชีวิตอื่นๆ ที่เราจำต้องเปลี่ยนเพราะโลกเปลี่ยน แล้วก็เปลี่ยนเร็วเสียด้วย

บ่อยครั้งที่เราจะลังเล จะเปลี่ยนดีหรือไม่เปลี่ยนดี เปลี่ยน ไม่เปลี่ยน คิดวนเวียนอยู่เช่นนี้

และบ่อยครั้งที่เราไม่มีความลังเลเลยว่าต้องเปลี่ยน

อย่างเช่น การไปช้อปปิ้งที่ห้างที่เคยทำเป็นปกติ กลายเป็นเรื่องไม่ปกติ เมื่อวันหนึ่งเสร็จจากการทำกายภาพที่โรงพยาบาลใกล้ๆ ร่างกายกะปลกกะเปลี้ย มีรายการต้องซื้อของเล็กๆ น้อยๆ กลับบ้าน เมื่อเดินขึ้นไปบนห้าง เห็นของเยอะแยะ คนมากมาย ต้องเข้าแถวจ่ายสตางค์อีกพักใหญ่ ก็เกิดขาอ่อนใจละเหี่ยขึ้นมาเฉยๆ

ทันใดนั้นก็นึกถึงว่าฉันจะต้องเปลี่ยนเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์แล้วละ

จึงเดินไปที่ประชาสัมพันธ์ห้าง ถามหารายละเอียดเรื่องการช้อปปิ้งออนไลน์ หนุ่มที่เป็นคนดูแลยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่ามีคนสนใจใช้บริการที่เขาดูแลอยู่ เขาอธิบายให้เราฟังว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด

เย็นวันนั้นก็เข้าเว็บห้างไปตามคำแนะนำ ดูน่าใช้จริงๆ ด้วย เขามีการแบ่งหมวดหมู่สินค้าให้ดูง่าย เมื่อเทียบกับการเดินดูตามซอยต่างๆ ในห้างแล้วแหงนหน้าดูป้ายว่าซอยไหนขายอะไร ไม่สนุกเลย

เราน่าจะช้อปออนไลน์ซะตั้งนานแล้ว

เมื่อคิดถึงว่าความเหน็ดเหนื่อยจะลดลงก็มีแต่ความพอใจ จะได้เอาเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่น ลืมนึกให้ลึกไปกว่านั้น จนกระทั่งเห็นข้อความในไลน์ที่ส่งกระหน่ำกันมาเรื่องคุณป้าชาวจีนคนหนึ่งมีคอมเมนต์แสนจะแหลมคมเรื่องห้างออนไลน์ของ แจ๊ก หม่า

ใครที่ยังไม่ได้อ่านก็อ่านตรงนี้เลยค่ะ

จากเรื่อง Jack Ma เปิด Smart Supermarket

…เมื่อคุณป้าท่านหนึ่ง ณ เมืองหางโจว (ใกล้เซี่ยงไฮ้) ตอบคำถามนักข่าว คุณป้าก็ดังขึ้นมาทันทีในชั่ว…ข้ามคืน

นักข่าว : Jack Ma เปิด Smart Supermarket แบบไร้คน คุณป้าคิดว่ายังไงครับ?

คุณป้า : หา? Super ไร้คน แล้วทำไมไม่ปิดไปซะล่ะ ไม่มีคน?

นักข่าว : คุณป้าครับ ความหมายคือ ไม่มีพนักงาน คนเก็บเงินอะไรพวกนี้นะครับ

คุณป้า : งั้นก็ต้องเรียก Supermarket ไร้พนักงานซิ เห้อ! ไม่รู้พวกเธอเป็นนักข่าวกันได้ยังไง ระดับความรู้ภาษาแบบนี้

นักข่าว : ครับๆ แล้วคุณป้าคิดเห็นยังไงกับ Supermarket ไร้พนักงานครับ?

คุณป้า : Supermarket ไม่ต้องจ้างพนักงานแล้ว ราคาสินค้าถูกลงหรือเปล่า?

นักข่าว : คือเรื่องนี้เราไม่แน่ใจครับ

คุณป้า : เอ้า พวกเธอเป็นนักข่าวได้ยังไง ปัญหาของประชาชนไม่ไปใส่ใจ วันๆ สนใจแต่ว่า Jack Ma จะเล่นแร่แปรธาตุอะไร เรื่องที่คนสนใจคืออะไร? คือมีของปลอมไหม ราคาถูกลงหรือเปล่า ส่วนเรื่อง Supermarket จะมีพนักงานหรือเปล่ามันไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลย!

นักข่าว : คุณป้าไม่คิดว่าการเกิดขึ้นของ Supermarket แบบไร้พนักงาน จะเปลี่ยนแปลงวิธีการจับจ่ายสินค้าแบบเดิมๆ ได้เหรอครับ

คุณป้า : เปลี่ยนอะไรล่ะ? ซื้อของจ่ายตังค์อ่ะเหรอ? ใช้ Alipay จ่าย ก็ใช้ตังค์ฉันจ่ายไม่ใช่เหรอ

นักข่าว : ผมคิดว่าคุณป้าคงยังไม่ค่อยเข้าใจเทรนด์ที่เปลี่ยนไปของยุคสมัย

คุณป้า : นี่ แค่ทำให้ Supermarket ไม่มีพนักงานก็คือเทรนด์ที่พัฒนาแล้วเหรอ แค่เอาพนักงานระดับล่างออกก็เก่งแล้วเหรอ? ถ้าเก่งจริงก็ทำ Supermarket ที่ไม่มีเจ้าของสิ หรือทำหน่วยงานรัฐที่ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐ

นักข่าว : ไม่ทราบว่าคุณป้ามีปัญหาอะไรกับ Jack Ma หรือเปล่าครับ?

คุณป้า : ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ Jack Ma แต่ฉันคิดว่านักข่าวไร้สาระอย่างพวกเธอถามคำถามที่ไม่ตรงจุด Jack Ma เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเรา แต่มันไม่ควรจะเป็นแค่การเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เราต้องการคือการเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับความสุข ตอนนี้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ทำให้เรามีความสุข แต่กลับเพิ่มความยุ่งยากมากมาย สิ่งนี้ต่างหากที่นักข่าวอย่างพวกเธอควรจะให้ความสนใจ

นักข่าว : มึนตึ้บ…

คุณป้าน่าจะจบสูงมาก ถึงตอบคำถามนักข่าวได้เก่งขนาดนี้ เงิบเลยทีเดียวนักข่าว 555 ชอบๆๆ

อ่านไปทั้งรื่นรมย์ ทั้งได้คิดนะคะ และเห็นด้วยกับคุณป้าทุกประการ

สินค้าควรถูกลง สินค้าต้องเป็นของดีไม่หลอกลวง

ที่ผู้เขียนไม่เห็นด้วยคือคอมเมนต์ที่ว่า “คุณป้าน่าจะจบสูงมาก” แกอาจจะไม่จบสูงมาก แต่ฉลาดมากก็ได้

ว่าไปแล้วการช้อปปิ้งออนไลน์จะมาก็ต่อเมื่อคนสามารถเป็นเจ้าของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และใช้มันเป็น

สำหรับสินค้าที่ต้องใช้ประจำๆ อย่างสบู่ ผงซักฟอก กระดาษชำระ น้ำยาล้างจาน หรือแม้แต่น้ำผลไม้กล่อง ก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปที่ห้าง เพราะไม่ต้องเลือกดู

เดี๋ยวนี้แม้แต่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เท่าที่สำรวจดูหนุ่มสาวเขาก็ช้อปออนไลน์กัน เพราะเขาต้องทำงาน ไม่มีเวลาไปช้อป

ถ้าจะถือโอกาสไปนั่งเล่นกินขนมกินกาแฟแถวห้างก็อีกอย่าง

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนจะมีการทำนายว่าทั้งธนาคารก็ดี ทั้งห้างก็ดี จะต้องมลายหายไปในเวลาเพียง 2 ปี คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะว่าคนชั้นกลางเดี๋ยวนี้ก็ทำธุรกรรมการเงิน และซื้อข้าวของออนไลน์กันมากแล้ว

แม้แต่อาหารสด ที่คนเรายังต้องกินทุกวัน วันละ 3 มื้อ ก็สามารถซื้อออนไลน์ได้

แต่สำหรับคนบางคนก็ชอบไปดูให้เห็นกับตาว่าปลาสดที่ซื้อเหงือกแดงสดไหม หรือขึ้นฉ่ายใบเหลืองหรือเปล่า ก็ยังชอบไปตลาดสด

ไม่รู้ว่าห้างกำลังศึกษาลู่ทางจะหดห้างให้เหลือแต่ร้านขายอาหารสดร้านเล็กๆ แทรกอยู่ในชุมชนแบบในเมืองนอกหรือเปล่า

ต้นแบบของความเปลี่ยนแปลง ก็มักจะมาจากสังคมตะวันตกละค่ะ ไม่ช้าไม่นานความเปลี่ยนแปลงก็จะมีเหมือนๆ กันหมดทั่วโลก