ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18 - 24 สิงหาคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | วิถีแห่งอำนาจ |
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร
กรรไกร เหล็ก ตัดแส้ (100)
นับแต่อึ้งเอี๊ยะซืออำลาจากไป ด้านหลักจึงอยู่กับเอี้ยก่วย เมื่อส่าโกวถูกฝ่ามือเบญจพิษของลี้มกโช้วต้องนอนทอดกายหลงเหลือลมหายใจร่อแร่ รวยริน
ทาง 1 เที้ยเอ็งมอบยาเม็ดน้ำค้างหยกเก้าบุปผาของสำนักเกาะดอกท้อให้รับประทาน
ขณะเดียวกัน ทาง 1 เอี้ยก่วยอาศัยวิธีขจัดรักษาพิษของฝ่ามือซึ่งอยู่ในบันทึกเบญจพิษ โคจรพลังฝ่ามือนวดเฟ้นจุดเส้นให้
“สตรีดุร้ายฟาดกลางหลังเรา ส่าโกวฟาดกลับหลังใส่นาง”
ลี้มกโช้วแม้ลอบทำร้ายประสบผลที่ข้อแขนกลับถูกส่าโกวฟาดฝ่ามือกลับหลังจนกระดูกแขนแทบหัก จึงทั้งแตกตื่นทั้งเจ็บปวดไม่กล้าซ้ำเติมปลิดชีวิต
รีบโลดแล่นจากไป
เอี้ยก่วยหยิบด้ายเส้นหนึ่งจากตะกร้า คว้ากรรไกรตัดเป็นท่อนๆ โดยไม่มีจุดมุ่งหมายใด ส่าโกวพลันร้องขึ้น
“ตัดไม้กวาดของสตรีดุร้ายจนขาด ตัดไม้กวาดขาดไป”
เอี้ยก่วยพลันฉุกคิด “แส้ปัดของนางมารเป็นวัตถุอ่อนนุ่ม นางกลับใช้ออกด้วยความเลิศล้ำพิสดาร แม้กระทั่งดาบ กระบี่วิเศษยังไม่อาจทำอย่างไรได้ หากแม้นมีมีดกรรไกรเล่มหนึ่งตัดฉับใส่แส้ปัดของนางก็วิเศษแท้”
คิดพลางเคลื่อนไหวพลาง
ขยับเส้นด้ายมือซ้าย จู่โจมออกราวแส้ปัด ยื่นกรรไกรในมือขวาออก ตัดเส้นด้ายขาดเป็น 2 ท่อน จากนั้นคิดค้นสภาวะของแส้ปัด ถือกรรไกรไล่จู่โจม
เที้ยเอ็ง เล็กบ้อซัง ชมดูก็เข้าใจจิตเจตนา
“จากที่นี่ขึ้นเหนือไป 7-8 ลี้มีร้านตีเหล็กแห่งหนึ่ง” เป็นข้อเสนอแนะจากเที้ยเอ็งซึ่งรู้รายละเอียดของพื้นที่ดี
เอี้ยก่วยครุ่นคิด “ยามรีบร้อนฉุกละหุกยากที่จะจัดสร้างอาวุธเช่นนี้ขึ้น แต่เราต้อนรับศึกคอยพลิกแพลงตามสถานการณ์ ย่อมง่ายดายกว่าฝึกปรือเพลงกระบี่ขลุ่ยหยกหลายร้อยเท่า จะอย่างไรไม่มีหนทางอื่น ได้แต่ทดลองดู”
ทั้ง 4 จึงร่วมเดินทางไปยังร้านตีเหล็ก
ช่างตีเหล็กกำลังแขนกล้าแข็ง ควงค้อนเหล็กทุบตีตัดเหล็กเส้น 2 เส้นกลายเป็นแบบของมีดกรรไกร เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ยังไม่ทันเสร็จสมบูรณ์พลันได้ยินที่ด้านหลังบังเกิดสุ้มเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น
“สั่งทำมีดกรรไกรขนาดใหญ่เช่นนี้เพื่อตัดแส้ปัดของเราหรือ”
ระหว่างลี้มกโช้วปรากฏตัวและรอคอยการเสร็จสมบูรณ์ของกรรไกรตัดแส้ ห้วงหนึ่งนางเอ่ยถามขึ้นอย่างเย็นชา
“อึ้งเอี๊ยะซือเล่า”
ช่างตีเหล็กพอได้ยินคำ “อึ้งเอี๊ยะซือ” ร่างพลันสะท้านขึ้นกวาดมองนางแวบหนึ่ง จากนั้นก้มหน้าตีเหล็กต่อไป
“อึ้งเอี๊ยะซือมีชื่อจอมปลอม เพียงพึ่งพาที่รับศิษย์มากหลาย ใช้พวกมากเข้าเอาชัย เฮอะ ในศิษย์ทั้งหลายของเขามีผู้ใดใช้การได้อย่างแท้จริง” กล่าวพลางตวัดมือซ้ายบังคับกระดาษขาวพลิ้วไป จากนั้นขยับมือเบาๆ ซัดเข็มเล่มหนึ่งออกไปตรึงกระดาษติดเสาห้อง
“เราทิ้งสิ่งนี้ไว้เป็นหลักฐาน วันหน้าอึ้งเล่าเซี้ยกลับมาจะได้ทราบว่าศิษย์วิเศษทั้ง 2 ของเขาถูกผู้ใดฆ่าทิ้ง”
ช่างตีเหล็กหยีตาแดงก่ำมองกระดาษขาวเห็นข้อความ
“เจ้าเกาะดอกท้อเรืองฤทธิ์ รับสานุศิษย์มากหลาย ใช้ 5 รุ่ม 1 คิดทำลาย เป็นที่อับอายขายหน้า”
จึงใช้มือซ้ายยื่นคีมเหล็กออก คีบดึงทั้งเข็มทั้งกระดาษออกมา โยนลงในเตาอัคคีร้อนแรง กระดาษขาวถูกเผาเป็นเถ้าถ่านในบันดาล
สถานการณ์แปรเปลี่ยนเพราะการทำลายกระดาษเท่ากับท้าทายต่อลี้มกโช้วโดยตรง สะท้อนว่าช่างตีเหล็กไม่เห็นด้วยกับข้อความในกระดาษ
เพราะว่าช่างตีเหล็กก็เป็นศิษย์คนหนึ่งของเกาะดอกท้อ
นี่เป็นกลยุทธ์ 1 ทางการประพันธ์ เป็นความชาญฉลาดในท่วงทำนองของ “กิมย้ง” เท่ากับเป็นการเพิ่มตัวละคร สร้างความยอกย้อนยิ่งให้กับสถานการณ์
เป็นอีกสถานการณ์ 1 เป็นสถานการณ์ใหม่