E-DUANG : การสึก ของ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ท่ามกลาง ปัญหา ความขัดแย้ง

ทำไมจึงเกิดกระแส”ต้าน”ต่อการสึกหาลาพรตของ พระมหาไพรวัลย์ วรวรรโณ อย่างผิดปกติ

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีความเรียกร้องต้องการให้พ้นจาก”สมณะ”

ไม่ว่าจะมองปฏิกิริยาและท่าทีจากบาง”นักร้อง”เสียงดีและการเปิดปฏิบัติการใส่สีตีไข่ในเรื่องเงินจำนวนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทในมือของพส.เมื่ออำลาจากวัดสร้อยทอง

แม้เมื่อ”พส.ไพรวัลย์”อำลาจากผ้าเหลืองมาสวมโสร่งพร้อมกับเสื้อยืดบรรดาโจทก์เก่าในทางความคิดก็มิวายตามไปค่อนขอด ไม่ว่าเมื่อกินหมูกระทะ ไม่ว่าเมื่อสวมใส่อาภรณ์แบรนด์เนม

ตอนนี้แหละที่พลานุภาพแห่งการตอบโต้ของ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร จึงสำแดงออกอย่างชนิดตาต่อตา ปากต่อปาก ท่ามกลาง 

การกดไลค์ กดแชร์สนั่นเมืองทะลุหลักหลายแสน

เท่ากับเป็นสัญญาณเตือนถึงความร้อนแรงแห่งพิโรธวาทัง

คำถามจึงมิได้พุ่งไปยัง นายไพรวัลย์ วรรณบุตร หากแต่ตรงไปยังบรรดาโจทก์ทั้งหลายในทางความคิด ในทางการเมือง

รูปธรรมยืนยันว่าไม่สามารถ”เล่นงาน”ได้เพียงฝ่ายเดียวอีกแล้ว

 

ต้องยอมรับว่าเหตุผลของการสึกหาลาพรตของพส.ไพรวัลย์ครั้งนี้มีรากฐานสำคัญ

1 สำแดงความกตัญญู 1 ทนไม่ได้ต่ออำนาจไม่เป็นธรรม

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เป็นการสึกหาลาพรตในห้วงที่มีคำสั่งปลด 3 เจ้าคณะที่ปทุมธานี ที่ฉะเชิงเทราและที่กาฬสินธิ์อย่างมากด้วยเงื่อนงำ

ที่สำคัญก็คือเป็นเงื่อนงำที่ไม่มีคำอธิบายว่า 3 เจ้าคณะนั้นผิดตรงไหน ผิดอย่างไร

นี่ย่อมสอดรับกับกรุ่นแห่งความไม่พอใจของพส.คนสำคัญแห่งวัดสร้อยทองที่เห็นว่าพระอาจารย์ของตนซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสอยู่ 

จะมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็น”เจ้าอาวาส”ตามที่ควรจะเป็น

 

กรณีการสึกของ พระคนดัง จึงทำให้ปัญหาอันดำรงอยู่ภายในศาสนจักรถูกขยายกลายเป็นคำถามใหญ่นำไปสู่”ปฏิกิริยา”.

โดยหารู้ไม่ว่า ยิ่งก่อปฏิกิริยาประหลาดๆจาก”นักร้อง”และบางสำนักข่าว กลับยิ่งจะแปรโจทก์ให้กลายเป็น”จำเลย”

เพราะอาวุธในมือของ”พส.”คือ อาวุธจากความเป็นจริง