หลังเลนส์ในดงลึก / ปริญญากร วรวรรณ / ‘ถอย’

หลังเลนส์ในดงลึก

ปริญญากร วรวรรณ

 

‘ถอย’

 

ผมนึกถึงความรกทึบในป่าดิบฝน ครั้งที่ทำงานอยู่บริเวณทิวเขาบูโดบ่อยๆ ที่นั่น ผมรู้สึกราวกับอยู่อีกดินแดนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา วัฒนธรรม ความมีน้ำใจโอบอ้อมอารี ของผู้คนซึ่งมีโอกาสได้ร่วมงาน คนเหล่านั้นเปรียบเสมือนเป็น “บาบอ” ของผม

บาบอ อันหมายถึง ครู

ว่าตามจริง ในความรกทึบของป่าดิบฝนอย่างนั้น ชีวิตที่อาศัยอยู่ต้องมีความพิเศษพอควร ไม่ว่าจะเป็นพืชพันธุ์ไม้ สัตว์ป่า รวมทั้งคน

หลายปีกับการทำงานในป่าด้านตะวันตก เมื่อมาถึงเชิงเขาบูโด เริ่มเดินขึ้นภูเขา ก็พบกับความรู้สึกคล้ายกับว่า ผมต้องเริ่มต้นใหม่

  เป็นบทเรียนอันทำให้รู้ว่า เมื่อใดที่คิดว่า “รู้” อะไรๆ แล้วนั้น แท้จริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย

 

บริเวณทิวเขาบูโด นอกจากชีวิตที่อาศัยอยู่บนเรือนยอดอย่าง นกเงือก มีพวกที่อาศัยตามพื้นอีกไม่น้อย

นกหว้า เป็นอีกชนิดหนึ่งที่ทำให้ช่วงเวลาเหน็ดเหนื่อยตอนเดินขึ้นไปตามเส้นทางรกทึบสูงชัน รื่นรมย์ขึ้น แม้ว่าจะได้ยินเพียงเสียงก้องกังวานเท่านั้น

ร่องรอยนกหว้าตัวผู้ ซึ่งปรากฏบนลานเล็กๆ ตามสันเขา ลานนี้มีไว้เพื่อใช้รำแพน อวดความสวยงามแข็งแรงให้ตัวเมียสนใจ ในช่วงฤดูแห่งความรัก สัตว์ป่าตัวผู้ พวกมันต้องเสนอตัวเพื่อให้ได้รับการเลือก ไม่ใช่เป็นผู้เลือก และไม่ใช่เรื่องง่ายดาย ในการทำให้ถูกเลือก

นอกจากต้องแข่งขันกับตัวผู้ตัวอื่น ลาน ก็เป็นสถานที่ซึ่งหวงแหนยิ่งกว่าชีวิต

มีตำนานเล่าต่อๆ กันมาว่า การล่านกหว้าตัวผู้ไม่ยาก เพราะนิสัยหวงลาน และต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ ใบไม้สักใบก็ไม่ยอมให้มี

“คนล่าจะตัดไม้ไผ่ เหลาบางๆ ให้คมเอาไปปักไว้กลางลาน นกหว้าพยายามจะเอาออก ใช้ตีนเขี่ยไม่ออก สุดท้ายมันจะเอาคอพันเพื่อดึง”

ผมฟังเรื่องนี้จากลุงเดี้ยน แห่งป่าเขาสก ครั้งที่แกพาผมไปดูร่องรอยปลัก ที่ในวัยหนุ่มเคยยิงกระซู่ได้

ภาพที่เห็นจากการฟัง คือนกเอาคอรูดกับคมไม้ไผ่ ตายเพราะอยากให้ลานสะอาด ตายเพราะความหวงลาน

  ตายเพราะอยากให้ “รัก” สมหวัง

นกหว้า – ในช่วงฤดูแห่งความรัก นกหว้าตัวผู้จะคอยเฝ้าอยู่ใกล้ลานที่มันจะใช้รำแพนอวดความสวยงามแข็งแรงให้ตัวเมียเลือก

ไม่ว่าจะเป็นป่าดิบ ในป่าเขาสก หรือป่าบูโด ผมไม่เคยพบนกหว้า พบเพียงลาน และได้ยินเสียงก้องกังวาน แต่ในป่าด้านตะวันตกผมพบกับนกยูงญาตินกหว้าบ่อยๆ

ในขณะที่นกหว้าหลบซ่อนตัว มีอาณาเขตและลานแสดงความรักอยู่ในป่ารกทึบบนสันเขา นกยูงเลือกใช้บริเวณหาดโล่งริมลำห้วยเป็นที่แสดงความรัก

ตั้งแต่ช่วงปลายๆ เดือนตุลาคม นกยูงตัวผู้เริ่มมีหางยาวสลวย ส่งเสียงร้องก้อง

นกยูงทำให้ผมเห็นอย่างหนึ่ง หางยาวสลวยของมันนั้นมีไว้เพียงเพื่อประกอบการเรียกร้องความสนใจจากตัวเมีย

พอถึงเดือนกุมภาพันธ์ มันจะสลัดหางยาวๆ ทิ้งราวกับไม่ไยดี หางยาวๆ ไม่เหมาะกับชีวิตประจำ เกะกะ พวกมันไม่ยึดติดกับสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม

นกยูงตัวผู้เริ่มมีหางยาว พร้อมๆ กับใบต้นไม้ในป่าที่นกยูงอยู่ลดการใช้น้ำ ความชื้นในอากาศเหลือน้อย ใบไม้เปลี่ยนสีใบจากสีเขียวเป็นสีแดง สีเหลือง สะพรั่งไปทั้งป่า

ในสายตาคน นั่นคือความงดงาม แต่นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของต้นไม้ ปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง เพื่อความอยู่รอด

เมื่อพบกับนกยูง ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังได้พบกับชีวิตที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม สีและลวดลายบนขนงดงามอย่างน่าอัศจรรย์

ว่ากันว่า นกหว้า มีรายละเอียดที่สวยงามกว่า

เช้าๆ และเย็น มีความเหมือนกัน ทั้งตอนอยู่ในป่าด้านตะวันตกและในป่าดิบฝนอย่างทิวเขาบูโด คือจะได้ยินเสียงร้องก้องกังวานจากนกยูง และนกหว้า

โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูฝนเสียงร้องนี้จะดังสม่ำเสมอ

ในป่าดิบฝน แม้ท้องฟ้ายามเย็นจะยังมีแสงสว่าง แต่ในป่าจะมืดสลัว

  แมลงเริ่มกรีดเสียง มีเสียงนกหว้าอันฟังดูอ้อยสร้อย คล้ายจะยังไม่สมหวัง

 

บางช่วงเวลา ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในเมืองรอบๆ ทิวเขาบูโดคล้ายจะรุนแรง และรุนแรงขึ้นในตอนกลางๆ เดือน มีระเบิดเกิดขึ้นหลายแห่ง ในหลายสถานที่ เราได้รับคำเตือนให้อยู่กับที่ ไม่ควรเดินทางไปในชุมชน

เราเลือกการเดินขึ้นภูเขา เหล่าบาบอยังพูดคุยหัวเราะ มีเรื่องเล่ามากมายตามปกติ

นกเงือกเริ่มทยอยออกจากโพรง

   ลูกๆ นกเงือกเมื่อออกมาจากโพรง พวกมันจะใช้เวลาอยู่กับพ่อ-แม่ระยะเวลาหนึ่ง ใช้เวลาเรียนรู้ รับถ่ายทอดประสบการณ์ เพื่อใช้ในวิถีชีวิต

 

ก่อนมาจากป่าด้านตะวันตก ผมรู้ว่างานที่จะทำไม่ง่าย และก็พบว่าเป็นเช่นนั้น

บนเขา ผมไม่พบนกหว้า ไม่พบสมเสร็จ ไม่พบสัตว์ผู้ล่า

ไม่พบ ไม่ได้หมายความว่าไม่มี

บนภูเขา บนด่าน ผมพบกับคนบ่อย พวกเขามักถามผมด้วยคำถามคล้ายๆ กันว่า “มาอยู่บนเขาอย่างนี้ ไม่กลัวเหรอ”

ผมจะตอบด้วยคำตอบเดียว

   “ไม่กลัวครับ จะกลัวอะไร ผมอยู่กับบาบอ”

 

ทํางานอยู่บนเขาที่เสียง “ความไม่สงบ” เดินทางมาถึง ผมรู้สึกอย่างหนึ่ง

บางอย่างบนภูเขารกทึบที่รู้ว่ามี ผมต้องเดินขึ้นไปหา

แต่กับบางอย่าง ดูเหมือนว่าหากอยากให้เกิดขึ้น

ผมต้องรับฟัง และถอยออกมา

“ถอย” เพื่อจะได้ยิน และเห็นภาพอันชัดเจน…