E-DUANG : ความเงียบของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  

ในความเคลื่อนไหวไม่ว่ามองผ่าน “แผนกรกฎ 52” ไม่ว่ามองผ่าน

“7 มาตรการ” จากมหาดไทย

ไม่ว่ามองผ่านการขยับของ “กกล.รส.”

เห็นได้จากทหารที่เดินทางไปพบเจ้าของ “รถตู้” เห็นได้จากทหารที่เดินทางไปพบ “ชาวนา”

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เงียบอย่างยิ่ง

เป็นความเงียบภายหลังจากแถลง “ปิดคดี” ด้วยตนเองเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม

เป็นความเงียบภายหลังการ “เข้าวัด”

เข้าวัดที่จังหวัดอันเป็นบ้านเกิด เข้าวัดที่กทม.พร้อมกับได้คำอวยพรและพระเครื่องมาปลอบใจ

เป็น “พระรอด” ด้วยความห่วงใยจาก “พระ”

 

ไม่มีใครรู้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คิดและมีความรู้สึกอย่างไรต่อทุกแผน ทุกมาตรการที่ออกมา

ไม่ว่าจะจาก “คสช.” ผ่าน “กกล.รส.”

ไม่ว่าจะจาก “มหาดไทย” ผ่านคำสั่งการถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ไม่ว่าจะจาก “แผนกรกฎ 52” ของ “ตำรวจ”

รวมถึงปฏิบัติการด้านการข่าว หรือ IO จากบรรดาคนที่เป็นส่วนหนึ่งของแผน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยออกมาในเรื่องการว่าจ้างมวลชนหัวละ 1,500 บาท

ไม่ว่าจะเป็น “หนังสือ” จาก “สตง.” ให้สอดส่องอปท.ว่าอาจใช้เงินผิดประเภทขนคนมายังบริเวณหน้าศาล

ทุกปฏิบัติการล้วนรวมศูนย์ไปยัง “ยิ่งลักษณ์”

 

ไม่ว่าในที่สุด “คำพิพากษา” ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะออกมาอย่างไร

แต่สภาพการณ์นับแต่ก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษ ภาคม 2557 นับว่าเด่นชัด

เด่นชัดว่าเป้า คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เป็นเป้าหมายเดียวกันแลละม้ายเหมือนกันกับเมื่อก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ที่ดำเนินไปด้วยความดุ เดือดและเข้มข้น

เพียงแต่แปรจาก “ทักษิณ” มาเป็น “ยิ่งลักษณ์”