E-DUANG : บทบาท “ด้านกลับ” บทบาท “สตง.”

การออกโรงของ “สตง.” ในประเด็น “อปท.” บางแห่งนำเงินจากงบ ประมาณมาใช้อย่างผิดประเภท

“หลอก” ประชาชนมา “หน้าศาล”

อาจสร้างความคึกคักให้กับ “สนช.” บางคนที่เคยออกมาระบุค่าหัวในการว่าจ้างรายละ 1,500 บาท

ขน “มวลชน” มาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

แต่การออกโรงผ่านการทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม

ก็ส่งผลให้ “สตง.” ต้องขึ้นไปบน “หลังเสือ”

และบังเอิญเสือตัวนั้นมิได้อยู่พรรคเพื่อไทย มิได้เป็นคนเสื้อแดง หากแต่อยู่ใน “อปท.”

ทำให้ยากยิ่งขึ้นเมื่อต้องการลงจาก “หลังเสือ”

 

ความจริง รายละเอียดของเรื่องนี้ “สตง.” สืบสวนได้ไม่ยาก เพราะเป็นเรื่องของวันที่ 1 สิงหาคม

วันนั้น มี “อปท.” ใดนำประชาชนมา”กทม.”บ้าง

ไม่ว่าจะเป็นอปท.ภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นอปท.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องมีรายละเอียดเพราะว่าใช้เงินจากงบประมาณ

เพียงดู “วาระ” ของอปท.ก็สามารถได้ “คำตอบ”

เพียงแต่การตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทยผ่านผู้ว่าราช การจังหวัด ผ่านนายอำเภอ หลังได้หนังสือจาก”สตง.”ปรากฏว่าไม่พบหลักฐานตามที่สตง.แจ้งไป

เป็นการยืนยันจากปาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่า การกระทรวงมหาดไทย

ตรงนี้แหละอาจทำให้สตง.กลายเป็น “เสือลำบาก”

 

ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับว่าก็คือ หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 มีการจัดระเบียบ “อปท.”

ผ่าน “มาตรา 44” อย่างคึกคัก เข้มข้น

บรรดาอปท.ที่ต้องสงสัยว่าสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยหรือใกล้ชิดกับนปช.ล้วนถูกจัดระเบียบ เรียบร้อย

เป็น 3 ปีเศษแห่งการกวาดล้าง

บรรดา “อปท.” ที่เหลือจึงแทบจะเป็นอปท. “ลายพราง” อยู่ในโอวาทของ “คสช.” ทั้งสิ้น เพราะว่าใครที่ไม่อยู่ในแถวก็ล้วนถูกย้าย ถูกแขวนครบครัน

หรือว่า”สตง. “สงสัย” ประสิทธิภาพของ “คสช.”