ส่อง ‘โตโยต้า คัมรี’ รุ่นปรับโฉม โฉบเฉี่ยวมากขึ้น-ออปชั่นจัดเต็ม/ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

 

ส่อง ‘โตโยต้า คัมรี’ รุ่นปรับโฉม

โฉบเฉี่ยวมากขึ้น-ออปชั่นจัดเต็ม

 

หลังจากอวดโฉมเจเนอเรชั่นล่าสุดมานาน ในที่สุดโตโยต้าก็ได้เวลาปรับโฉม “คัมรี” (CAMRY) พี่ใหญ่ของค่ายเสียที

โดยมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร และไฮบริด โดยตัดรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรทิ้งไป

นัยว่าเพราะไม่ได้รับความนิยมมากนัก และโตโยต้าต้องการให้ผู้บริโภคได้ขับรถแรงและหรูหรา

แน่นอนว่าโตโยต้าต้องการมาซดกับ “ฮอนด้า แอคคอร์ด” ที่เพิ่งปรับโฉมไปก่อนหน้านี้

บวกกับค่ายญี่ปุ่นอื่นๆ เฟดตัวออกจากกลุ่ม “ดี-เซ็กเมนต์” ไปหมดแล้ว ทำให้ในตลาดนี้เหลือแค่ 2 ค่ายที่ปักหลักแลกหมัดกัน

การตั้งราคาจึงออกมาสูสีกันสุดๆ

โตโยต้า คัมรี มาภายใต้แนวคิด “Unprecedented Change – ปรากฏการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่”

ต้องบอกว่าเปลี่ยนไปมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบใหม่ ดูเฉี่ยวกว่าเดิม พร้อมกับคิ้วโครเมียม

ไฟหน้า LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ และไฟ Follow-Me-Home

เช่นเดียวกับไฟเดย์ไทม์ ไฟตัดหมอกหน้า และไฟท้าย เป็น LED เช่นกัน

กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพับเก็บอัตโนมัติ ไฟเลี้ยวกระจกมองข้างแบบ LED

คิ้วฝาท้ายโครเมียม พร้อมท่อไอเสียคู่

ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 18 นิ้วลายสวย

ภายในใช้วัสดุตกแต่งลายไม้แบบใหม่ เบาะหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์แบบนุ่มพิเศษ ติดตั้งมูนรูฟมาด้วย

พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ระบบมัลติฟังก์ชั่น ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง

หน้าจอแสดงผลข้อมูลขับขี่ MID ขนาด 7 นิ้ว

ส่วนรุ่นท็อป มีจอ Head Up Display แสดงที่กระจกหน้าด้วย

หน้าจอแบบ Floating type ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 9 นิ้ว แบบใหม่ สามารถเชื่อมต่อทุกความสะดวกผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto

ระบบปรับอากาศแบบ 3 โซน แยกซ้าย-ขวา และผู้โดยสารตอนหลัง

รุ่นท็อปยังเพิ่มระบบกรองอากาศนาโนอี มาให้ด้วย

เบาะนั่งคู่หน้า Ventilator พร้อมพัดลมจากใต้เบาะและพนักพิง เบาะนั่งด้านหลังปรับไฟฟ้า พร้อมแผงควบคุมที่คอนโซลด้านหลัง

หมอนพิงศีรษะเบาะหน้าปรับพับเก็บได้ เพิ่มทัศนวิสัยให้กับผู้โดยสารด้านหลัง พนักพิงเบาะสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า

พร้อมทั้งแผงควบคุมหน้าจอสัมผัสแบบดิจิตอลที่เบาะนั่งด้านหลัง เพื่อให้สามารถควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้ตามต้องการ

เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 ขุมพลัง เริ่มจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร Dynamic Force (A25A-FKB) ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที

เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเคลมไว้ที่ 15.6 กิโลเมตร/ลิตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด E85

หากเทียบจากขนาดตัวถังและเครื่องยนต์ ต้องถือว่าประหยัดได้ใจพอสมควร แต่ถ้าใช้งานจริงคงไม่ถึง

และรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ที่ยังใช้ขุมพลัง ขนาด 2.5 ลิตร Dynamic Force (A25A-FXS) กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที

มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร กำลังสูงสุด 88 กิโลวัตต์ / แรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร

แบตเตอรี่ไฮบริดชนิดนิกเกิลเมตัลไฮดราย

เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 211 แรงม้า

เกียร์อัตโนมัติ E-CVT อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 23.8 กิโลเมตร/ลิตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด E20

ระบบช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ส่วนด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ ให้ทั้งความนุ่มนวลและแน่นหนึบหายห่วง

มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,840 x 4,885 x 1,445 ม.ม. ความยาวช่วงล้อ 2,825 ม.ม.

ส่วนความปลอดภัยและตัวช่วยการขับขี่หายห่วง เพราะใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด

อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) แบบใหม่ ที่เพิ่มระบบการตรวจจับคนเดินเท้าและคนขี่จักรยาน โดยระบบจะเตือนและช่วยเบรก

ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-Speed สามารถลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่ง ที่มาพร้อมระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน

และช่วยลดความเร็วขณะเข้าโค้ง (Curve Speed Reduction) อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง พร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ (Intelligent Clearance Sonar with Rear Cross Traffic Braking)

กล้องมองรอบคัน 360 องศา (Panoramic View Monitor) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยรอบด้าน

ส่วนระบบอื่นๆ มาครบถ้วน อาทิ ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง

สัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน

ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนและพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ฯลฯ

สนนราคา รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2 รุ่นคือ 2.5 Sport ราคา 1,475,000 บาท และรุ่น 2.5 Premium ราคา 1,599,000 บาท

ส่วนไฮบริดมี 2 รุ่นเช่นกัน 2.5 HEV Premium ราคา 1,659,000 บาท และ 2.5 HEV Premium Luxury ราคา 1,809,000 บาท

และหากใครยังรู้สึกว่าการตกแต่งที่โตโยต้า คัมรีให้มานั้นยังไม่ถูกอกถูกใจ โตโยต้าก็เตรียมชุดแต่ง “Modellista” ออกแบบจากประเทศญี่ปุ่นภายใต้แนวคิด “Tokyo Style” มาให้เลือกในราคาเพิ่มขึ้น 41,000 บาท