E-DUANG : “พันธมิตร” ดับเครื่องชน “ป.ป.ช.”

การออกโรงของ “พันธมิตร” ในกรณีสลายการชุมนุมเมื่อเดือนตุลาคม 2551 ทำให้ “สถานการณ์” ทางการเมืองเพิ่มความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

เป็นความสลับซับซ้อนเนื่องแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

เพราะมีผลในการเปลี่ยน “ชุด” ของ “ป.ป.ช.”

การเปลี่ยนชุดของ “ป.ป.ช.” ทำให้สภาพภายในของ “ป.ป.ช.” ต้องคลี่แบ ณ เบื้องหน้าประชาชน

ทำให้มองเห็นรอย “ปริ” รอย “ร้าว”

ไม่เพียงแต่เป็นรอยปริรอยร้าวระหว่าง “ป.ป.ช.” แต่ละชุด หากแต่ยังเน้นย้ำรอยปริรอยร้าวกับ “อัยการ”

แม้จะเป็นเรื่องของป.ป.ช.”เก่า” ก็ตาม

 

การนำคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อเดือนตุลาคม 2551 ของ “ป.ป.ช.”

มิได้เป็นเรื่องของ “อัยการ”

ความเห็นของอัยการสูงสุดต่อคดีนี้ก็คือ ไม่ควรนำส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ความเห็นของ”อัยการ”เช่นนี้ “ป.ป.ช.”ไม่เห็นด้วย

ป.ป.ช.จึงใช้ช่องทางที่มีอยู่จัดหา “ทนายความ” แล้วส่งฟ้องศาลด้วยตัวเอง

นี่เป็นเรื่องของป.ป.ช.”ชุดเก่า” มิใช่ชุด”ปัจจุบัน”

ผลที่ปรากฏในคำพิพากษาเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม เป็นไปตามข้อทักท้วงของสำนักงานอัยการสูงสุดทุกประการ

จึงเท่ากับฉายให้เห็น”ข้ออ่อน”ของ “ป.ป.ช.”

 

เมื่อคำพิพากษาปรากฏและความโน้มเอียง 1 ของ ป.ป.ช.ก็คือยอมรับและไม่สุกงอมเท่าใดนักที่จะ”อุทธรณ์”

ทำให้ “พันธมิตร” ต้อง “แข็งกร้าว”

หากมติของคณะกรรมการป.ป.ช.เป็นไปในทางไม่อุทธรณ์โอกาสที่ “พันธมิตร” จะหันปลายหอกเข้าใส่ “ป.ป.ช.”ก็มีแนวโน้มและความเป็นไปได้สูงยิ่ง

ผลก็คือ ป.ป.ช.จะตกเป็น “เป้า”

ไม่เพียงแต่เป็นเป้าของ “พันธมิตร” หากแต่ยังเป็นเป้าของคนเสื้อแดง “นปช.”อีกด้วย

เพราะกรณีสลายการชุมนุมปี 2553 ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อกังขา