ท่วงท่าการเดินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อเข้าสู่ห้องประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ณ รัฐสภา ได้รับความสนใจจาก”สื่อ”และสังคมอย่างเป็นพิเศษ

เพราะเป็นอากัปกิริยาที่คล่องแคล่ว ว่องไวอย่างชนิดที่เรียกได้ว่า”ปราดเปรียว”

ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ภาพของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นภาพซึ่งท่วงท่าการเดินเหินต้องบรรยายว่า”ต้วมเตี้ยม” เชื่องช้ากว่าจะก้าวในแต่ละก้าว

แต่ที่เห็นกันเมื่อตอนสายของวันพุธที่ 15 กันยายน ณ รัฐสภา กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ไม่จำเป็นต้องมีทหารคนสนิทเข้ามาประคอง หากเดินได้ด้วย 2 ขาของตน

2 ขาที่เคยเป็นนายทหารขาลุยแห่งกรมทหารราบที่ 2 มหาดเล็กรักษาพระองค์ 2 ขาที่เคยเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 

2 ขาที่เคยเป็น “ผู้บัญชาการทหารบก”

และที่สำคัญ คือ 2 ขาที่เคยเป็น”ประธานกรรมการยุทธศาสตร์” 2 ขาที่เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

 

ความแข็งแกร่งและมั่นคงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงมิได้เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากได้รับการแตะและโอบกอดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ตรงกันข้าม การดึงนายทหารอย่าง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เข้ามายืนเรียงอยู่เคียงข้างต่างหากที่ทำให้มั่นใจ

เพราะเมื่อ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เข้ามาก็เหมือนกับที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยไว้วางใจในการส่งเข้าไปยึดกุมงานภายในราชตฤณมัยสมาคม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ทำงานได้อย่างประสานกลมกลืนกับการลงมือกับรุ่นพี่และรุ่นน้อง

รุ่นน้องอย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เป็นเลขาธิการ

 

ภาพของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในวงล้อมของ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในพรรคพลังประชารัฐจึงเป็นอีกภาพหนึ่งซึ่งแผกต่าง

แผกต่างจากที่เคยปรากฏเงาร่าง ณ ทำเนียบรัฐบาล

สะท้อนให้เห็นว่าท่วงท่าอากัปกิริยาตุ๊ตะต้วมเตี้ยมเสมอเป็นเพียงอากัปกิริยาหนึ่งดำเนินไปเหมือนกับเงาสะท้อน

เป็นเงาสะท้อนแห่งการลวงเหมือนกับน้ำเสียง”ไม่รู้ ไม่รู้”