E-DUANG : แผน “กรกฎ 52” กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ไม่ว่าสายตาของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ว่าสายตาของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เมื่อมองออกจาก “คลองเปรม”

ต่อสถานการณ์ในวันที่ 1 และ 25 สิงหาคม

อาจคลางแคลง ไม่แน่ใจ ว่าการมาของ “มวลชน” ที่สงสารและเห็นอกเห็นใจในชะตากรรม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะดำเนิน ไปอย่างไร

จะรอดพ้นจากมาตรการ “เข้ม” อันมาจาก “แผนกรกฎ 52” ได้อย่างไร

เพราะ 16 ครั้งที่ผ่านมาเป็นเรื่องของ “ดอกกุหลาบ” โดยแท้

ไม่ปรากฏเวทีเหมือนของ “พันธมิตร” ไม่ปรากฏนักปราศรัยลีลาเร้าใจเหมือนของ “นปช.”

ต่างไปจากปี 2549 ต่างไปจากปี 2553

 

อย่าว่าแต่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เลยที่งุนงง สงกา

สงกาว่า นายสมชาย แสวงการ ขนหัวลุกได้อย่างไร

สงกาว่า นายไพศาล พืชมงคล ที่สะสมความจัดเจนมาจากวง”หมากรุก”จะหวั่นไหวได้อย่างไร

เพราะ 16 ครั้งตั้งแต่ปี 2559 ถึงปี 2560

“มีแต่สุภาพสตรีสูงอายุ” ประเภทคุณป้า คุณย่า คุณยาย ดังที่ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ได้ประมวลออกมาอย่างเป็นรูปธรรม

ด้านหลักของ “มวลชน” คือ “สตรี”

ไม่ปรากฏ “นักพูด” ฝีปากกล้า ไม่ปรากฏ “ผู้นำ” ดวงตาเหี้ยม หาญ ไม่ปรากฏ “ข้อเรียกร้อง”

มีแต่เพียง “ดอกกุหลาบ” มีแต่เพียง “กำลังใจ”

 

จึงไม่แปลกที่บรรดา“นักเคลื่อนไหว”ผู้มากด้วยความจัดเจนจะทอดตามองด้วยความไม่แน่ใจ

ทำไมต้องใช้ “แผนกรกฎ 52” ด้วย

ทุกอย่างที่แวดล้อม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เหมือนกับท่วง ทำนองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นแหละ คือ อดทน อดกลั้น คำน้อยไม่เคยบ่น

จะด่าว่า “อีโง่”  ก็รับฟัง แม้กระทั่งบางคนหลุดคำว่า “GAREE” ออกมาก็รู้กันทั่วบ้านทั้วเมือง หนักหนาสาหัสตั้งแต่หลังได้ชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 มาแล้ว

ทำไมต้องใช้ “แผนกรกฎ 52” กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เล่า