เผยแพร่ |
---|
วิถีดำเนินแห่ง ”ทะลุฟ้า”กำลังเดินไปบนเส้นทางที่เหมือนกับ”เยาวชน ปลดแอก”และ”แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”เคยประสบมาแล้วราวกับเป็นพิมพ์เดียวกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เรียกว่า”กระแส”และการขานรับจากประชาชนในวงกว้าง
แรกที่”เยาวชนปลดแอก”ปรากฏตัว ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ทุกสายตามองไปด้วยความแคลงคลางกังขา
ยิ่งเมื่อผ่านสถานการณ์”แฮร์รี่ พ็อตเตอร์”ในวันที่ 3 สิงหาคมและผ่านสถานการณ์”ทะลุเพดาน”ในวันที่ 10 สิงหาคมจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ยิ่งมากด้วยความแคลงใจ
ไม่แน่ใจว่าการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 16 สิงหาคม ณ อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยจะประสบชะตากรรมอย่างไรในทางการเมือง
ผลกลับกลายเป็นว่าหนาแน่นคึกคัก จึงถอนหายใจโล่งอก
เส้นทางที่”เยาวชนปลดแอก”ประสบเมื่อปี 2563 ไม่แตกต่างไป จากที่”ทะลุฟ้า”ประสบในเดือนสิงหาคม 2564 แม้แต่น้อย
พลันที่ปรากฏการเคลื่อนไหวของ”มวลชนอิสระ”ขึ้นบริเวณหน้ากรม ทหารราบที่ 1 ตั้งแต่ตอนค่ำของวันที่ 1 สิงหาคมขึ้น ทุกสายตาก็มองไปยังบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงด้วยความไม่แน่ใจ
จำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยและมีท่าทีต่อต้านเหมือนกับการต่อต้านต่อการปรากฏขึ้นของ”รีเด็ม”
หวั่นเกรงว่าอาจกระทบต่อเส้นทาง”หลัก”ของการเคลื่อนไหว
แต่เมื่อ”มวลชนอิสระ”เหล่านั้นอาศัยความอึด เด็ดเดี่ยวและมั่น คงเคลื่อนไหวกระทั่งกลายเป็นเรื่องประจำวันโดยไม่มีแกนนำ โดยไม่มีการนัดหมายและรักษารูปแบบ”สันติ”ตามหลัก”สากล”แน่วแน่
ความแคลงคลาง กังขาในเบื้องต้นจึงค่อยกลายเป็นความเข้า
ใจ กลายเป็นความเห็นอกเห็นใจกระทั่งออกมาปกป้อง คุ้มครอง
ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตของ”ทะลุฟ้า”จะพัฒนาและยกระดับไปอย่างไรในทางการเมือง สามารถยืนระยะได้อย่างมีทิศทางด้วยความมั่นคง แน่วแน่เพียงใด แต่แน่ชัดว่าได้เกิด”แนว”อีกแนวแล้ว
หากการดำรงอยู่ของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นายสมบัติ บุญงาม อนงค์ ที่อโศกมนตรี เป็นแนวทางหนึ่ง ที่นับวันจะเติบใหญ่และขยายตัว
การดำรงอยู่ของ”ทะลุฟ้า”ก็เป็นอีกแนวหนึ่ง ณ ดินแดง