เหตุใดการเกิดขึ้นและดำรงอยู่ของ”เยาวรุ่น ทะลุแก๊ส”ในพื้นที่สาม เหลี่ยมดินแดงจึงได้กลายเป็น “แรงดาลใจ”อย่างทรงความหมายต่อ นายสมบัติ บุญงามอนงค์

เรื่องนี้ “บอกอ ลายจุด”ตอบชัดเจนว่า มิได้เป็นในเรื่องของการปะทะรุนแรง หากแต่เป็นในเรื่องของ”ความต่อเนื่อง”

เกิดขึ้นอย่าง”เป็นไปเอง” โดยที่มิได้มี”การนัดหมาย”

นั่นก็คือ ไม่ว่าจะเป็น”ทะลุแก๊ซ” ไม่ว่าจะเป็น”เยาวรุ่น ทะลุแก๊ส”มิได้มีการนัดวันเหมือน”เยาวชนปลดแอก”เหมือน”แนวร่วม ธรรมศาสตร์และการชุมนุม”

หากแต่เป็นที่รับรู้กันโดย”ใจ”ว่า ทุกเย็นย่ำสนธยา พวกเขาจะวิ่งมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านมายังสามเหลี่ยมดินแดน ทั้งๆที่รู้อยู่เป็น อย่างดีว่าจะพบกับสถานการณ์อย่างไร

เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ตอนเย็นของวันที่ 1 สิงหาคม เรื่อยมา

นี่คือการเชื่อมร้อยกันภายใต้”จิตวิญญาณ” เดียวกันในทางความคิดในทางการเมือง

เป้าหมายอยู่ที่ต้องการไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

คำประกาศของ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ โดยความเห็นชอบร่วมจาก นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ บนเวทีปราศรัยปิด”คาร์ม็อบ”ที่ปทุมธานี คือการนัดหมาย ณ สี่แยกอโศก

ไม่เพียงเพราะเป็นจุดใจกลาง”มหานคร” หากที่สำคัญเป็นอย่างมากคือความหมายของคำว่า”อโศก”

เมื่อเห็นภาพ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ คนจำนวนไม่น้อยอาจคิด ถึงภาพแห่งการชุมนุมไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนเมษายน 2552 ไม่ว่าจะ เป็นเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

ขณะที่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ยืนยันอย่างหนักแน่นว่ามิได้ดำเนินไปตามความเคยชินเดิมเช่นนั้น 

ตรงกันข้าม ครานี้กลับจะดำเนินไปในแบบ”ม็อบ เฟสติวัล”

 

การชุมนุมที่สี่แยกอโศก บนถนนสุขุมวิท นับแต่วันที่ 2 กันยายนเป็น ต้นไปจึงเป็นการชุมนุมในแบบของ”ราษฎร” เพียงแต่ไม่มีการจัดเวที ไม่มีการปราศรัย

และที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ เป็นการชุมนุมที่ไม่มี”แกนนำ”

ขณะเดียวกัน ก็ต่อเนื่องจากการชุมนุมในอดีต นั่นก็คือ เป็นการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ทุกวัน เพียงแต่จะยุติตาม “เคอร์ฟิวส์”

วันรุ่งขึ้นก็มาไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกจนกว่าจะไป