รวมเพลงมีระดับ 2016 Grammy Nominees รอบสุดท้าย “แกรมมี่”

การเมืองกำลังเข้มข้น โดยเฉพาะการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะมีข้อกำหนดพิเศษในบทเฉพาะกาล

เพื่อ “ควบคุมการเปลี่ยนผ่าน” เป็นเวลา 5 ปี รายละเอียดเป็นยังไง ต้องพลิกไปอ่านตอนต้นๆ เล่ม

ที่แน่ๆ คืออุณหภูมิของการเมืองร้อนขึ้นทันที นอกเหนือจากอุณหภูมิอากาศก็ระอุไม่แพ้กัน

คนที่อินกับการเมืองสถานการณ์แบบนี้อาจชวนให้สติแตก ต้องหาทางผ่อนคลายและมองโลกในมุมฮาๆ เข้าไว้

หรือหาเพลงฟังก็เป็นอีกทางออก

อัลบั้มน่าฟังชุดนี้ ว่าไปก็เหมือนรวมฮิต แต่เป็นฮิตที่ครบเครื่อง เพราะผ่านชาร์ตระดับหัวๆ และยอดขายระดับบนๆ ของตารางมาแล้ว

และนี่คือ 2016 Grammy Nominees ออกมาตั้งแต่เดือนมกราคม หรือเมื่อต้นปี ก่อนหน้าประกาศผลรางวัลแกรมมี่ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

อัลบั้มรวมเพลงในลักษณะนี้ ทำออกมาทุกปี เพื่อโหมโรงให้กับงานประกาศรางวัลที่ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่มีมาตรฐานของอุตสาหกรรมดนตรีอเมริกัน

ผลรางวัลที่ประกาศออกมาแล้ว ทำให้รู้กันแล้วว่า เพลงที่อยู่ในชุดนี้ ใครสมหวัง ผิดหวัง และใครปิ๋ว ดาวเด่นจากเวทีนี้ ก็คือ มาร์ก รอนสัน, เทย์เลอร์ สวิฟต์ และ เอ็ด ชีแรน ส่วน เคนดริก ลามาร์ ที่เข้าชิงถึง 11 สาขา ได้รางวัลในสายแร็ปถึง 4 รางวัลด้วยกัน และยังแสดงบนเวทีเรียกความประทับใจได้อย่างอื้ออึง

อย่างไรก็ตาม แม้รู้ผลแล้ว แต่อัลบั้มนี้ก็ยังเต็มไปด้วยเพลงดังๆ ในหลายสาย ทั้งป๊อป ร็อก ฮิปฮอป คันทรี่ และอาร์แอนด์บี มาชุมนุมกันอย่างคับคั่ง 21 เพลง

จะเอามาฟังตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะล้วนแต่เป็นเพลงชั้นดีจากศิลปินเบอร์ต้นๆ ที่ผ่านด่านอรหันต์ เข้าไปเป็นนอมินี รอเข้าชิง เปิดฟังในรถหรือนั่งนอนฟังอยู่ที่บ้าน ได้รสชาติเพลินๆ พอกัน

21 เพลงในชุดนี้ เริ่มต้นจาก Uptown Funk Feat. Bruno Mars ของ มาร์ก รอนสัน ที่มีสำเนียงฟังก์คมบาดกระชากกระชั้น เข้าชิง 2 ประเภท จาก Record Of The Year และ Best Pop Duo/Group Performance และได้เฮไปเรียบร้อยแล้ว เพราะคว้าไปครองทั้ง 2 รางวัล

จากนั้น เป็นเพลงของสาวปากแดง เทย์เลอร์ สวิฟต์ กับเพลง Blank Space ที่ฮิตสุดๆ มาแล้ว เข้าชิงทั้ง Record Of The Year, Album Of The Year และ Song Of The Year และได้รางวัลใหญ่ Album Of The Year ไปจากอัลบั้มดัง 1989

เดอะ วีกเอนด์ กับเพลง Can”t Feel My Face เข้าชิง Record Of The Year และ Album Of The Year แต่พลาด ไปได้ Best urban contemporary album จากอัลบั้ม Beauty Behind the Madness

คลื่นรุ่นล่ามาแรง เอ็ด ชีแรน กับเพลง Thinking Out Loud ที่เข้าชิง Record Of The Year และ Song Of The Year สมหวังในรางวัล Song Of The Year และ Best pop solo performance ไปอย่างยิ่งใหญ่

Sugar ของมารูนไฟว์ ที่เข้าชิง Best Pop Duo/Group Performance พลาดไป เพลง Ship To Wreck ของฟลอเรนซ์แอนด์เดอะมาชีน วงอินดี้อังกฤษ เข้าชิง Best Pop Duo/Group Performance แต่พลาดไป, เพลง Don”t Wanna Fight ของแอละแบมาเชกส์ เข้าชิง Album Of The Year ได้ Best Rock Performance และ Best Rock Song ไป

 

เพลง Really Love ของแดนเจโลแอนด์เดอะแวนการ์ด เข้าชิง Record Of The Year แต่พลาด ไปได้ Best R&B Song, Alright ของ เคนดริก ลามาร์ เข้าชิง Album Of The Year และ Song Of The Year แต่พลาดไปโกย 4 รางวัลในสายแร็ป

เพลง Traveller ของ คริส สเตเปิลตัน เข้าชิง Album Of The Year และ Best Country Solo Performance ได้รางวัลหลัง และ Best Country Album ไปครอง

เพลง Girl Crush ของลิตเติ้ล บิ๊ก ทาวน์ เข้าชิง Song Of The Year แต่ได้รางวัลในสายคันทรี่ไป ทั้ง Beat Country Song และ Best Country Duo/Group Performance, เพลงที่รู้จักกันดี See You Again Feat. Charlie Puth (From Furious 7) ของ วิซ คาลิฟา เข้าชิง Song Of The Year และ Best Pop Duo/Group Performance แต่พลาดไป

Lips Are Movin ของนักร้องสาว เมแกน เทรเนอร์ เข้าชิง และเมแกนคว้ารางวัล Best New Artist ไป ส่วนที่เข้าชิงเบสต์นิวอาร์ติสต์คนอื่นๆ ที่ปรากฏในอัลบั้มนี้คือ Should”ve Been Us ของ ทอรี่ เคลลี, Take Your Time ของ แซม ฮันต์, Hold Back The River ของ เจมส์ เบย์ และ Pedestrian At Best ของ คอร์ตนีย์ บาร์เน็ตต์ พลาดหวังกันไป แต่ผลงานของศิลปินคลื่นใหม่เหล่านี้ ล้วนแต่ควรค่าแก่การติดตาม

ผู้เข้าชิง Best Country Solo Performance ที่ปรากฏใน 4 แทร็กสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็น Little Toy Guns ของ แคร์รี อันเดอร์วู้ด, Burning House ของ CAM, Chances Are ของ ลีแอน โวแม็ก และ John Cougar, John Deere, John 3:16 ของ คีธ เออร์บัน ทั้งหมดพลาดให้กับ คริส สเตเปิลตัน ก็ลองฟังเปรียบเทียบกันดู

เป็นงานรวมเพลงที่มีมาตรฐานคุ้มค่าน่าฟังอีกชุด