ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

ศึกชิงผู้ว่าฯ บลั๊ฟฟ์แหลกทิ้งบอบม์

 

ประชาธิปไตยทางตรง ว่าด้วยศึกเลือกตั้งท้องถิ่นโหมดสุดท้าย “ชิงผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร” อยู่ระหว่างพักเบรก แม้จะถูกคั่นรายการโดย “โควิด-19” รอบที่ 3 แต่ปี่กลองกลับเชิดฉิ่งรุนแรง สัปดาห์ที่แล้ว มีปมหัวร้อนปนดราม่า เกทับบลั๊ฟฟ์แหลก ส่งกล่องระเบิดทิ้งบอบม์กันตูมๆ ล่อกันนัวระหว่าง “สองพี่น้อง” แห่งยุทธจักรสีกากีเก่า

มุมน้ำเงิน “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้น้องฝ่ายหนึ่ง กับมุมแดง “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้พี่ รักษาการผู้ว่าฯ กทม. ที่หัสเดิมดูประหนึ่งว่า “โลกทั้งใบเป็นของแป๊ะคนเดียว”

“พล.ต.อ.จักรทิพย์” ทำท่าจะได้รับฉันทานุมัติให้เป็นตัวยืนในศึกชิงผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครเพียงหนึ่งเดียว “บิ๊กวิน” ต้องปฏิบัติตามไฟต์บังคับ ทำหน้าที่กองหนุน

โดย “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” บิ๊กบราเธอร์บูรพาพยัคฆ์ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. “เจ้าป่า” ทำหน้าที่คบไฟส่องทาง อุ้มกระเตง เคาะให้เป็นตัวแทนลงชิงชัย

เคลียร์ทุกหน้าเสื่อกับพี่น้อง 2 ป. ทั้ง ป.ป๊อก คลองหลอด และโดยเฉพาะ “ป.ประยุทธ์” ดังนั้น พลันที่ “ป.แป๊ะ” เกษียณอายุราชการออกจากกรมปทุมวัน เปิดปุ๊บติดปั๊บ รวดเร็วดุจฮิตาชิ ลงมือหาเสียงโดยพลัน ก้าวแรกเช่าหรือยืมใช้ “อาคารปานศรี” อันเป็นที่ทำการพรรคเก่า พปชร.ถนนรัชดาภิเษก เป็นศูนย์บัญชาการรบ พร้อมขึ้นคัตเอาต์ด้วยสโลแกน “ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมสร้าง สะอาด ปลอดภัย แก้ปัญหาฉับไว”

คอการเมืองพากันโฟกัสว่า ศึกชิงผู้ว่าฯ กทม.ปลายปี 2564 น่าจะเป็นรายการดวลเดือดกันระหว่าง “พล.ต.อ.จักรทิพย์” ที่โยมอุปภัมภ์มากทุกวงการ จะลงสมัครในนามอิสระ มี พปชร.เจ้าของฟาร์ม ส.ส.กทม. 18 ที่นั่ง เป็นกำแพง ชิงดำกับ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บัญชีชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ที่อ่านทิศทางลมครบวงจรแล้ว จะปลีกวิเวกลงในนามอิสระ อีหรอบเดียวกัน

ว่ากันตามชื่อชั้นแล้ว เก้าอี้เบอร์หนึ่งเสาชิงช้า ถูกผูกขาดด้วยยี่ห้อประชาธิปัตย์มายาวนาน หลายตัวเสื้อ แตะมือชนะเลือกตั้งรับมรดตกทอดกันมาตั้งแต่ยุค “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” ต่อเนื่องมาถึง “คุณชายหมู-ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” อีก 2 สมัย จึงเป็นพรรคขวัญใจคนกรุง รสแท้ แม่ทำขนานแท้

แต่เลือกตั้งใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ประชาธิปัตย์เจ้าสังเวียน เสียรังวัดแพ้ป่าราบ กินไข่ใน กทม. ถูก พปชร.-เพื่อไทย-อนาคตใหม่ เฉลี่ยกันยึดหัวหาดเรียบวุธ

ศึกเลือกตั้ง กทม. แชมป์เก่าทำท่าจะเหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว รดน้ำไปก็เสียประโยชน์เปล่า ไม่มีเค้าลางว่าจะกลับมายึดฐานที่มั่นเก่ากลับคืนได้

ผลสำรวจจากโพลทุกสำนัก สำรวจกี่รอบต่อกี่รอบ ท่านจะเลือกใครมาทำหน้าที่เจ้าเมือง ปรากฏว่า “คนกรุง” เมินขวัญใจคนเดิม มีแต่ชื่อ “ชัชชาติ” กัน “พล.ต.อ.จักรทิพย์” เกาะอันดับอยู่แถวต้นๆ

มีชื่อเบียดแทรกติดโผโผล่ขึ้นมาบ้าง อาทิ “รสนา โตสิตระกูล” อดีต ส.ว.เลือกตั้งแชมป์เก่า กทม.ปี 2551 ก่อนหน้านี้ก็มี “ทยา ทีปสุวรรณ” แกนนำ กปปส.เก่า ภริยา “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” อดีตรัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ ร่วมวงไพบูลย์ แต่หลังโดนของหลุดออกจากโผ ชื่อก็หายไปเลย

มีการสำรวจตรวจแถวทั้งพรรคและตัวบุคคล นอกจากนามข้างต้นแล้ว ที่จะเป็นตัวแปรก็มี “พรรคก้าวไกล” หรือ “อนาคตใหม่” เดิมกับ “ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” ที่ตามข่าวลือว่า ตอนแรกจะสวมปลอกแขนลงประชาธิปัตย์ แต่ตอนหลังกำลังตัดสินใจเลือกสังกัดใหม่ หรือไม่ก็ลงอิสระอีกราย

เมื่อโฟกัสครบทุกองคาพยพ ณ ขณะนี้ ผู้สันทัดกรณีฟันธงตรงกันว่า คู่ชิงดำผู้ว่าฯ กทม. น่าจะเบียดแทรกกันระหว่าง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” กับ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ที่ประกาศเจตนารมณ์ทำกิจกรรมชัดเจนกว่าใครเพื่อน

 

แต่เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว “บิ๊กแป๊ะ” ซึ่งคิดสะระตะว่า ตัวเองเป็นลูกสมภาร หลานเจ้าวัด กลับต้องอึ้งกิมกี่ เมื่อจู่ๆ “พี่วิน” แสดงอาการกลับลำ ด้วยการส่งซิกให้สัญญาณจะลงสมัครลงรับเลือกตั้งชิงผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร

สะท้อนผ่านการขึ้นป้ายพรึบทุกมุมเมือง หลายกรรมหลายวาระ โดยใช้เงื่อนไขโควิด-19 ระลอกที่ 3 เป็นกลไกไอ้ตัวดูด กระแสนิยม อาทิ

“สถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19” ตามมาตรการแก้ไขการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-ชุมชนคลองเตย ระบุชื่อผู้กำนัล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี โดย “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าฯ กทม.

ตลอดถึงป้ายนักเรียนปลอดภัย ใช้ชีวิตใหม่ นิวนอร์มอล โรงเรียนสังกัด กทม.คัดกรองพร้อม เป็นต้น

“บิ๊กแป๊ะ” อ่านหนังสือออก หยั่งทางลมถูกว่า พล.ต.อ.อัศวินต้องลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ชัวร์ป้าบ

เพราะหลังจาก “โควิด-19” โจมตีไทยรอบที่ 3 ทุกคนต้องกบดานอยู่ในที่ตั้ง มีแต่ “บิ๊กวิน” เล่นกับกระแสอยู่ได้คนเดียว แถมได้ห้อยโหน เกาะเอว “บิ๊กตู่” ติดต่อกันเป็นแรมเดือน เรตติ้งเลยก้าวกระโดด

“ฝนจะตก ขี้จะแตก พระจะสึก คนจะเล่นการเมือง” เป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ อั้นไม่อยู่ “พล.ต.อ.อัศวิน” ชั่วโมงนี้มี 3 องค์ปัจจัยสำคัญ “ข้อที่ 1” กระสุนดินดำ “เพียบ” กับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ อยู่บนกองเงินกองทอง “ข้อที่ 2” มีผู้สนับสนุนใหญ่คือ “พล.อ.ประยุทธ์” และ “ข้อที่ 3” กระแสนิยมดีวันดีคืน หลังโควิด-19 ระลอก 3 แพร่ระบาด

เมื่อทุกอย่างพร้อม จึงเกิดความ “อยาก” คืออยากจะเป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย เมื่ออยาก ต้องมีการแสวงหา เลยทำให้ลืมทุกคนและทุกสิ่งทุกอย่างในโลก อยากทำในสิ่งตัวเองอยากทำ จึงเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาท

มีแนวโน้มสูงยิ่งว่า “พล.ต.อ.อัศวิน” กับ “พล.ต.อ.จักรทิพย์” พี่น้องร่วมสาบานจากกรมปทุมวัน ความเป็นกัลยาณมิตรขาดสะบั้น ถอดเสื้อคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว

ศึกเลือกตั้งชิงผู้ว่าฯ กทม. กลายเป็นสองขั้ว-สี่เส้า ข้างหนึ่ง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” กับ “ก้าวไกล” อีกฟากหนึ่ง “พล.ต.อ.จักรทิพย์” กับ “พล.ต.อ.อัศวิน” ส่วนใครจะเป็น “ตาอยู่” ขึ้นกับพี่น้องชาว กทม.ชี้ขาด

ศึกน้องแป๊ะ-พี่วิน เป็น “สงครามตัวแทน” ชักน้ำเข้าลึก บานปลายขยายตัว เกิดรอยร้าวกันอีกรอบระหว่าง “พี่ป้อม” กับ “น้องตู่”

อาจจะหนักพอๆ กับโควิด-19 รอบที่ 3 คือ “ใหญ่หลวงเกินคำบรรยาย”