เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าในที่สุด การออกมาต่อต้านร่างพรบ. “บัตรทอง” โดย “ประชาคมสาธารณสุข” จะลงเอยอย่างไร
ชัยชนะ หรือ พ่ายแพ้
แต่ “ปฏิกิริยา” อันปรากฏผ่านเวทีประชาพิจารณ์ ไม่ว่าภาคใต้ ไม่ว่าภาคเหนือ ไม่ว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และที่สุดในกทม.
คือ พลานุภาพอันเด่นชัด
เวทีกทม.อันอาจถือว่าเป็นเวทีสุดท้ายตัวแทนองค์กรต่างๆแห่ง “ประชาคมสาธารณสุข” ก็สามารถต่อรองให้พวกเขาสามารถ กำหนดองค์ประกอบของ”เวที”ได้ในระดับหนึ่ง
โดยเฉพาะการกดดันต่อทหาร ต่อตำรวจ
ถามว่าปัจจัยอะไรทำให้ “ประชาคมสาธารณสุข” สามารถต่อรองกับคสช.และรัฐบาลได้
คำตอบ คือ “มวลชน”
คำว่า “มวลชน” นี้แหละที่ก่อภาวะสะดุ้งสะเทือนให้กับอีกฝ่ายจนถึงกับต้องนั่งโต๊ะเจรจา
ถามต่อไปว่า “มวลชน” มาจากไหน
คำตอบในเชิงคำขวัญก็มาจากหลักการบนพื้นฐานแห่ง “สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา” อย่างที่โฆษณาซ้ำแล้วซ้ำอีก
ความหมายก็คือ การจัด “องค์กร”อย่างเป็นระบบ
เรียกตามสำนวนอันเป็น “ของแสลง” สำหรับนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ก็คือ ลักษณะ “จัดตั้ง”
“ประชาคมสาธารณสุข” ดำเนินไปอย่างมี “การจัดตั้ง”
ไม่ว่ากระบวนการจัดตั้งจะมีรากฐานมาอย่างไรและอาศัยเงินงบประมาณจากที่ใด
แต่ด้วยการจัดตั้งทำให้มี “มวลชน”
เมื่อมี “มวลชน” ก็สามารถเคลื่อนไหวอย่างมีลักษณะ “กัมมันตะ” ผ่านกระบวนการทางการเมือง “ภาคประชาชน”
เข้าไปมีส่วนร่วมกับ “การเมืองใหม่”
บรรดาผู้อำนวยการ บรรดาเลขาธิการ บรรดาผู้ประสานงานในแต่ละองค์กรของ “ประชาคมสาธารณสุข” จึงมิใช่ไอ้เสือประเภท มือเปล่า
ล้วนมี “มวลชน” และมวลชนนั่นแหละทำให้มี “พลัง“