เศรษฐกิจ “พี่เบิ้มจีน” ซึมซบเซา เขตปกครองพิเศษ “มาเก๊า” (MACAU) เหงา

คนเราทำอะไรซ้ำซากจำเจก็เท่ากับบ่มเพาะความเบื่อหน่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับการเดินทางไปเขตปกครองพิเศษมาเก๊า (Macau) บ่อยครั้งขึ้นก็เริ่มมีคำถามกับตัวเองว่าไปทำไมนักนอกจากเพื่อสนุกสนานกับเกมเป็นการผ่อนคลายสำหรับผู้สูงอายุก็เท่านั้น?

เพราะฉะนั้น จนถึงวันนี้จึงเริ่มขาดแรงจูงใจใหม่ๆ จนมากพอจะตื่นตาตื่นใจดังแต่ครั้งก่อนที่เมืองนี้เริ่มลงทุนเรื่องโรงแรมกาสิโน (Casino) ขนาดใหญ่จำนวนมากจนต้องถมทะเลเพื่อจะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อก่อสร้างอาคารโรงแรมใหม่ๆ

สิ่งที่ต้องการรู้ต้องการเห็นและได้ทดลองสนุกกับมันเริ่มนิ่งๆ โดยเฉพาะการเสี่ยงโชคกับเกมใหม่ๆ ก็งั้นๆ ความรู้สึกอยากได้ใคร่มีเริ่มจางลงเพราะวัยที่เพิ่มขึ้น (หรือไม่?)

แต่การเดินทางไกลโดยเครื่องบินครั้งละหลายสิบชั่วโมงข้ามทวีปดังแต่ก่อนเพื่อแสวงหาความอยากรู้อยากเห็นก็ไม่หวนกลับมาเช่นเดียวกัน

เอาเป็นว่าเดินทางในย่านอาเซียนนั้นก็ยังพอทน เพราะฉะนั้น คงต้องหาโอกาสเยือนประเทศเพื่อนบ้านที่เต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมอันไม่แตกต่างกับบ้านเราอีกสักครั้ง?

ทั้งหมดก็เพียงเพื่อจะได้ไปในที่ชอบเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องรอวันที่คนอื่นบอกให้ไปสู่ที่ชอบๆ ยามเมื่อลาโลกแล้วเพราะว่าก็ไม่มีใครรู้ว่าจะได้ไปหรือไม่?

แต่หนนี้ก็ยังอุตส่าห์ไปเก็บบรรยากาศของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า (Macau) มาเล่าขานกันอีกครั้งจนได้ แต่สภาพไม่คึกคักแน่นหนาไปด้วยคนจีนจากแผ่นดินใหญ่จนกระทั่งแทบจะหาแท็กซี่ไม่ได้ในยามเย็นค่ำ โดยเฉพาะกับวันเสาร์อาทิตย์ ดังแต่ก่อน

thumbnail_IMG_0662

เปลี่ยนสถานที่นัดหมายเพื่อนร่วมงานแต่เก่าก่อนยามหนุ่มแน่นด้วยกัน ซึ่งยังแข็งแรงมีความรักใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นความรักครั้งสุดท้ายดั่งชื่อนวนิยายของท่านอาจารย์สุวรรณี สุคนเที่ยง (สุคนธา) เพื่อพบกันวันหนึ่งยังเมืองกาสิโนแห่งนี้ในวันที่อุณหภูมิของเมืองดังกล่าวสูงไม่แตกต่างกับเมืองไทยเพื่อจะไปกินข้าวด้วยกันที่นั่นตามประสาคนว่างงานเพราะสูงวัย หากไม่ไร้บุญเก่า

เพื่อนรุ่นน้องร่วมงานเก่ากับคนรักบินล่วงหน้าไปแสวงหาบรรยากาศอันหอมหวานกันสองคนตั้งแต่วันจันทร์ยังฮ่องกง (Hong Kong) ก่อนจะข้ามน้ำข้ามทะเลมาพบกันในวันพฤหัสบดียังติ่งเล็กๆ ของแผ่นดินใหญ่เพื่อหาอาหารอร่อยกินกันตามอัตภาพ ชื่นชมแสงสีที่ตกแต่งได้งดงามของเมืองมาเก๊า รวมทั้งฝั่งของเกาะไทปา (Taipa) ที่ถมรวมกับเกาะโคโลอาน (Coloane) เป็นเกาะเดียวกันแล้วสร้างเมืองใหญ่โตมากมาย แล้วเรียกขานกันว่าโคไท (CoTai)

การลงทุนก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ซึ่งมีสถานกาสิโน และแหล่งช็อปปิ้ง(Shopping) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าแบรนด์เนม (Brand name) ราคาสูงระดับผู้มีอันจะกินหรือขั้นเศรษฐีเท่านั้นจะสามารถซื้อหาได้ เรียกว่าราคามันเหมาะสมกับคนมีฐานะ มีเงินเยอะๆ แทบไม่น่าเชื่อว่าสินค้าราคาสูงเหล่านี้จะสามารถจำหน่ายขายออก แต่กลับตรงกันข้ามเนื่องจากเศรษฐีใหม่จากจีนซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าแบบไม่อั้นเช่นเดียวกัน

การประชาสัมพันธ์เพื่อดึงดูดลูกค้านั้นนอกจากการพนันสารพัดชนิดในทุกแห่งแล้ว ก็มีสินค้าแบรนด์เนมดังกล่าว การบริการอย่างอื่นๆ รวมทั้งด้านบันเทิงก็ย่อมต้องมีการแข่งขันกันอย่างหนักในแต่ละโรงแรม ซึ่งก็ดูเหมือนส่วนใหญ่ต่างถือหุ้นไขว้กันไปมาจำนวนไม่น้อย

นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้ชมโชว์หลากหลายจากทั่วโลกเพราะการแข่งขันกันดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก ลาส เวกัส (Las Vegas) สหรัฐอเมริกา อันเป็นต้นแบบในการลงทุนสร้างเมืองเอนเตอร์เทน (Entertain) รวมทั้งโชว์จาก Broadway ก็เดินทางไกลมายังเมืองเล็ก ๆ ที่สร้างรายได้มหาศาลในแต่ละปีแห่งนี้

หลังจากใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงเศษจากสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ สู่สนามบินเมืองมาเก๊า ก็ได้พบกันยังสถานที่นัดหมายก่อนมุ่งหน้าสู่ร้านเป็ดย่าง หมูกรอบ นกพิราบตุ๋นเจ้าประจำที่อยู่ไม่ห่างจากโรงแรมที่พักสักเท่าไร

และร้านเป็ดย่างแห่งนี้ไม่เคยว่างจนกระทั่งบ่ายจัดทุกวัน หรือจะเรียกว่าแน่นตลอดทั้งวันก็ไม่ผิด

แต่วันที่เรานัดหมายในปลายเดือนมิถุนายน 2559 กลับไม่ต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่ คนพื้นถิ่น กระทั่งนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย

เกิดความแปลกใจเล็กๆ แต่ไม่ทันจะได้ถามไถ่เพื่อนร่วมทาง เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องเก่ากับศรีภริยาซึ่งเดินทางจากฮ่องกงมาถึงมาเก๊าแต่เช้า ได้ข้ามไปเที่ยวยังฝั่งโคไท โดยเฉพาะที่โรงแรมเวเนเชี่ยน (Venetian) สไตล์อิตาเลียน ซึ่งนอกจากจะมีท้องฟ้าจำลอง มีคลอง และเรือกอนโดลา (Gondola) พร้อมสารถีแจวเรือที่สามารถขับกล่อมเพลงได้ไพเราะเพราะพริ้งในโรงแรม และมีทุกสิ่งอย่างในสไตล์ที่ถอดแบบมาจาก ลาส เวกัส (Las Vegas) ดังกล่าวแล้ว

โรงแรมนี้ยังมีห้องกาสิโนทุกชนิดรวมขนาดใหญ่เท่ากับประมาณสนามฟุตบอลสี่สนามรวมกัน ซึ่งทุกครั้งที่ไปเยือนไม่เคยว่างแม้แต่จะโหรงเหรง จะแน่นขนัดไปด้วยทัวร์ต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัวร์จากจีนแผ่นดินใหญ่

แต่เพื่อนร่วมงานเก่าบอกว่าวันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น

กลุ่มผู้สูงวัยจากเมืองไทยใช้รถรับส่งซึ่งมีบริการตลอดทั้งวันจากฝั่งเมืองมาเก๊าสู่ฝั่งไทปา ตระเวนไปตามโรงแรมกาสิโนใหญ่ๆ อย่างเช่น สตาร์ ออฟ ดรีม (Star of drem), Galaxy ได้พบว่าค่อนข้างจะผิดแตกต่างไปจากแต่ก่อน นักเสี่ยงโชคลดถอยไปมาก แต่วันที่ไปสำรวจตรวจสอบนั้นเป็นคืนวันพฤหัสฯ จึงอาจไม่เหมือนกับตอนวีกเอนด์ เสาร์อาทิตย์ก็ย่อมจะเป็นได้

คืนวันศุกร์กับวันเสาร์จึงตระเวนไปสำรวจให้เห็นกับตาอีกครั้งก็ได้พบความเปลี่ยนแปลงเรื่องจำนวนผู้คนที่ลดลงอย่างชัดเจน โต๊ะพนันประเภทต่างๆ ว่างเป็นจำนวนมาก พนักงานแจกไพ่นั่งเหงากันเยอะ

แต่ถึงแม้จำนวนนักท่องเที่ยว นักได้เสียเสี่ยงโชคจะลดลงก็ตาม แต่ผลประกอบการในปีที่ผ่านยังมีรายรับมากกว่าลาส เวกัส ของสหรัฐอเมริกา

เรียกได้แต่เพียงว่าขาดทุนกำไรเท่านั้น ส่วนรายละเอียดแบบชัดเจนย่อมเป็นเรื่องของนักสำรวจทั้งหลายไปว่ากันเอาเอง

แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าอาการซบเซาชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่ รวมทั้งการเข้มงวดกับประชาชนที่จะเดินทางออกนอกประเทศมีผลกระทบกับผลประกอบการของเมืองเอนเตอร์เทนอย่าง “มาเก๊า” (Macau)

ปัญหาของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างประเทศมหาอำนาจซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่โตอย่างสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ ล้วนติดๆ ขัดๆ ทางฝั่งยุโรปก็เกิดปัญหาเรื่องผู้อพยพจำนวนมาก และการโหวตออกจากอียูของอังกฤษที่เรียกว่าเบร็กซิทย่อมส่งผลสั่นสะเทือนเชื่อมโยงกันไปทั่วโลก

ประเทศเราที่กำลังยื้อกันเรื่องการลงประชามติรับ ไม่รับ “ร่างรัฐธรรมนูญ” เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งในปี พ.ศ.2560 นั้นก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน เศรษฐกิจที่มีปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะกับระดับกลางถึงเล็กจึงอยู่ในสภาพน่าเป็นห่วง ว่ากันว่าทุนขนาดใหญ่เท่านั้นที่สามารถประกอบการไปอยู่ได้

ทุกคนต่างเฝ้ารอว่าการเลือกตั้งเพื่อจะได้เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจจะได้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น

เดินทางกลับจากมาเก๊า ยังสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย (Air Asia) เที่ยวบินที่ FD 767 วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2559 จากต้นทางเวลา 22.10 นาที อยู่ๆ พนักงานบริการผู้ชายบนเครื่องก็เปลี่ยนเอาคนป่วยตัวใหญ่มากเหม็นกลิ่นปนกลิ่นยามานั่งประกบข้างๆ ตอนแรกก็รู้สึกว่าเห็นใจเพราะช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ แต่เขามีคนร่วมเดินทางมาด้วยทำไมไม่ให้นั่งด้วยกัน

ถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นไปเขาห้องน้ำลุกไปไม่ได้ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าพยายามที่จะทนเพราะใช้เวลาบินไม่นาน แต่ไม่ไหวจริงๆ เรียกพนักงานมาถามว่าจะทำยังไงกัน ทำไมไม่หาที่ให้คนป่วยนั่งต่างหาก และไม่บอกกันก่อน ก่อนที่จะเอามาอัดกันตรงนี้ เอางี้ช่วยหาที่นั่งเปลี่ยนให้ 2 คนได้หรือไม่? เขาบอกว่าเต็มไม่มีว่าง ก็เห็นอยู่ว่าตรงทางออกฉุกเฉินว่างอยู่ทั้ง 2 แถวขอไปนั่งกันตรงนั้น เขาบอกไม่ได้ต้องคิดเงินเพิ่ม ถามว่าทำไมไม่เอาคนป่วยไปนั่งตรงนั้นก็ตอบไม่ได้อีก?

มีคนบอกว่าสายการบินนี้คิดยุ่บยั่บหยุมหยิมทุกเม็ด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ตอนนี้ขายหุ้นให้กับ คิง เพาเวอร์( King Power) ที่ได้ขายสินค้าปลอดภาษีแต่เพียงผู้เดียว รวมทั้งมีทีมฟุตบอลที่เพิ่งเป็นแชมป์โด่งดัง

น่าจะต้องช่วยปรับปรุงเรื่องบริการของสายการบินนี้อีกสักหน่อย