สรุปข่าวมติชนสุดสัปดาห์

เดินทะลุฟ้า- ไผ่ ดาวดิน แกนนำราษฎร พร้อมแนวร่วมกลุ่มพีเพิลโก (PEOPLE GO) กว่า 100 คน จัดกิจกรรม เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน เดินเท้าจากโคราชเข้ากทม. เพื่อเรียกร้องปล่อยตัว 4 แกนนำ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.

สรุปข่าวมติชนสุดสัปดาห์

0 ในหลวง-ราชินีทรงสังเวย “พระป้าย”

0 ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ “ศึกษาทหาร”

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เพจเฟซบุ๊กโรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน โพสต์ข้อความว่า เมื่อเวลา 21.08 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงประกอบพิธีสังเวยพระป้ายในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช 2564 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จด้วย

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 19.23 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรวีดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงศึกษาในเครือรัฐออสเตรเลีย ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมีนายแอลลัน เจมส์ มักคินนัน เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เฝ้าฯ รับเสด็จ

สำหรับวีดิทัศน์ดังกล่าว ดำเนินการจัดทำโดยสถานเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงศึกษาระดับเตรียมทหาร ณ คิงส์สกูล เขตพารามัตตา นครซิดนีย์ และวิทยาลัยการทหารชั้นสูง ที่วิทยาลัยการทหารดันทรูน กรุงแคนเบอร์รา โดยนำเสนอภาพเหตุการณ์ในขณะนั้น และบทสัมภาษณ์พระสหายร่วมชั้นที่หลายคนได้เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในกองทัพและรัฐบาลออสเตรเลีย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเข้ารับการศึกษาระดับเตรียมทหาร ที่คิงส์สกูล เขตพารามัตตา นครซิดนีย์ ระหว่างเดือนสิงหาคม 2513 ถึงเดือนพฤษภาคม 2514 และทรงเข้าศึกษาในวิทยาลัยการทหารชั้นสูง ที่วิทยาลัยการทหารดันทรูน กรุงแคนเบอร์รา ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2515 ถึงเดือนธันวาคม 2519 และทรงได้รับปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต (การศึกษาด้านการทหาร) คณะการศึกษาด้านการทหาร จากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์

 

0 การบินไทยจัดเครื่องขนวัคซีน

0 รับจากจีน 2 แสนโดส-ถึง 24 ก.พ.

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานคณะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข ให้ปฏิบัติภารกิจขนส่งวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ “โควิด-19” ล็อตแรกของประเทศไทย จำนวน 200,000 โดส จากบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด สาธารณรัฐประชาชนจีน มายังประเทศไทยด้วยเที่ยวบินขนส่งสินค้าเที่ยวบินที่ ทีจี 675 เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพฯ ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส A350-900 ออกเดินทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 06.50 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.05 น. สนามบินสุวรรณภูมิ โดยได้จัดเตรียมเครื่องบินลำตัวกว้าง สำหรับขนส่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วยตู้คอนเทนเนอร์ชนิดปรับควบคุมอุณหภูมิเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งจะช่วยปกป้องวัคซีนไม่ให้สัมผัสกับสภาวะอุณหภูมิสูงในระหว่างการขนส่ง

 

0 ศาลฎีกายกฟ้อง “ชุดดำ” ปี ’53

0 พยานหลักฐานมีความสงสัย

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่ม “เสื้อดำ” นายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี, นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา, นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย และนางปุนิกา หรืออร ชูศรี เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนสงครามโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 จำเลยทั้ง 5 กับพวกที่ยังหลบหนี และพวกที่ถึงแก่ความตายไปแล้ว โดยร่วมกันนำเครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ปืนเอ็ม 16 ปืนเอชเค 33 ปืนเอเค 47 หรือปืนอาก้า ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไปตามบริเวณแยกคอกวัว ถนนตะนาว ถนนประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. ซึ่งเป็นเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ทั้งในเวลาเกิดเหตุมีการชุมนุมกันของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งวัน เวลาเกิดเหตุ เจ้าพนักงานยึดได้อาวุธสงครามของกลาง กระทั่งวันที่ 11 กันยายน 2557 เจ้าพนักงานติดตามจับกุมพวกจำเลยทั้ง 5 ส่งพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดี คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 พิพากษาว่า นายกิตติศักดิ์ จำเลยที่ 1 และนายปรีชา จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธสงครามให้จำคุกคนละ 8 ปี และฐานพาอาวุธปืน จำคุกคนละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 3-5 พิพากษายกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ให้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้นายกิตติศักดิ์ จำเลยที่ 1 ฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ส่วนจำเลยอื่นไม่ได้ยื่นฎีกา ว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมามีความสงสัยตามสมควร ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้อง ให้ศาลอาญาออกหมายปล่อย

 

0 อนุทินเซ็นปลดล็อกแล้ว

0 ให้ผลิตยากัญชาแผนไทย 5 ตำรับ

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ที่ให้เสพเพื่อรักษาโรคหรือการศึกษาวิจัยได้ พ.ศ.2564 ทำให้สามารถผลิตตำรับยากัญชาแผนไทย 5 ตำรับ ที่มีส่วนประกอบของใบและกิ่งก้านกัญชา ได้แก่ ยาศุขไสยาศน์ ยาแก้นอนไม่หลับ/ยาแก้ไข้ผอมเหลือง ยาแก้ลมแก้เส้น ยาทาริดสีดวงทวารหนักและโรคผิวหนัง และยาแก้โรคจิต ภาคเอกชนสามารถขอผลิตยาดังกล่าวได้ที่กองผลิตภัณฑ์สมุนไพร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

และผู้มีใบอนุญาตปลูกกัญชาสามารถขายผลผลิตให้กับผู้ผลิตยาแผนไทย นำไปผลิตยาทั้ง 5 ตำรับได้