ภาพการเมืองใหม่ ภายใต้ควบคุม ตรวจสอบ จากสังคมรอบข้าง / กรองกระแส

กรองกระแส

 

ภาพการเมืองใหม่

ภายใต้ควบคุม ตรวจสอบ

จากสังคมรอบข้าง

 

พลันที่นายชวน หลีกภัย บรรจุญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นั่นหมายถึงการรับความชอบของญัตติ

เป็นความชอบตามบทบัญญัติของ “รัฐธรรมนูญ”

อย่าได้แปลกใจ หากประธานคณะกรรมการประสานงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) จะออกมาแถลงถึงความพร้อม

จากการตระเตรียม 45 ขุนพลนักอภิปราย

ไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมาจากพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะมาจากพรรคเสรีรวมไทย ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาชาติ ไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อชาติ ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังปวงชนไทย

โดยมีพรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคไทยศรีวิไลซ์ เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

อันเท่ากับเป็นการแสดงความพร้อมอย่างสมบูรณ์ในการที่จะดำเนินการตามญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ

สำแดงบทบาทในการตรวจสอบและควบคุมรัฐบาล

 

ท่าทีของรัฐบาล

มากด้วยความกลัว

หากมองจากการแถลงไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ยืนยันความเป็น “ชายชาติทหาร” ไม่มีความหวาดกลัว

กระนั้น หากติดตามการเคลื่อนไหวของรัฐบาล ไม่ว่าจะดังออกมาจากภายในทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าจะดังออกมาจากภายในพรรคพลังประชารัฐ

มองเห็นความหวาดหวั่นพรั่นพรึงอย่างเด่นชัด

สัมผัสได้จากการใช้กลไกประธานคณะกรรมการประสานงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ในการตั้งข้อสังเกตว่าญัตติขาดความสมบูรณ์

มากด้วยการใช้คำไม่เหมาะ จำเป็นต้องมีการแก้ไข

บางส่วนจากภายในพรรคพลังประชารัฐถึงกับประกาศว่าหากไม่มีการแก้ไขปรับแต่งถ้อยคำ พวกเขาจะประท้วงและขัดขวางมิให้อภิปรายทั่วไปดำเนินไปได้ด้วยความราบรื่น

น่าสนใจกับท่าทีของนายชวน หลีกภัย

 

ความจัดเจนการเมือง

จากเลือกตั้งปี 2512

นายชวน หลีกภัย ดำรงอยู่ในสถานะแห่งประธานรัฐสภา เพราะความเห็นชอบจากพรรคร่วมรัฐบาล มีความจำเป็นที่จะต้องรับฟังความเห็นจากพรรคร่วมรัฐบาล

นี่ถือได้ว่าเป็น “มารยาท” ในทางการเมือง

การส่งความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลไปยังพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นเรื่องถูกต้องและเหมาะสม ขณะเดียวกัน เมื่อพรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันในความถูกต้องครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ

ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ก็ต้องเคารพ

ขณะเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ซึ่งได้รับเลือกตั้งตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2512 ต่อเนื่องไม่เคยขาดจนถึงการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

ย่อมมีประสบการณ์ มีบทเรียนในทางการเมืองอันเข้มข้น

การยอมรับต่อการยืนยันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในอีกด้านหนึ่งเท่ากับนายชวน หลีกภัย ตระหนักว่าญัตติดำเนินไปตามกรอบที่รัฐธรรมนูญบัญญัติครบถ้วน

ครานี้ก็ขึ้นอยู่กับการอภิปรายที่เป็นจริงเท่านั้น

 

บทบาทจากรัฐบาล

ขัดขวาง และการข่มขู่

การแสดงบทบาทของคณะกรรมการประสานงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เป็นเรื่องที่สังคมสามารถเข้าใจได้

กระนั้นบทบาทของบางส่วนในพรรคพลังประชารัฐอาจ “เลยธง”

นั่นก็เห็นจากคำขู่ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นเรื่องไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นฟ้องผู้ลงนามในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ

ว่าผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ไม่เพียงแต่เท่านั้น ยังข่มขู่ด้วยว่า หากไม่มีการถอนเรื่องหรือปรับแก้เนื้อความในญัตติ กลุ่มของพวกตนในพรรคพลังประชารัฐก็จะประท้วงและทำให้ไม่สามารถดำเนินญัตติต่อไปได้

นี่ย่อมเป็นการตีรวนล่วงหน้าในทางการเมืองอย่างเด่นชัด

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความรับรู้ของสังคมอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่ประธานในที่ประชุมจักต้องบริหารจัดการให้ทุกอย่างยุติลงด้วยความราบรื่น

เพื่อที่ฝ่ายค้านจะได้ตรวจสอบและควบคุมรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ

 

วินาทีการประชุม

ล้วนอยู่ในสายตา

โลกยุคปัจจุบันเป็นโลกยุคใหม่ เป็นโลกแห่งอินเตอร์เน็ต ไม่เพียงแต่มีสื่อเก่าอย่างหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ตรงกันข้าม ยังมีสื่อใหม่ที่กำลังมีบทบาท

ทุกการเคลื่อนไหวย่อมไม่รอดพ้นจากการติดตาม

ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ล้วนมิอาจปิดบังอำพรางได้

ยิ่งเป็นการประชุมอย่างเปิดเผย และเปิดกว้าง

นั่นหมายความว่าทุกจังหวะก้าว ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การตอบโต้ ล้วนได้รับการถ่ายทอดทั้งสื่อเก่าและสื่อใหม่ครบถ้วน

สังคมจะติดตาม เฝ้ามองและให้ค่าความหมายอย่างเที่ยงธรรม