วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู / เสถียร จันทิมาธร/ปราชญ์ โจวเซวียนซิง เผยแสดง (76)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร

ปราชญ์ โจวเซวียนซิง เผยแสดง (76)

 

เป้าหมายแรกของเหมยฉางซูอาจเป็นซิงกั๋วกง เป้าหมายต่อมาย่อมเป็นโหลวจื้อเจิง เป้าหมายต่อมาย่อมเป็นเฉินหยวนเฉิง เสนาบดีกรมพิธีการ อันสัมพันธ์กับพิธีบวงสรวง

“นั่นไยมิใช่อวี้หวังได้ประโยชน์ เท่ากับท่านทุ่มเทความคิดเพื่อเขา” เป็นข้อสังเกตเหมิงจื้อ

“โลกนี้ไหนเลยมีแต่การค้าที่สร้างกำไร ความเสียหายของอวี้หวังถูกแอบแฝงอยู่ แค่ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครคิดได้เท่านั้น” เป็นบทสรุปอันตามมาด้วยเสียงแค่นหัวเราะเย็นยะเยียบ

เพราะเป้าหมายอย่างแท้จริงย่อมเป็น “จักรพรรดิ”

“ยกอนุข่มเอก ผู้สร้างแบบแผนผิดๆ นี้ก็คือฝ่าบาท อวี้หวังออกหน้าคราวนี้ไม่เพียงตีแผ่ความผิดของกรมพิธีการ เวลาเดียวกันก็เท่ากับขุดคุ้ยความผิดของฝ่าบาทด้วย

ไม่ว่าในแง่ของเหตุผล ไม่ว่าในแง่ของขนบธรรมเนียม ไม่มีใครโต้แย้งได้

ทั้งฝ่าบาทต่อหน้าก็คงไม่แสดงอาการอะไร ดีไม่ดีอาจตรัสชมด้วยซ้ำ ทว่าในพระทัยส่วนลึกย่อมขุ่นข้องแน่นอน กระทั่งอาจเป็นได้ว่าจะทรงห่างเหินเย็นชาต่อหวงโฮ่วมากขึ้น

ความเสียหายนี้ข้ายังไม่พูดถึง ลองดูก่อนว่าตัวอวี้หวังเองจะมองออกหรือไม่”

 

ในความเห็นของเหมยฉางซู เป็นไปได้ว่าอวี้หวังจะรับข้อเสนอนี้อย่างเต็มใจ “ความเสียหายก็แค่ฝ่าบาทไม่พอพระทัย เรื่องนี้สามารถค่อยๆ หาโอกาสเรียกคืนกลับมาได้ ขอเพียงการตอบโต้ครั้งนี้ได้รับชัยชนะ

ก็จะส่งผลให้เกียรติศักดิ์ของหวงโฮ่วสูงขึ้น กดข่มเยว่ผินให้ต่ำต้อย

และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ อวี้หวังสามารถอาศัยโอกาสนี้ตอกย้ำเรื่องหนึ่งต่อทุกคนในราชสำนักซึ่งถูกมองข้ามมานาน นั่นก็คือ รัชทายาทเกิดจากอนุภรรยาเช่นกัน

ในแง่นี้รัชทายาทกับอวี้หวังเสมอภาคกัน

ที่รัชทายาทมีเกียรติยศสูงศักดิ์ถึงระดับนี้ได้เป็นเพราะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้านายสูงสุดแห่งตงกง หามิใช่เพราะชาติกำเนิดของเขา หากต่อไปฝ่าบาทต้องการปลดเขา เปลี่ยนแต่งตั้งเป็นคนอื่น

ทุกคนก็จะไม่รู้สึกแตกตื่น เพราะรัชทายาทก็ไม่ใช่โอกาสของภรรยาเอก

จิ้งหวังไยมิใช่เช่นกัน ในเมื่อทุกคนก็ถือกำเนิดจากอนุ ต่อไปใครก็ไม่อาจวิพากษ์ว่าใครฐานะต่ำต้อย ไม่ว่าจะเป็นรัชทายาท อวี้หวัง จิ้งหวัง หรือแม้แต่องค์ชายอื่นๆ ทุกคนล้วนมีฐานะเท่าเทียมกัน

เทียบไม่ได้กับความต่ำชั้นระหว่างภรรยาเอกกับอนุภรรยา ดังนั้น แทบไม่มีความสำคัญให้เอ่ยถึง”

 

เป้าหมายแท้จริงของเหมยฉางซูหาได้เป็นอวี้หวังแต่อย่างใด อย่าได้แปลกใจเมื่อฟังคำอธิบายอย่างต่อเนื่องจากปากของเหมยฉางซู เหมิงจื้อถึงกับตบมือดังเพียะร้องอุทานออกมาดังลั่น

“จริงด้วย ทำไมข้าคิดไม่ถึงข้อนี้

อวี้หวังลากรัชทายาทลงมา ขณะเดียวกัน ก็เท่ากับดึงจิ้งหวังขึ้นไป เพราะสิ่งที่เขาตอกย้ำก็คือความแตกต่างระหว่างภรรยาเอกกับอนุภรรยาที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม

ส่วนบุคคลที่เกิดจากอนุภรรยาด้วยกัน ชาติกำเนิดกลับมิใช่ปัจจัยสำคัญที่สุด”

ยังไม่ทันถึงพิธีบวงสรวง ยังไม่ทันถึงเทศกาลปีใหม่ สถานการณ์ในเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วกระทั่งเซียวจิ่งรุ่ย เหยียนอวี้จินและเซี่ยปี้กลับจากบ่อน้ำพุร้อนหู่ซิวก็ต้องตกตะลึง

โหลวจื้อเจิงถูกโค่นลงจากเวที ซิงกั๋วกงถูกริบทรัพย์หมดตัว เหอเหวินซินถูกประหาร

เยว่ผินเพิ่งได้ฟื้นฟูตำแหน่งไม่นานก็มีขุนนางหลายคนยื่นฎีการะบุว่าระเบียบพระราชพิธีบวงสรวงที่กรมพิธีการเป็นผู้ดำเนินการขาดความเหมาะสม อวี้หวังช่วงชิงโอกาสนี้

เชิญนักปราชญ์ชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เคารพยกย่องกว่า 10 คน ร่วมอภิปรายกรณีที่เกิดขึ้น

 

เฉพาะปราชญ์ผู้เฒ่า 10 กว่าคนที่อวี้หวังเชื้อเชิญนับว่ามีน้ำหนักมหาศาลอยู่แล้ว หลายปีที่เทียวพยายามให้ความสำคัญกับเหล่าปัญญาชนมิได้สูญเปล่าแม้แต่น้อย สามารถเป็นขุมกำลังไว้ใช้งานได้เป็นอย่างดี

แต่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดกลับเป็นผู้เฒ่า โจวเสวียนซิง

ซึ่งพำนักในวัดหลิงอื่นด้านตะวันตกของเมืองมานานหลายปี ถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญที่สุด โดยปกติแม้แต่องค์จักรพรรดิหรือขุนนางใหญ่คิดพบสักครั้งก็ยังยากเย็น

ครั้งนี้ถึงกับเคลื่อนเท้าอันสูงส่งเข้าเมืองจินหลิงด้วยตนเอง

ทว่า สิ่งที่ทำให้ผู้คนพิศวงก็คือ หลังจากปราชญ์ผู้เฒ่าเข้าเมืองหลวงมิได้พักแรมในจวนอวี้หวังซึ่งให้การต้อนรับอย่างเอิกเกริก กลับเข้าพักที่จวนมู่หวัง

สร้างความแคลงใจ กังขาเป็นอย่างสูง