ต่างประเทศอินโดจีน : 35 ปีของ “คาวาน” ช้างผู้โดดเดี่ยว ก่อนกลับสู่อ้อมกอดของป่า

เมื่อ 35 ปีที่แล้ว ศรีลังกาส่งมอบลูกช้างเอเชียอายุ 1 ปี เป็นของขวัญให้กับสวนสัตว์มาร์กาซาร์ ในกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ “คาวาน” ไปสู่การเป็น “ช้างที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก” ในอีก 35 ปีต่อมาภายในสวนสัตว์ที่แห้งแล้ง ไร้มาตรฐานใจกลางเมืองหลวงของประเทศ

สวนสัตว์ที่บรรดาสัตวแพทย์ทั้งหลายพากันขนานนามให้ว่าเป็น “แดนอันตราย” สำหรับสัตว์ทุกชนิด

“โฟร์ พอวส์ อินเตอร์เนชั่นแนล” (เอฟพีไอ) องค์กรเอกชนที่รณรงค์เพื่อสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์ ระบุว่าคาวานไม่ได้ถูกเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่ ไม่มีใครดูแล ไม่มีสังคมกับสัตว์ใดๆ และกับมนุษย์

โรงเลี้ยงคาวาน ไม่มีความเหมาะสม พื้นซีเมนต์แห้งแข็ง ดินกระด้างโล้นเลี่ยน ถึงขนาดทำให้เล็บและเท้าของคาวานแห้งปริแตก เพราะขาดการดูแล

คาวานไม่มีควาญประจำตัวซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการดูแลความเป็นอยู่ของมัน อาหารประจำมีเพียงแต่อ้อย 250 ตันต่อวัน ไม่มีผัก ผลไม้เสริมอย่างที่ควรจะเป็น ผลก็คือมันไม่เพียงมีน้ำหนักเกิน แต่ยังมีสภาพขาดสารอาหาร

ปี 1990 สวนสัตว์นำซาเฮลีช้างพังมาเป็นคู่ให้กับคาวาน แต่เพียงแค่ไม่นาน คาวานก็ต้องโดดเดี่ยวอีกครั้ง หลังจากซาเฮลีเกิดติดเชื้อและลุกลามร้ายแรงถึงแก่ความตาย

 

เอมีร์ คาห์ลิล สัตวแพทย์ของเอฟพีไอเคยเดินทางมาเยี่ยมคาวานและสัตว์ในสวนสัตว์แห่งนี้เมื่อปี 2016 แล้วจัดทำข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงแก้ไข แต่ทุกอย่างเงียบหายเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง

ร่างกายของคาวานเต็มไปด้วยริ้วรอยของการถูกบังคับ กดดันให้มันทำการแสดงดึงดูดผู้คน แต่คาห์ลิลเชื่อว่าบาดแผลที่เลวร้ายที่สุดของคาวานอยู่ในใจ ในความรู้สึกนึกคิดของมัน

มันกลายเป็นช้างขี้หงุดหงิด อาละวาดง่าย ก้าวร้าว บางวันได้แต่ยืนนิ่งเฉย โคลงหัวไปมาครั้งละหลายๆ ชั่วโมง

ทีมสัตวแพทย์ของเอฟพีไอบอกว่า เกิดจากความเครียด เบื่อ ความโดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงา

คาห์ลิลบอกว่า การตายของซาเฮลี ทำให้คาวานตกอยู่ในสภาพใจสลายมานานร่วม 8 ปี

 

คาวานกำลังป่วย สัตวแพทย์เรียกอาการของมันว่า “ซูโคซิส” ที่มักเกิดกับสัตว์ในสวนสัตว์ที่ลงเอยด้วยการทำร้ายตัวเอง

สัตว์ของสวนสัตว์แห่งนี้ลงเอยด้วยชะตากรรมไม่ดีนัก ถ้าไม่หายไปเฉยๆ ก็ตายลงอย่างน่าอนาถ

ต้นปีนี้ เมื่อสิงโตอีก 2 ตัวล้มตายลง ศาลฎีกาแห่งอิสลามาบัดพิพากษาขั้นเด็ดขาดเมื่อเดือนพฤษภาคม สั่งปิดสวนสัตว์แห่งนี้ สัตว์ที่หลงเหลือให้ทางการจัดการโยกย้ายไปยังที่อยู่ที่เหมาะสม

“แชร์” ดีวา ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่ร่วมมือกับเอฟพีไอรณรงค์เรื่องคาวานมาตลอดหลายปี ประกาศผ่านทวิตเตอร์ทันทีว่า “คาวานเป็นอิสระแล้ว”

เมื่อคาห์ลิลกลับไปอีกครั้งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ว่าคาวานและสัตว์อื่นที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งมีเพียงหมีหิมาลัยสีน้ำตาล 2 ตัว กวาง 1 ตัว กับลิงอีก 1 ตัว ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมไปอีก

 

นั่นเป็นที่มาของภารกิจเร่งด่วนโยกย้ายคาวานขึ้นเครื่องบินขนส่งสินค้า เดินทาง 10 ชั่วโมงข้ามประเทศไปใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์อนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่าในจังหวัดเสียมราฐ เป็นอิสระ มีพื้นที่ป่ากว้างใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย มีนางช้างอีก 3 ตัวรอคอยการมาของคาวาน

เพื่อการนี้ คาห์ลิลต้องใช้ชีวิตอยู่กับคาวานนานถึง 3 เดือน เปลี่ยนพฤติกรรมการกินจนมันลดน้ำหนักลงได้ราว 450 กิโลกรัม เป็นเพื่อนผ่อนคลายความเครียด จนผูกพันซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง

แชร์ที่เดินทางมาตรวจสอบสภาพศูนย์แห่งนี้ก่อนหน้านี้และรอรับคาวานด้วยตัวเอง บอกว่า นาทีที่คาวานเป็นอิสระอยู่ในป่า คือนาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ

“คาวานไม่ใช่นักโทษอีกต่อไป” เธอย้ำ