คำถามสำคัญที่ควรมีของคนทำธุรกิจ บทเรียนจากการปรับมุมคิดของ “เอสเอฟ” | หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ทดลองชิม

วันก่อนอ่านเพจ “เรื่องมิ้นท์มิ้นท์” ของ “มิ้นท์” พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ที่เคยทำรายการ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” ด้วยกัน

ตอนนี้ “มิ้นท์” เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ “เอสเอฟ” 1 ใน 2 ยักษ์ใหญ่วงการโรงภาพยนตร์

เธอเล่าเรื่องโครงการ The Bed Cinema by OMAZZ ที่เพิ่งเปิดตัว

เริ่มต้นเรื่องด้วยคำถาม “เราอยู่ในธุรกิจอะไร”

เป็นคำถามที่เปลี่ยนชีวิตและธุรกิจของ “อนันต์ อัศวโภคิน”

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เคยทำธุรกิจแบบครบวงจรมาก่อน

ออกแบบบ้านเอง สร้างเอง และขายเอง

เพราะคิดว่าทำทุกขั้นตอนจะทำให้ต้นทุนต่ำที่สุด

ลืมเรื่อง “คุณภาพ”

“ครบวงจร” ทำให้ “คุณภาพ” มีปัญหาได้

เพราะคนทำงานในองค์กรเดียวกัน กินข้าวด้วยกัน ย่อมมีความเกรงอกเกรงใจกัน

ตรวจอะไรก็หยวนๆ กันไป

ตอนนั้นองค์กรแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จึงใหญ่โตมาก

เครื่องมือเครื่องจักรเต็มไปหมด คนงานเต็มบริษัท

จนวันหนึ่งคุณอนันต์ตั้งคำถามว่า “เราอยู่ในธุรกิจอะไร”

อยู่ในธุรกิจก่อสร้าง

หรือธุรกิจขายบ้าน

พอ “โซโตริ” ปั๊บ องค์กรแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ก็หดตัวลง ยุบฝ่ายก่อสร้างทั้งหมด

กลยุทธ์การเอาต์ซอร์ส กลายเป็น “ท่าไม้ตาย” ของ “อนันต์” จนถึงทุกวันนี้

“มิ้นท์” เอาเรื่องนี้มาโยงกับการทำธุรกิจของ SF

คนชอบคิดว่าโรงหนัง คือ การดูหนัง

มีหนังใหม่ๆ ให้ดูก็พอแล้ว

แต่ “มิ้นท์” บอกว่า สินค้าของ SF ไม่ใช่ “การดูหนัง”

แต่เป็น “ประสบการณ์” การดูหนัง

ทำอย่างไรจะให้เกิดความประทับใจหรือความทรงจำที่ดีในการดูหนัง

ไม่ใช่แค่หนังดีๆ

ภาพคมชัด

ระบบเสียงดี

แต่ยังมี “อื่นๆ อีกมากมาย” ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีในการดูหนัง

และนั่นคือที่มาของโครงการ The Bed Cinema by OMAZZ

การเอา “เตียงนอน” มาไว้ใน “โรงหนัง”

ลองคิดเล่นๆ ถึงไอเดียนี้

ผมคิดว่าพื้นที่ในบ้านที่เราดูโทรทัศน์กัน

นอกจากโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้ว

“ห้องนอน” น่าจะเป็นพื้นที่แห่งความสุขในครอบครัว

นอนดูบนเตียงกับคนที่เรารัก

หรือกับลูกๆ

มันสบายกว่าดูที่โซฟาเยอะเลย

แต่ระบบเสียง หรือขนาดของภาพสู้โรงหนังไม่ได้

The Bed Cinema by OMAZZ คือ การนำ “ห้องนอน” มาไว้ในโรงหนัง

ความเป็นส่วนตัวอาจน้อยลง

แต่สิ่งที่ทดแทนคือเสียงและภาพที่สุดแสนอลังการ

ที่สำคัญ อยู่ที่บ้านกินป๊อปคอร์นบนเตียงไม่ได้

แต่ที่นี่กินได้

ในมุมของ SF นี่คือ “ของแปลก” หรือ “ประสบการณ์ใหม่” ของคนดูหนัง

เอาบรรยากาศที่สบายและมีความสุขที่สุดที่บ้านมาใส่ไว้ในโรงหนัง

เป็น story ที่ดีมาก

“มิ้นท์” บอกว่า การเลือกที่นอน OMAZZ เป็นพันธมิตรธุรกิจ ไม่ได้มีเหตุผลซับซ้อนอะไรเลย

เพียงเพราะผู้บริหารของ SF ใช้ที่นอนแบรนด์นี้

นอนแล้วสบาย

…ชอบ

ก็เลยอยากเอา OMAZZ มาอยู่ในโรงหนัง

เขาเลือกรุ่นที่หรูที่สุด คือ รุ่น Adjusto?

เป็นเตียงนอนไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับได้ตามความต้องการ และมีเครื่องนวดผ่อนคลายได้

ตามข่าวบอกว่า มูลค่าการลงทุนต่อเตียงนอน คือ 600,000-1,000,000 บาท

เห็นราคาแล้วอยากนอนเลย

ในด้านการลงทุน ผมไม่รู้ว่าเกม win-win แบบนี้ใครจ่ายเท่าไร

แต่ในมุมการตลาด ฝั่ง SF ถือว่าได้สร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างให้คนดูหนัง

ส่วน OMAZZ ก็ได้ทั้งแบรนด์

และ “ขายของ”

อย่าลืมว่าที่นอนในโรงหนังนี้ราคาสูงมาก

การซื้อ “ที่นอน” ระดับราคาหลักแสนคงต้องใช้เวลาตัดสินนานทีเดียว

และปัจจัยที่ผลต่อการตัดสินใจมากที่สุด

คือ การทดลองนอน

ถ้าที่นอน OMAZZ วางขายอยู่ในห้าง คนเดินผ่านก็คงได้ทดลองนอนไม่นาน

5 นาทีคนก็เหล่แล้ว

การตัดสินใจคงยาก

แต่พอเรามาดูโรงหนังนี้ เราจะได้ทดลองนอนยาวนานเกิน 1 ชั่วโมง

นานพอที่จะบอกว่า “ชอบ” หรือ “ไม่ชอบ”

เพราะได้ลองเล่นอุปกรณ์ต่างๆ ปรับระดับสูงต่ำ

หรือใช้เครื่องนวดหลัง

ในเรื่องของกลุ่มลูกค้า ที่นอนราคาเท่ากับรถ คนซื้อจะต้องฐานะดีมาก

ราคาตั๋วหนังโรงนี้ก็คัดกรองได้พอประมาณ

เพราะคนที่จะดูหนังครั้งละ 900 หรือ 1,000 บาท น่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าของ OMAZZ

ถ้าไม่รวยระดับซื้อได้ในวันนี้

ก็อยู่ในระดับที่มีโอกาสซื้อในอนาคต

สำหรับ “ลูกค้าอนาคต” การนอนดูในโรงหนังนี้ ถ้าเขารู้สึกดีกับที่นอน

แบรนด์ OMAZZ ก็จะอยู่ในใจเขา

วันหนึ่งถ้ารวยถึงระดับ เขาอาจจะซื้อที่นอน OMAZZ ก็ได้

เป็นกลยุทธ์การจูงใจลูกค้าทั้ง “ปัจจุบัน” และ “อนาคต”

ส่วนกลุ่มลูกค้าวันนี้ ผมเชื่อว่าเขาจะยอมเสียเงินมาดูหนังโรง The Bed Cinema by OMAZZ ก่อน

เป้าหมายไม่ใช่ “ดูหนัง”

แต่มาทดลอง “ที่นอน” แบบจริงจัง

เน้นการใช้อุปกรณ์เป็นหลัก

ปรับโน่น ปรับนี่เล่นตลอด

ดูจบก็ตัดสินใจได้เลยว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ

ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ ที่ขายสินค้าในระดับเดียวกัน จะเสียเปรียบ OMAZZ เพราะไม่มีสถานที่สำหรับการทดลองนอนที่ยาวนานขนาดนี้

โรงหนังนี้น่าจะเป็นเครื่องมือการขายที่ดีมาก

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคงได้ตั๋วหนังให้มาทดลองนอน

ไม่ต้องอธิบายมาก

ลองเลย

ถ้าใครดูหนังแล้วหลับ

รับรอง…ซื้อแน่นอน