ส่องวิธีการรับมือของ “ตร.” – สตม. หลัง ปชช.ผวาแก๊งจีวัน นำเข้าโควิด ซีล 126จุด ฟันวินัย-อาญา ถ้า จนท.มีเอี่ยว

ถกเถียงกันว่าตอนนี้เป็นการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศครั้งนี้เป็นรอบ 2 หรือไม่

หลัง “แก๊งสาววันจีวัน” ที่ทำงานในสถานบันเทิง จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา ลอบหนีเข้าเมืองเข้าทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ยอมกักตัว

คนเหล่านี้นี่เองแอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เป็นจุดเริ่มต้นของการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย

เพราะนอกจากจะไม่เข้าระบบสเตต โลคอล ควอรันธีนแล้ว กลุ่มนี้ยังเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ คอนเสิร์ตที่ จ.เชียงราย ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง รวมไปถึงเดินทางโดยเครื่องบินไปยังจังหวัดต่างๆ และกรุงเทพมหานคร

จนทำให้ประชาชนเกิดความกังวลว่าจะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ในไทยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เหล่าบรรดานักรบเสื้อกาวน์ทั้งหลายต่างตอบว่ายังไม่ใช่การระบาดรอบ 2

ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีความเกี่ยวข้องกับ จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา เกือบครึ่งร้อย กระจายอยู่ใน จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา กทม. พิจิตร ราชบุรี และสิงห์บุรี

สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า นอกจากความเห็นแก่ตัวของคนกลุ่มนี้ที่ไม่ยอมกักตัวเอง ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม แล้วเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานความมั่นคง การ์ดตกหรือไม่

จึงคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการระงับยับยั้งการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านรอบไทย สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 น่าวิตกยิ่งนัก

สํานักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงมาตรการสกัดการลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดนว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ที่มีเขตพื้นที่ติดแนวชายแดนซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและทหารสกัดการลักลอบเข้าชายแดนตามช่องทางธรรมชาติ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่

พร้อมกับมีคำสั่งถึงหน่วยปฏิบัติ ดังนี้

1. ให้ ภ.2-9, บช.ตชด. และ สตม. เพิ่มความเข้มงวดกวดขัน ระดมสรรพกำลังในการป้องกันปราบปรามการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะแนวชายแดนด้านที่ติดกับประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง

2. ให้ บช.น. และ ภ.1-9 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อป้องกัน เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ตอนใน โดยให้จัดทำแผนการปฏิบัติการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ให้ชัดเจน

3. ให้ บช.น. และ ภ.1-9 สนับสนุนเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในการสอบสวนโรคและติดตามผู้ต้องสงสัย หรือผู้สัมผัส หรือผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้นำการสืบสวนทางเทคนิคหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเหมาะสมมาใช้ในการสืบสวนเพื่อสนับสนุนเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ให้ได้ข้อเท็จจริงถึงพฤติการณ์ของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสผู้ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. ในฐานะโฆษก สตม. กล่าวถึงมาตรการสกัดกั้นคนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายว่า เราพยายามซีลพื้นที่ให้มีการลักลอบเข้ามาให้น้อยที่สุด

สำหรับช่องทางเข้า-ออกทั่วประเทศทั้งทางบก เรือ อากาศ มีทั้งหมด 126 ช่องทาง ได้มีการปิดพรมแดนทั้งหมด ยกเว้นบุคคล 11 ประเภทที่จะสามารถเข้าเมืองได้ เช่น บุคคลที่อยู่ในสถานทูต, มาเยี่ยมครอบครัว, มาประกอบธุรกิจ, นักเรียน-นักศึกษา และข้อยกเว้นพิเศษเป็นข้อตกลงทางรัฐบาล

เพราะฉะนั้น หากไม่เข้าตามหลัก 11 เหตุผล คนต่างด้าวยังไม่สามารถเข้ามาตามด่านชายแดนหรือทางอากาศได้ จึงต้องมีมาตรการในการปิดพรมแดน เพื่อไม่ให้คนเข้าคนออก ป้องกันการแพร่เชื้อเข้าสู่ประเทศไทย

สำหรับมาตรการเข้ม ดูแล 126 ช่องทางทั่วประเทศ เฉพาะให้คนเดินเข้าตามช่องที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย แต่ถ้าเป็นพรมแดนธรรมชาติทางบก ทางน้ำ ก็ต้องอาศัยหน่วยงานทางความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ต้องช่วยกันซีลพื้นที่อีกครั้ง

ส่วนจุดล่อแหลมจุดเสี่ยงบริเวณแม่สายเป็นพรมแดนพื้นดิน 100 กิโลเมตร ติดแม่น้ำ 30 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องซีลพื้นที่กันอย่างเข้มข้น นอกเหนือจากนั้นจะเป็นพื้นที่ป่าเขา ยากต่อการข้ามแดนมา

ทั้งนี้ ช่องทางธรรมชาติที่กั้นระหว่างประเทศไทยกับเมียนมาประมาณ 2,401 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่ยาวกว่าประเทศเพื่อนบ้านอีก 2 ประเทศ มีจุดล่อแหลม 3-4 จุด ที่ข้ามง่ายและใกล้กับถนน

ซึ่งได้ส่งกำลังไปอุดช่องโหว่บริเวณดังกล่าวแล้ว

พล.ต.ต.อาชยนกล่าวอีกว่า ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่มี 3 อำเภอที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านคือ อ.ชัยปราการ อ.แม่อาย และ อ.แม่แตง ซึ่งประชากรเพื่อนบ้านยังไม่มีการลักลอบเข้ามา เนื่องจากเข้ามาได้ยาก ส่วนฝั่ง จ.เชียงราย ในช่วงที่เป็นแม่น้ำ พื้นดิน ที่ติดกับชายแดนแม่สาย อีกฝั่งจะเป็นท่าขี้เหล็ก ในช่วงก่อนยังมีคนลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมา แต่ตอนนี้ได้ไปซีลพื้นที่บริเวณจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมไว้แล้ว สร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้พอสมควร

ทั้งนี้ หากทราบว่ามีจุดไหนเป็นจุดล่อแหลม จะจัดกำลังเข้าไปเสริม รวมถึงการตั้งลวดหนามหีบเพลง การลาดตระเวน กำชับผู้ประกอบการรถขนส่งรถโดยสาร และบุคคลที่อยู่บริเวณชายขอบ ถ้าพบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือช่วยเหลือในการนำพา หรือเข้ามาโดยผิดกฎหมาย มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 1 แสนบาท และถ้าพบว่าเป็นที่ซุกซ่อนคนที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาก็จะผิดข้อหาเรื่องซ่อนเร้นฯ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 5 หมื่นบาท

ทั้งนี้ หากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.ต.ต.อาชยนกล่าวว่า เราจะเอาผิดดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญา ที่ผ่านมาเคยมีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการขนคนเข้า-ออกก็จับกุมหมด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆ ไม่มีการละเลย ตามสืบจับทุกคดี

สถานการณ์โควิด-19 ไทยครั้งนี้ ผู้คนต่างประณามบรรดาคนหนีเข้าเมืองกลุ่มเล็กๆ ขาดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เพราะฉะนั้น ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อให้สังคมอยู่กันได้อย่างปกติสุข