ต่างประเทศ : “สปุตนิก วี” แค่เครื่องมือแผ่อิทธิพลรัสเซีย?

รัสเซียเริ่มทำการแจกจ่าย “สปุตนิก วี” วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่สถาบันวิจัยการระบาดวิทยาและจุลชีววิทยากามาเลยาของรัสเซียเป็นผู้พัฒนาขึ้น ด้วยการฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูงกลุ่มแรก เป็นแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ครูและนักสังคมสงเคราะห์ที่มีอายุไม่เกิน 60 ปีไปแล้วตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่คลินิก 70 แห่งทั่วกรุงมอสโก

ส่งผลให้รัสเซียเป็นชาติแรกของโลกที่ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้กับประชาชนในวงกว้าง

ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่ามีขึ้นก่อนหน้าที่อังกฤษจะทำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของบริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิตยารายใหญ่สัญชาติอเมริกัน ซึ่งพัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนีที่ทั่วโลกกำลังจับตาให้กับประชาชนทั่วไปที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงกลุ่มแรกในอังกฤษเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น

การเร่งรีบแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโควิดดังกล่าวของรัสเซีย สร้างความฮือฮาให้กับชาวโลกอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ทำเซอร์ไพรส์มาแล้วด้วยการชิงประกาศขึ้นทะเบียนให้สปุตนิก วี เป็นวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ตัวแรกของโลกไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ทำเอาแวดวงนักวิทยาศาสตร์ทั้งในรัสเซียและต่างประเทศพากันเลิกคิ้วเชิงตั้งคำถามด้วยความสงสัย ปนห่วงวิตก ในการเร่งรับรองวัคซีนป้องกันโควิดตัวนี้ของรัสเซีย

เหตุเพราะสปุตนิก วี ยังอยู่ในขั้นตอนของการทดลองที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

และข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประสิทธิผลและความปลอดภัยของวัคซีนตัวนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาสู่สาธารณชน

 

สปุตนิก วี (Sputnik V) เป็นชื่อที่ใช้ในทางการค้า ตั้งขึ้นตามชื่อดาวเทียมดวงแรกของโลกที่รัสเซียสมัยยังเป็นสหภาพโซเวียตส่งขึ้นสู่วงโคจรในปี ค.ศ.1957 แต่มีชื่อทางการว่า แกม-โควิด-แวค (Gam-KOVID-Vak) ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขรัสเซียได้ทำการขึ้นทะเบียนรับรองไว้เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา และอนุมัติให้แจกจ่ายในรัสเซียได้

ขณะที่หลังจากไฟเซอร์ประกาศผลการทดลองเบื้องต้นในการทดลองทางคลินิกวัคซีนต้านโควิดของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ในเฟส 3 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการทดลองว่าวัคซีนตัวนี้ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

เพียงไม่ถึงสองวันรัสเซียก็รีบประกาศความสำเร็จเกทับตามมาติดๆ ว่า วัคซีนสปุตนิก วี มีประสิทธิผลในการป้องกันโควิดมากกว่า 92 เปอร์เซ็นต์

กระทั่งครั้งล่าสุดราวกลางเดือนพฤศจิกายน รัสเซียออกมาให้ข้อมูลว่า สปุตนิก วี ที่ยังอยู่ในการทดลองทางคลินิกขั้นสุดท้าย มีประสิทธิผลในการป้องกันโควิด-19 มากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์

หลังจากทางไฟเซอร์ออกมายืนยันผลการทดสอบล่าสุดว่าวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค มีประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงรุนแรงใดๆ

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามหลังมาว่ารัสเซียด่วนอนุมัติให้ใช้วัคซีนสปุตนิก วี เร็วเกินไป

และยังตั้งอยู่บนฐานข้อมูลของผลการทดลองเบื้องต้นที่ใช้อาสาสมัครเข้าร่วมในการทดลองเพียงแค่หยิบมือ และใช้เวลาในการทดลองในระยะแรกเพียงแค่ราว 2 เดือนเท่านั้น ซึ่งสั้นมาก

ความเร่งรีบนี้ดูเหมือนจะเป็นความพยายามชิงจังหวะของรัสเซียที่จะประกาศศักดาว่าตนเองเป็นประเทศแรกที่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาใช้ได้ก่อนเท่านั้น

 

แอนเดรีย ปาลาสเซียโน ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีชี้ว่า จากที่รัสเซียพยายามแสวงหาบทบาทอิทธิพลในเวทีโลกผ่านการค้าอาวุธและการส่งออกพลังงานที่ตนเองมีความรุ่มรวยอยู่

แต่วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก็ได้ให้อีกเครื่องมือหนึ่งแก่รัสเซียในการแผ่ขยายอิทธิพลของตนเอง

นั่นก็คือวัคซีน หากวัคซีนของรัสเซียนั้นมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 อย่างแท้จริง

นักวิเคราะห์บางรายมองไปในมุมที่ว่าการเร่งแจกจ่ายวัคซีน ไม่เพียงเป็นเรื่องการรับมือด้านสาธารณสุขของรัสเซีย แต่ยังอาจมีนัยทางการเมืองแฝงอยู่

ทาเทียนา สตาโนวายา นักวิเคราะห์และผู้ก่อตั้งศูนย์อาร์.โพลิติก ที่ให้คำปรึกษาด้านการเมืองบอกว่า นี่เป็นวิธีการที่ปูตินต้องการแสดงให้เห็นว่ารัสเซียมีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนและรัสเซียเป็นผู้นำในวงการวิทยาศาสตร์โลก

“ปูตินต้องการแสดงให้เห็นว่ารัสเซียเป็นผู้นำในการต่อสู้กับวิกฤตการณ์แพร่ระบาดครั้งนี้และยังประสบความสำเร็จมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ” สตาโนวายากล่าว

ขณะที่ฌอง เดอ กลีเนียสตี ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันระหว่างประเทศและกิจการยุทธศาสตร์ฝรั่งเศส (ไออาร์ไอเอส) มองว่าวัคซีนสปุตนิก วี เป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรัสเซีย ที่ถือเป็น “ศักดิ์ศรีของชาติ” และในเชิงสัญลักษณ์เป็นสิ่งบ่งบอกถึงการกลับมาของรัสเซียในฐานะผู้นำแถวหน้าในอุตสาหกรรมยา

ที่จะทำให้รัสเซียแสวงหาประโยชน์สูงสุดได้อีกทางหนึ่งผ่านซอฟต์เพาเวอร์นี้!