ทำไมปกมติชนสุดสัปดาห์ ต้อง NEWS WAR ?

ปก มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับนี้ ดูเหมือนจะเฟดตัวออกจาก การเมือง
โดยโฟกัสไปยัง แวดวงสื่อ โดยเฉพาะ ทีวีดิจิตอล
แต่กระนั้น เมื่อ สัมผัสเนื้อในจริงๆ กลับพบว่ายังเกี่ยวพัน กับ การเมือง โดยตรงอยู่นั่นเอง
เพราะการที่ สังคม ให้ความสนใจ กรณีนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นำผู้ประกาศข่าวเนชั่นทีวี อาทิ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสันติสุข มะโรงศรี, นายกนก รัตน์วงศ์สกุล, นายธีระ ธัญไพบูลย์, นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์, นายสถาพร เกื้อสกุล และ น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย ลาออกจากเนชั่น เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
พร้อมกับกระแสข่าวจะยกทีมไปอยู่สถานีโทรทัศน์นิว 18 โดยจะออกอากาศในช่องใหม่ ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นไป นั้น
มิใช่ เพียงแค่ การติดตาม “ผู้ประกาศข่าว” ที่มีชื่อเสียง เปลี่ยนช่องเท่านั้น
หากแต่ มีกระแสข่าว การเชื่อมโยง ทีมข่าวชุดนี้ เข้ากับ ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่กำลังมีการแบ่งขั้ว ระหว่างฝ่ายอนุรักษ์ กับ ฝ่ายเสรีนิยม ด้วย

แล้วจุดยืนของ ทีมนายสนธิญาณ เป็นอย่างไร
คงสัมผัสได้จากเฟซบุ๊กของนายสนธิญาณ เมื่อเร็วๆนี้
“เมื่อมึงเปิดหน้าจะเอาสาธารณรัฐ
กูก็ต้องประกาศให้โลกรู้
ว่ากูต้องการ ‘ราชประชาสมาสัย’
ที่พระมหากษัตริย์กับประชาชนคนไทย
จะผนึกหัวใจเข้าด้วยกัน
เพื่อมุ่งมั่นสู่สังคมศิวิไลซ์ที่งดงาม
แล้วเราจะได้เห็นกัน
#สนธิญาณว่าไว้
#ราชประชาสมาสัย”
ชัดแจ้ง เหลืองจ๋า ว่ามีจุดยืนอย่างไร
และคงไม่หวาดหวั่นกระแส “แบน” ไม่ดู-ไม่โฆษณา เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับช่องเดิม–เนชั่น จนเป็นเหตุที่ต้องยกมือบ๋ายบาย นายฉาย บุนนาค ออกมาอย่างแน่นอน
และสะท้อนว่า กลุ่มสื่อกลุ่มนี้ ย่อมมีดีอย่างแน่นอน จึงประกาศเดินหน้าลุยเช่นนี้

โดยเว็บไซต์ THE KEY NEWS ให้ข้อมูลน่าสนใจ โดยอ้างแหล่งข่าวจากบริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด เจ้าของคลื่น New TV 18 เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้บริหารบริษัทมีการเจรจาตกลงที่จะขายสัมปทานช่อง New TV 18 ที่จะเหลือเวลาสัมปทานอีกประมาณ 8 ปี ให้กับกลุ่มของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การเจรจาที่ผ่านมา หารือกันประมาณ 5 รอบ ในห้วงเวลา 3 สัปดาห์ โดยคนกลางที่เป็นผู้เจรจาคือ นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ได้เรียกคุณแดง-ประภา เหตระกูล มาหารือโดยตรงกับนายสนธิญาณ เพื่อหาข้อยุติ เนื่องจากกลุ่มนายสนธิญาณได้นำใบเซ็นสั่งซื้อโฆษณาระยะยาวจากบริษัทที่มีชื่อเสียงประมาณ 6-7 บริษัท ซึ่งเป็นการการันตีว่า มีรายได้โฆษณาแน่นอน โดยจบที่ตัวเลข 800 กว่าล้านบาท
“ระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการโอนที่ดิน โอนตึก โอนเครื่องมือ เปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทใหม่ สำหรับบุคลากร ทราบมาว่า ทีมของนายสนธิญาณจะคัดเลือกบุคลากรบางคนมาร่วมงาน อย่างนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ หรือเป๊ปซี่ ก็จะได้ไปจัดรายการใหม่กับทีมนายสนธิญาณ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่ทราบแน่ชัด ก็คงต้องมีการเจรจากันต่อไป” แหล่งข่าวคนเดียวกันกล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้รับการสนับสนุนด้านโฆษณาจาก 7 บริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มูลค่าหลายร้อยล้านบาท โดยผู้ให้การสนับสนุนโฆษณาเหล่านี้ ไม่กลัวเรื่องการถูกแบนโฆษณา และวางแผนการลงโฆษณาระยะยาว ซึ่งนายสนธิญาณจะเปิดแถลงข่าวเป็นทางการในวันที่ 16 ธันวาคม นี้ เวลา 15.00 น. ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล และจะออนแอร์อย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ธันวาคม เวลา 15.00 น. โดย 2 ชั่วโมงแรกจะเป็นรายการพิเศษ จากนั้นหลัง 17.00 น. เป็นต้นไป จะเข้าสู่ผังรายการปกติ

ถือเป็นข้อมูลในเชิงลึก และสร้างความประหลาดใจให้กับคนในแวดวงพอสมควร
เพราะนี่ไม่ใช่เป็นการยกทีมเข้าไปเป็นสตาฟฟ์งาน
แต่เข้าไปเป็นเจ้าของแทนคุณแดง-ประภา เหตระกูล เลยทีเดียว
หากเป็นจริงย่อมสะท้อนให้เห็นว่า “กองหนุน” นายสนธิญาณไม่ธรรมดา
สอดคล้องกับกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า มีบุคคลสำคัญระดับ “ลุง” ได้ระดมทุนเพื่อให้นายสนธิญาณเข้าไปทำช่องทีวี โดยมีเป้าหมายหลักในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเข้มข้น
และเป็นสื่อมวลชนที่มีจุดยืนตรงข้ามกับกลุ่มคณะราษฎร อย่างไม่ปิดบังอำพราง
พร้อมๆ กับยืนข้างฝั่งฟากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไม่ปิดบังอำพรางเช่นกัน
ซึ่งคงต้องรอชมว่า รายการทางช่องนิว 18 จะเลือกเดินทาง “ขวา” เข้มข้นขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางกระแสว่าดีลช่องนิว 18 ลงตัว
แต่ล่าสุด นายเสริมสุข กษิดิประดิษฐ์ ผู้จัดรายการช่องนิว 18 โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ความว่า
“ยันนิว 18 ยังไม่ได้มีผังรายการใหม่ ทีมสนธิญาณ-อัญชะลี-กนก ยังไม่ได้เริ่มจัดรายการ 21 ธันวาคม ขณะที่ปอง อัญชะลี โพสต์กรุยทางจัดรายการออนไลน์แทน เผยสาเหตุปัญหาคือนิว 18 ตั้งราคาขายสัมปทาน 2 พันล้าน ขณะที่สนธิญาณขอจ่ายปีละ 100 ล้าน 8 ปี”
ทั้งนี้ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก โพสต์เฟซบุ๊กวันเดียวกันว่า “ถ้าพวกเราไม่มีทีวีสักช่อง ในวันนี้ พรุ่งนี้ หรือตลอดไป จะติดตามเราทางออนไลน์ไหมคะ ถ้าตอบว่าตาม ตามเลยค่ะ อย่าลังเล”
เป็นสัญญาณล่าสุด ว่าการเปิดฉากทำสงครามข่าวสารยังไม่พร้อม คงต้องติดตามกันต่อไป

ติดตามเช่นเดียวกับ เครือเนชั่น นายเก่าที่นายสนธิญาณยกพวกจากมา
โดยมีกระแสข่าวนายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ก็พยายามฟื้น “เนชั่น” กลับขึ้นมาอีก
ซึ่งนอกจากย้ำอุดมการณ์จุดยืนขององค์กรสื่อสารมวลชน เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
ยังมีข่าวจะดึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จอมแฉ มาจัดรายการทางเนชั่นทีวี ด้วย
รวมถึงพยายามจะดึง น.ส.นรากร ติยายน ผู้อำนวยการฝ่ายงานบริหารข่าวช่องวัน 31 มาร่วมงาน อีกแรงหนึ่ง
ซึ่งถ้าเป็นไปตามข่าวก็คงทำให้ค่ายเนชั่นมีเรี่ยวแรงในการทำสงครามข่าวสารอันดุเดือดต่อไป

แน่นอนว่า ทั้งนิวช่อง 18(หากดีลกับนายสนธิญานลงตัว) และทีวีเนชั่น คงจะเป็นคู่แข่ง คู่แค้น ที่ต่อสู้แย่งเรตติ้งกัน เหมือนกับแข่งขันกับทีวีดิจิตอลช่องอื่นๆ
แต่ทั้ง 2 ช่องก็คงแสดงจุดยืนที่จะเป็นช่องปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเข้มข้น เหมือนๆ กัน
โดยเฉพาะนิว 18 นั้น คงไม่ปิดบังจุดยืน ที่จะยืนฝั่งตรงข้ามกับกลุ่มคณะราษฎร รวมถึงคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล ที่ถูกมองว่าเป็นฝ่ายเสรีนิยมเอียงซ้าย
ขณะเดียวกัน คงหลอมรวมเข้ากระแส “อนุรักษ์” และฝ่ายจารีต ที่ไม่ได้จำกัดวงเฉพาะสื่อมวลชน หากแต่แผ่กว้างไปยังองค์กรแนวร่วมอื่นอย่างชัดเจน เพื่อที่จะสกัดกั้นฝ่ายที่มีอุดมการณ์แตกต่างๆ แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
บทบาทที่เป็นเจ้าของช่อง ไม่ใช่ “ลูกจ้าง” ย่อมทำให้มีสิทธิแสดงบทบาทเต็มที่ไม่หยุดยั้ง
เปิดแนวรบ NEWS WAR อย่างเต็มตัว
ซึ่งจะเกินเลยไปจากบทบาทของสื่อมวลชนไปสู่การโฆษณาชวนเชื่อ และมีเบื้องหลังที่มากไปกว่าธุรกิจสื่อหรือไม่
นี่เป็นสิ่งที่สังคมต้องช่วยกันจับตามอง!
————