ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 พฤษภาคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | กรองกระแส |
เผยแพร่ |
ไม่ว่าข่าวการเข้าไปเทกโอเวอร์พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าข่าวการใส่ร้ายแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทยโดยโยงเข้ากับการเลือกตั้งประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เหมือนกับสังคมการเมืองไทยยังย่ำอยู่กับที่เดิม
ทั้งๆ ที่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว ทั้งๆ ที่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 กำลังจะครบ 3 ปี
ทั้งๆ เพิ่งประกาศและบังคับใช้ “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560”
ทั้งๆ ที่บรรยากาศแห่งการปรองดองสมานฉันท์ซึ่งเริ่มจากวันวาเลนไทน์จะครบกำหนดต้องสรุปและจัดทำเป็นข้อตกลง “ร่วม” ในทางการเมืองอีกไม่กี่วันข้างหน้า
แต่ข่าวลือและข่าวปล่อยก็ยังปลิวว่อน
เหมือนกับสถานการณ์ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ได้ย้อนกลับมา เหมือนกับสถานการณ์ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ได้ย้อนกลับมา
เท่ากับยืนยันว่า ความขัดแย้ง แตกแยก ยังดำรงอยู่
เท่ากับยืนยันว่า ความหวาดเกรงว่ารัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 จะเสียของเหมือนกับรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ยังเป็นด้านหลักทางความคิด
ทำไม ต้องชาติพัฒนา
ทำไม ต้องภูมิใจไทย
ข่าวการเทกโอเวอร์พรรคชาติไทยพัฒนา ช่วยการเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคภูมิใจไทย มีความสัมพันธ์กับการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นประมาณปลายปี 2561
มาจากความหวาดกลัวต่อ “พรรคเพื่อไทย”
เพราะมีการระบุว่าพรรคเพื่อไทยคือพรรคที่จะเข้าไปเทกโอเวอร์พรรคชาติไทยพัฒนา เพราะมีการระบุว่ามีการต่อสายคืนไมตรีระหว่างผู้นำที่แท้จริงของพรรคเพื่อไทยกับผู้นำพรรคภูมิใจไทย
ผู้นำที่แท้จริงของพรรคเพื่อไทยเป็นใครย่อมรู้กันอยู่เป็นอย่างดี
ข่าวปล่อยเหล่านี้ดำเนินไปในลักษณะตีปลาหน้าไซ เพราะเนื้อแท้แล้วก็คือ ไม่ต้องการให้มีความสัมพันธ์ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการให้มีความร่วมมือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคชาติไทยพัฒนา
เพราะเกรงว่าเป้าหมายทางการเมืองที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ต้องล้มเหลว
เท่ากับยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งครั้งใดล้วนไม่อาจเอาชนะได้
รัฐธรรมนูญ 2540
รัฐธรรมนูญ 2550
รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 คือรัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้พรรคไทยรักไทยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544
จากนั้นก็ได้ชัยชนะอย่างท่วมท้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2548
รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ต้องการทุบทำลายพัฒนาการแห่งพรรคไทยรักไทย จึงมีการยุบพรรค จึงมีการร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 จึงมีการวางแผนบันได 4 ขั้นเพื่อสกัดมิให้พรรคไทยรักไทยยึดครองชัยชนะ
แต่เลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนอันเป็นอวตารแห่งพรรคไทยรักไทยก็ได้ชัยชนะ
จึงต้องมีการเคลื่อนไหวอันนำไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชน
จากนั้นจึงมีการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นจึงมีการปราบปรามอย่างรุนแรงไม่ว่าในเดือนเมษายน 2552 ไม่ว่าในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ต่อการเคลื่อนไหวของพันธมิตรแห่งพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย
แต่เมื่อถึงการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยก็ได้ชัยชนะเหนือพรรคประชาธิปัตย์อย่างถล่มทลาย
โดยดึงเอาพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าเป็นพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาล
จึงต้องมีการก่อสถานการณ์เหมือนกับก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 กระทั่งเกิดรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557
เมื่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ไม่ทรงพลานุภาพก็จำเป็นต้องฉีกทิ้ง
รัฐธรรมนูญ 2560
การเลือกตั้ง 2561
กระบวนการข่าวลือ ข่าวปล่อย ไม่ว่าจะพุ่งเข้าใส่พรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะพุ่งเข้าใส่พรรคชาติไทยพัฒนา ยังดำรงจุดมุ่งหมายเดิมไม่แปรเปลี่ยน
เป็นเป้าหมายเดียวกับก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549
เป็นเป้าหมายเดียวกับก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
สะท้อนอารมณ์และความรู้สึกที่แสดงให้เห็นว่ายังเป็นความหวาดกลัวอย่างเดิมที่เคยดำรงอยู่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน และเมื่อ 3 ปีก่อน
ยังเป็นความหวาดเกรงต่อพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย
ยังเป็น “ผีทักษิณ” และผนวกรวมกับ “ผียิ่งลักษณ์” เข้าไปอีก