ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 สิงหาคม 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | คนของโลก |
เผยแพร่ |
ถึงตอนนี้คาดว่าคงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก “โปเกมอน โก” เกมออนไลน์ยอดนิยมบนโทรศัพท์มือถือที่กระแสความคลั่งไคล้ของผู้คนทั่วโลกต่อเกมนี้แทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในระดับปรอทแตก
ทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้เริ่มต้นขึ้นมาจาก ซาโตชิ ทาจิริ วัย 50 ปี ผู้ก่อตั้งเกมฟรีก บริษัทผู้พัฒนาเกมที่จุดประกายแนวคิดนี้จนกลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมที่โด่งดังที่สุดของโลก และเพิ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ยอดขายเกมในซีรี่ส์นี้รวมกันทะลุ 200 ล้านชุดไปเรียบร้อย และความนิยมของโปเกมอนยังขยายวงไปสู่การสร้างเป็น “อนิเมะ” หรือภาพยนตร์การ์ตูนที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2540 รวมไปถึงการ์ดเกม
ทาจิริไม่ได้สร้างแฟรนไชส์โปเกมอนขึ้นมาเพียงคนเดียว เครดิตส่วนหนึ่งต้องยกให้กับ เคน สุงิโมริ ศิลปินผู้ออกแบบตัวละครโปเกมอนทั้งหมดด้วย
อย่างไรก็ตาม โครงการสร้างเกมนี้แต่ดั้งเดิมชัดเจนว่าเป็นของทาจิริมากกว่าของใครๆ ทาจิริเป็นทั้งผู้อำนวยการสร้าง ผู้ออกแบบเกม และออกแบบฉาก
อย่างไรก็ตาม ทาจิริเป็นคนค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม เขาถึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากเท่ากับนักออกแบบเกมชื่อดังคนอื่นๆ อาทิ ชิเงรุ มิยาโมโตะ ผู้ออกแบบเกมมาริโอ ที่ถือเป็นอาจารย์ของทาจิริ
ทาจิริก่อตั้งเกมฟรีกขึ้นเมื่อปี 1981 โดยเริ่มแรกเป็นแม็กกาซีนที่รายงานข่าววงการเกมในญี่ปุ่นซึ่งสุงิโมริทำงานอยู่ที่นี่ด้วย ในปี 1989 เขาได้เปลี่ยนเกมฟรีกเป็นบริษัทผู้พัฒนาเกมและเริ่มพัฒนาเกมของเครื่องแฟมิคอมให้กับนินเทนโด
ในปี 1990 ทาจิริเห็นเกมบอยและสายเชื่อมต่อระหว่างเครื่องเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถเล่นได้พร้อมกันหลายๆ คน ทำให้เขาเกิดแนวคิดถึงเกมที่ผู้เล่นจะได้นำอะไรบางอย่างมาแลกเปลี่ยนกันแทนที่จะเล่นเพื่อต่อสู้แข่งขันกัน เขาจึงได้นำความชื่นชอบในการจับแมลงในวัยเด็กมาประยุกต์เข้ากับแนวคิดนี้เป็นพื้นฐานของการสร้างเกมโปเกมอนขึ้นมา
นินเทนโดเห็นชอบกับคอนเซ็ปต์ของโปเกมอน (ที่เดิมในช่วงแรกของการพัฒนาใช้ชื่อว่าแคปซูลมอนสเตอร์ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นโปเกมอนที่มาจากคำย่อของ พ็อกเก็ต+มอนสเตอร์ ในภาษาญี่ปุ่นมารวมกัน) และตกลงที่จะจัดจำหน่ายเกมนี้ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเกมนี้ใช้เวลายาวนานถึง 6 ปี
โปเกมอนออกวางจำหน่ายในญี่ปุ่นเมื่อปี 1996 ในช่วงเวลานั้น หลายคนมองว่าเกมบอยเป็นเครื่องเกมที่กำลังจะตาย และมีน้อยคนนักที่คาดว่าโปเกมอนจะประสบความสำเร็จ
“นินเทนโดไม่ได้คาดหวังกับเกมนี้มากนัก” ทาจิริกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์เมื่อปี 1999 “ความนิยมของเกมบอยกำลังลดลง”
อย่างไรก็ตาม โปเกมอนกลายเป็นเกมฮิตถล่มทลายไม่เฉพาะเพียงแค่ในญี่ปุ่น และยังรวมถึงในสหรัฐอเมริกาด้วยเมื่อออกวางจำหน่ายในปี 1998

ส่วนหนึ่งของความสำเร็จคือ โปเกมอนที่เป็นตัวละครลับซึ่งก่อให้เกิดข่าวลือแบบปากต่อปากมากมายในหมู่ผู้เล่น
“โปเกมอนธรรมดามี 150 ตัว ขณะที่หมายเลข 151 คือตัวละครลับที่ชื่อมิว” ทาจิริบอกกับไทม์ “คุณไม่มีทางจับมิวได้นอกจากจะส่งต่อหรือแลกเปลี่ยนกับเพื่อนเท่านั้น นี่เป็นการสร้างเรื่องปรัมปราของเกม การสร้างตัวละครแบบนี้ขึ้นมาส่งผลให้เกิดข่าวลือและเรื่องเล่าต่างๆ เกี่ยวกับเกม ทำให้เกมนี้ยังคงได้รับความสนใจอยู่เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง”
ความสำเร็จส่วนหนึ่งยังมาจากการ์ตูนอีกด้วย ทาจิริเปิดเผยกับไทม์ว่า “เมื่อพวกเขาต้องการสร้างอนิเมะ ผู้สร้างต้องการโปเกมอนที่เป็นตัวละครเอกของเรื่อง พิกะจูเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมมากทั้งจากเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง พวกเขาระดมความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งการใช้พิกะจูเป็นแมสคอตของโปเกมอนไม่ใช่ความคิดของผม” ทาจิริบอก
ขณะที่ตัวละครเด็กชายที่เป็นโปเกมอนเทรนเนอร์ใช้ชื่อว่าซาโตชิที่มาจากชื่อของทาจิรินั่นเอง
อ้างอิงจากบัลบาพีเดีย เว็บไซต์สารานุกรมโปเกมอนที่แฟนๆ จัดทำขึ้น โปเกมอนตัวโปรดของทาจิริคือโปเกมอนลูกน้ำ “โปลิแวก” หรือชื่อในเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นว่าเนียวโรโมะ
ทาจิริยังคงทำงานอยู่ที่เกมฟรีกและดูแลการพัฒนาเกมหลักๆ ในซีรี่ส์โปเกมอน แม้ว่าเกมอื่นของเขาจะไม่มีเกมไหนได้รับความนิยมเทียบเท่ากับโปเกมอนอีกเลย
แต่เขาควรจะได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในนักออกแบบเกมคนสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการเกม