ในประเทศ : ปฏิบัติการ ตร.ไล่จับดะ งัดสารพัดข้อกฎหมาย ลุยกำราบม็อบนักศึกษา ก่อนชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.

ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พร้อมใจกันออกมาชุมนุมกดดันรัฐบาล ภายใต้ 3 ข้อเรียกร้องหลัก หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และยุบสภาเลือกตั้งใหม่

ท่ามกลางสถานการณ์รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยกล่าวอ้างหวังควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

สุดท้ายกฎหมายพิเศษฉบับนี้กลับถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการควบคุมและคุกคามการชุมนุมกลุ่มเยาวชน-นักศึกษา

แม้ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะแสดงท่าทีว่าพร้อมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนและเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่กำลังออกมาชุมนุมเคลื่อนไหว

แต่การกระทำของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐกลับสวนทาง ปรากฏหลักฐานผ่านการขอศาลอนุมัติออกหมายจับแกนนำนักศึกษาและผู้ชุมนุมนับสิบคน

โดยผู้ถูกออกมายจับส่วนใหญ่โดนข้อหากระทำความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 116, พ.ร.บ.ควบคุมโรค, พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ, พ.ร.บ.จราจร, พ.ร.บ.ความสะอาด, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

กล่าวกันว่า ปฏิบัติการออกหมายไล่จับแกนนำม็อบนักศึกษาครั้งนี้

มีส่วนเชื่อมโยงไปถึงการประกาศจัดชุมนุมครั้งใหญ่ วันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2563 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ในการตัดทอนกำลัง

ไม่ให้บรรดาแกนนำเคลื่อนไหวได้โดยสะดวก

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยแสดงความเห็นต่อการชุมนุมของนักเรียน-นักศึกษาคนรุ่นใหม่

“รู้สึกเป็นห่วงเด็กๆ จึงให้แนวทางด้วยการเปิดเวทีรับฟังความเห็นประชาชนให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ให้เขารู้ว่าอยากได้อนาคตอย่างไร เราก็จะฟังจากพวกเขา โดยจะเปิดเวทีลักษณะนี้ให้มากขึ้น”

ต่อมา 25 สิงหาคม ระหว่างประชุม ครม.สัญจร จ.ระยอง พล.อ.ประยุทธ์มีความเห็นถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวของนักศึกษาถือเป็นวิถีปกติตามระบอบประชาธิปไตย

แต่แล้วสิ่งที่ปรากฏตลอดระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามถึงความจริงใจของ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล

เนื่องจากมีแกนนำนักศึกษาและผู้ชุมนุมถูกตำรวจออกหมายจับและตามจับกุมนับสิบราย

เริ่มจากนายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ถูกจับเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม จากกรณีร่วมกิจกรรมชุมนุมกลุ่ม #เยาวชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม

19 สิงหาคม ถูกจับกุมหน้าศาลอาญา คดีชุมนุมเสกคาถาปกป้องประชาธิปไตย

และวันที่ 25 สิงหาคม โดนจับคดีชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม

วันเดียวกัน นอกจากนายอานนท์ เจ้าหน้าที่ยังจับกุมนายบารมี ชัยรัตน์ เลขาธิการสมัชชาคนจน น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และนายกรกช แสงเย็นพันธ์ แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย

เช้าวันที่ 20 สิงหาคม จับกุมนายเดชาธร บำรุงเมือง หรือฮอคกี้ ศิลปินวง Rap Against Dictatorship (RAD) เจ้าของเพลงแร็พประเทศกูมี, นายทศพร สินสมบุญ, นายธานี สะสม, นายณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์

รวมถึงนายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือ “บุ๊ค” แร็พเปอร์วง Eleven Finger วัย 19 ปี ที่ขึ้นแร็พในการชุมนุมเยาวชนปลดแอก วันที่ 18 กรกฎาคม

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดได้รับการประกันปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฝากขังศาล ภายใต้เงื่อนไขห้ามมีพฤติกรรมกระทำความผิดซ้ำเดิม

นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษาและแกนนำเยาวชนปลดแอก ถูกจับกุมเมื่อ 14 สิงหาคม ย่านเมืองทองธานี ในคดีการชุมนุมหน้ากองบัญชาการกองทัพบก

19 สิงหาคม ตำรวจปทุมธานีแถลงออกหมายจับ 6 แกนนำ น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล, นายภาณุพงศ์ จาดนอก, นายอานนท์ นำภา, นายณัฐชนน ไพโรจน์, นายธนวัฒน์ หรือลูกมาร์ค จันผลึก และนายสิทธินนท์ หรือไฟช้อน ทรงศิริ จากกรณีการชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทน

 

สําหรับนายภาณุพงศ์ หรือไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ถูกจับกุมครั้งแรกวันที่ 7 สิงหาคม พร้อมนายอานนท์ นำภา

24 สิงหาคม ถูกจับกุมอีกครั้งขณะถือป้ายประท้วง “ถมทะเล 1,000 ไร่ ชาวระยองได้อะไร” ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ประชุม ครม.สัญจร จ.ระยอง

24 สิงหาคม นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน เผาหมายเรียกของ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเรียกให้ไปรับทราบข้อหาร่วมจัดการชุมนุม โดยนายจตุภัทร์ระบุได้รับหมายเรียกให้ไปรายงานตัว วันเดียวกับที่ สน.สำราญราษฎร์มีหมายเรียกในข้อหาเดียวกัน

25 สิงหาคม นายอานนท์ นำภา น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.นางเลิ้ง กรณีจัดการชุมนุมหน้ากองบัญชาการกองทัพบกเมื่อ 20 กรกฎาคม

26 สิงหาคม นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ด และนายภานุมาศ สิงห์พรม หรือเจมส์ นักศึกษาและแกนนำคณะประชาชนปลดแอก ถูกจับกุมคดีชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ก่อนศาลให้ประกันตัวภายใต้เงื่อนไขเดียวกับผู้ถูกจับกุมส่งฝากขังก่อนหน้านี้

พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า การดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯ ออกหมายจับแล้ว 15 ราย จับกุมแล้ว 11 ราย เหลืออีก 4 รายที่ยังไม่เข้ามอบตัวตามนัด

นอกจากนี้ ตำรวจยังออกหมายเรียกอีก 15 ราย

ไม่รวมกรณีอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีแกนนำคนใดที่ถูกจับกุมแล้วศาลให้ประกันตัว แต่ภายหลังพบว่าได้ทำผิดเงื่อนไขห้ามเข้าร่วมชุมนุมและกระทำความผิดซ้ำ ก็เตรียมยื่นเรื่องขอให้ศาลเพิกถอนการประกันตัว

เหมือนกรณีนายอานนท์และนายภาณุพงศ์ ที่ตำรวจยื่นเพิกถอนไปก่อนหน้านี้ ศาลนัดไต่สวน 3 กันยายน

 

การกดดันนักเรียนและนักศึกษาที่ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวไม่เพียงการนำกฎหมายมาบังคับใช้

เมื่อกลุ่มเยาวชนและภาคีนักเรียนแห่งประเทศไทยเข้ายื่นหนังสือต่อนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ

พร้อมนำข้อมูล 109 โรงเรียนที่มีการคุกคามนักเรียนร่วมแสดงออกทางการเมืองด้วยการชู 3 นิ้ว ผูกโบขาวเป็นสัญลักษณ์ มามอบให้ตรวจสอบ

นายนฤเบศน์ รักษ์วิจิตร โฆษกภาคีนักเรียนฯ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการให้โรงเรียนทั่วประเทศเปิดพื้นที่ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นและข้อเรียกร้องทางการเมือง

ทางกลุ่มได้รับเสียงสะท้อนจากนักเรียนจำนวนมาก โดยกังวลว่าหากออกมาแสดงความคิดเห็นหรือร้องเรียนแล้วจะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยทั้งถูกครูลงโทษ เพื่อนนักเรียนบูลลี่

มีข้อมูลยืนยันข้อเท็จจริงว่า หลังเด็กออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองได้ถูกครูข่มขู่ตัดคะแนน ตัดทุนการศึกษาและต่อว่าด่าทอ บางคนถูกกระทำและลงโทษรุนแรง โดยครูฝ่ายปกครองเรียกไปพบ ทำร้ายร่างกาย เช่น ตบหัว ตบโทรศัพท์มือถือ

ตอนนี้รวบรวมรายชื่อโรงเรียนและมีทยอยแจ้งเข้ามากว่า 200 แห่ง

จึงเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งออกมาตรการปกป้อง ดูแลความปลอดภัยให้กับเด็กนักเรียนเหล่านี้

 

การคุกคามเยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมแสดงความคิดเห็นต่างทางการเมือง

ไม่ว่าด้วยการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือปิดปากผู้ชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ หรือการข่มขู่คุกคามเด็กนักเรียนตั้งแต่ในรั้วโรงเรียนไปจนถึงที่บ้าน

นอกจากเป็นหลักฐานยืนยันถึงความไม่จริงใจของรัฐบาลในการเปิดรับฟังความเห็นจากกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่

ยังสะท้อนว่าแม้ประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่อ้างตัวมาจากการเลือกตั้ง แต่กลับไม่มีพัฒนาการในเรื่องของสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพการแสดงออกทางการเมือง

การจำกัดหรือคุกคามผู้ใช้สิทธิชุมนุม แทนที่จะคุ้มครองและเปิดใจกว้างรับฟัง

อาจทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น

ถึงขั้นเป็นจุดแตกหักและอันตรายต่อการดำรงอยู่ของรัฐบาลเอง

 


กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
ลงทะเบียนเข้างานฟรี มีต้นไม้แจกด้วยนะ (จำนวนจำกัด)