ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 กรกฎาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ชกคาดเชือก |
ผู้เขียน | วงค์ ตาวัน |
เผยแพร่ |
ที่กระหยิ่มยิ้มย่องมาตลอดว่า สามารถแก้ปัญหาโรคระบาดโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุมตัวเลขคนป่วย คนเสียชีวิตได้ดี จนเป็นที่ยกย่องไปทั่วโลก นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปไหนมาไหนก็ยิ้มหน้าบานในเรื่องนี้
แถมยังสามารถเอาความโดดเด่นในด้านสาธารณสุข มากลบปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ติดลบได้อีกด้วย
แต่แล้วทุกอย่างก็พังครืนภายในพริบตา เมื่อเกิดกรณีทหารอียิปต์ที่ระยอง และลูกทูตใน กทม.
“เกิดปฏิกิริยาเดือดระอุจากประชาชนในวงกว้าง”
เพราะเรียกร้องให้ประชาชนการ์ดอย่าตก และประชาชนก็ร่วมมือกันมาตลอด อดทนกันมาหลายเดือน ยอมเก็บตัว ยอมอดมือกินมื้อ ลงเอยมาเกิดเรื่องผิดพลาด เพราะระบบอภิสิทธิ์ที่รัฐบาลและ ศบค.ยอมยกเว้นเป็นกรณีพิเศษให้กับกลุ่มคนวีไอพีจากต่างประเทศ
“อย่างนี้แล้วจะไม่ให้เดือดพล่านได้อย่างไร!?”
กระแสในโซเชียลร้อนแรงอย่างที่สุด กระหน่ำใส่กลุ่มอำนาจปัจจุบันอย่างไม่มียั้ง
เนื่องจากรัฐบาลและ ศบค.เพิ่งยอมคลายล็อกให้ธุรกิจต่างๆ ทยอยกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้งไม่นานมานี้ ทุกธุรกิจกลับมาเปิดพร้อมภาระหนี้สินมหาศาล แบกค่าเหนื่อยเงินเดือนพนักงานจนหลังแอ่น แต่ก็หวังว่าทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลาย รายได้จะค่อยๆ คืนกลับมา
พอเกิดเหตุทหารอียิปต์และเด็กซูดาน อันอาจจะนำมาสู่การระบาดได้อีกรอบ
แล้วจะกระทบต่อกิจการห้างร้านต่างๆ อีกหรือไม่อย่างไร
ที่แน่ๆ ที่ได้รับผลหนักหน่วงทันทีคือ ธุรกิจทั่วทั้งระยอง
ยิ่งความเป็นเมืองท่องเที่ยว ยิ่งเจ็บช้ำหนัก!!
ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีวันหยุดยาว 4 วัน ช่วยปลุกให้เมืองท่องเที่ยวชายทะเลตะวันออก เช่น ระยอง ได้คึกคักขึ้นมาอย่างมากโข ทั้งโรงแรม รีสอร์ต ที่พัก ทั้งธุรกิจร้านอาหารซีฟู้ดทั้งหลาย ได้ลืมตาอ้าปากขึ้นมา นักท่องเที่ยวแห่กันมาทั้งชายหาด และเกาะสวยงามต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกาะเสม็ดอันโด่งดัง
ปลายเดือนนี้ จะมีหยุดยาวอีก 4 วัน คือ ฝันหวานของผู้ประกอบการด้านบริการท่องเที่ยวทั่วระยอง
แต่แล้วก็มาเกิดเหตุทหารอียิปต์ติดโควิด แต่ไม่มีการควบคุม ด้วยความเป็นวีไอพี
ผู้ประกอบการทั่วระยอง ถึงกับเข่าอ่อนแทบล้มทั้งยืน
“ฝันหวานสำหรับรายได้ในช่วงวันหยุดยาว 4 วันที่จะมาถึง กลายเป็นฝันสลายไปในทันที”
อีกทั้งไม่ใช่จะเกิดผลกระทบเฉพาะวันหยุดยาวที่จะมาถึงในปลายเดือน แต่หมายถึงนักท่องเที่ยวหายวับไปทันทีที่มีข่าวทหารอียิปต์ ชายหาดคนหาย เกาะเสม็ดกลายเป็นเกาะร้างทันตา
คนทั่วระยองหวาดผวา ไม่จำเป็นก็ไม่ออกจากบ้าน ทำให้สถานการณ์เมืองนี้คล้ายถอยกลับไปช่วงที่โควิดระบาดใหม่ๆ ตอนเดือนมีนาคม
ธุรกิจในจังหวัด ไม่แค่ที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว แต่แทบทุกกิจการก็ได้รับผลเสียหายไปตามๆ กัน
“ไม่เท่านั้น เมืองพัทยาที่ใกล้เคียงกัน แหล่งท่องเที่ยวใหญ่อีกแหล่ง ก็ได้รับผลกระทบพร้อมกันไปด้วย”
จึงเกิดปฏิกิริยาอย่างกว้างขวาง ที่แสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาล ที่หละหลวมให้กับกลุ่มคนวีไอพีจากต่างประเทศ แล้วส่งผลร้ายแรงต่อประชาชน ทั้งชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ปากท้องอย่างหนักหนาสาหัส
มีทั้งขึ้นป้ายประท้วง ไปดักชูป้ายรอประท้วงนายกฯ ที่มาดูสถานการณ์ในระยอง ไปจนถึงบุกไปยื่นเรียกร้องความรับผิดชอบรัฐบาลถึงทำเนียบ
โรงเรียนต่างๆ ต้องปิดกันอีกรอบ กระทบต่อการเรียนการสอนไปด้วย
“ทั้งหลายทั้งปวง จึงทำให้เมืองท่องเที่ยวชายทะเล กลายเป็นเมืองทะเลเดือดระอุไปในฉับพลัน”
ไม่เท่านั้น ยังวุ่นวายไปอีกหลายๆ เมือง หลายๆ จังหวัด เมื่อตรวจพบว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุทหารอียิปต์ เดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ
ต้องติดตามเพื่อตรวจสอบความป่วยไข้อย่างเร่งด่วน
ปฏิกิริยาทั้งจากเมืองระยองศูนย์กลางปัญหาที่ได้รับผลกระทบ ขยายไปทั่ว
สถานการณ์รัฐบาลมาถึงจุดติดลบอย่างขนานใหญ่!
ใน กทม.เองก็วุ่นด้วยพิษโควิดอีกรอบ เหตุการณ์ลูกทูตป่วยโควิด แต่ไม่มีการควบคุมตัวด้วยเหตุผลความเป็นวีไอพี ทำเอาเมืองหลวงปั่นป่วนไปด้วยพร้อมๆ กัน ต้องปิดโรงเรียนใน กทม.ไปหลายแห่ง จึงเกิดปฏิกิริยาไม่พอใจรัฐบาลอย่างดุเดือดไปด้วย
กลุ่มธุรกิจต่างๆ รีบออกมาเตือนรัฐบาลและ ศบค. ว่าอย่าเอาเหตุทหารอียิปต์และลูกทูตมากลายเป็นมาตรการเข้มข้นถึงขั้นล็อกดาวน์ทั้งประเทศอีกรอบเป็นอันขาด
“จะส่งผลต่อเศรษฐกิจรวมที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นขึ้น ต้องพังพินาศอย่างขนานใหญ่”
ก่อนหน้านั้นไม่นาน จากการจัดงานระดมความคิดของกลุ่มแคร์ ได้มีความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวเพื่อเรียกร้องรัฐบาล ต้องเปิดประเทศ เพื่อให้สายการบินระหว่างประเทศเริ่มทำการได้ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถเข้ามาได้ ภายใต้ระบบตรวจสอบควบคุมระวังโรคที่ชัดเจนจริงจัง
เพราะถ้าไม่เริ่มเปิด จะทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งระบบ ตั้งแต่สบานบิน บริษัททัวร์ โรงแรม ที่พัก ภัตตาคารร้านอาหาร ไกด์ รถทัวร์ เรือทัวร์ จะล้มครืนทั้งระบบ
อีกทั้งเป็นที่รู้กันว่า รายได้จากการท่องเที่ยว คือเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ ถ้าจะฟื้นเศรษฐกิจก็ต้องเร่งฟื้นการท่องเที่ยวนี่แหละ
แต่แล้วเมื่อเกิดเหตุผิดพลาดจากคณะวีไอพีต่างชาติ ด้วยความหละหลวมของรัฐบาลเอง
“เชื่อได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการเปิดประเทศเพื่อฟื้นเศรษฐกิจอย่างทันที”
ไม่เท่านั้น หากสถานการณ์ระบาดจากกรณีทหารอียิปต์และเด็กคณะทูต หากเกิดขยายวงรุนแรง ยังหวั่นกันว่า รัฐบาลและ ศบค.ที่เอาสาธารณสุขนำหน้า จะตัดสินใจล็อกดาวน์ทั้งระบบอีกรอบ
คราวนี้คงได้เห็นคนอดตายครั้งใหญ่
“ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจบางรายเริ่มประกาศชักธงรบ”
เพราะกิจการเพิ่งสามารถเปิดได้ ภายใต้หนี้สินมหาศาลช่วงต้องปิดตัวเพราะโควิดระบาด เงินเดือนรายได้พนักงานเพิ่งจะเริ่มจ่ายได้
ถ้าหากมีคำสั่งจากรัฐลบาลและ ศบค.ให้ปิดกิจการอีก
“จะไม่ยอมรับคำสั่งนั้นเด็ดขาด ใครสั่งปิด จะไม่ยอมปิด!!”
นี่คืออารมณ์ของคนในสังคมวันนี้ บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อรัฐบาลและ ศบค.
สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พึงพอใจต่อรัฐบาล เป็นไปอย่างร้อนแรงยิ่ง ที่รัฐบาลเคยเชื่อมั่นว่า ได้รับคะแนนนิยมล้นหลามจากผลงานด้านสาธารณสุขคุมโควิด จะพบว่าอาจไม่เป็นเช่นนั้น
เพราะในทันทีที่เกิดความผิดพลาด ความไม่พอใจจากประชาชนก็ฮือขึ้นมาอย่างรุนแรงและกว้างขวางมาก
“สถานการณ์รัฐบาลในวันนี้ จึงถือว่าไม่สู้ดีนัก”
แถมภายในรัฐบาลก็ยังระส่ำด้วยความขัดแย้งภายในพรรค กรณีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าและเลขาธิการพรรค จนนำไปสู่การยกทีมออกจากรัฐบาลของกลุ่มนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ 4 กุมาร
แต่เกิดการขัดแย้งใหม่ซ้ำเติมอีก เมื่อการปรับ ครม. นำมาสู่การเปิดศึกชิงเก้าอี้รัฐมนตรีพลังงาน ระหว่างคนนอกสายนายกฯ กับคนในพลังประชารัฐ
สถานการณ์ในด้านโรคโควิดก็กำลังไม่สู้ดีนัก เกิดปฏิกิริยาไม่พอใจอย่างกว้างขวางจากประชาชน
สถานการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคและในการปรับ ครม.ก็ปะทุ
โรคซ้ำกรรมซัด ทั้งโรคโควิดและศึกชามข้าวในรัฐบาลเอง!