หน้า 8 | เบื้องหลัง “หมุด” หาย

เป็นครั้งแรกที่เห็นภาวะ “น้ำท่วมปาก” ของ “ผู้ใหญ่” ในเมืองไทย

เมื่อเกิดปรากฏการณ์ “หมุดหาย” ขึ้นมา

ใครจะไปนึกว่า “หมุด” ประวัติศาสตร์ 24 มิถุนายน 2475 วันเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยจะหายไป

เพราะนอกจาก “หมุด” จะอยู่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ที่เป็นเขตหวงห้ามพิเศษแล้ว

การขโมย “หมุดเก่า” และใส่ “หมุดหน้าใส” ลงไปแทน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

เพราะไม่ใช่แค่เทปูนปิดทับ แต่เป็นการขุดเจาะถนนเพื่อเอาหมุดเก่าออก

และเอา “หมุดหน้าใส” ใส่ลงไปแทนที่

“วงจรปิด” ในพื้นที่หวงห้ามเต็มไปหมด

ตำรวจที่ดูแลก็มีตลอดเวลา

แล้ว “หมุด” หายไปได้อย่างไร

ไม่แปลกที่ “ผู้ใหญ่” ทั้งหลายจึงเกิดอาการ “น้ำท่วมปาก”

ถาม “ภูเขา” ตอบ “ทะเล”

และที่คลาสสิคที่สุดก็คือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

“ผมเกิดไม่ทัน”

ตลก “สามช่า” ยังคิดมุขแบบนี้ไม่ได้เลย

หลังจากที่ตรวจสอบนานเป็นสัปดาห์ แหล่งข่าวระดับสูงฝ่ายความมั่นคงที่ดูวงจรปิดทุกมุม และใช้สัญญาณดาวเทียมตรวจจับอย่างละเอียดยิบ

สุดท้ายก็ได้ “คำตอบ” ที่ไม่มีใครคาดคิด

ปรากฏการณ์ “หมุดหาย” ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการทิ้งระเบิด “โคตรแม่” ของสหรัฐอเมริกา

ทิ้งระเบิดที่ “อัฟกานิสถาน”

แต่แรงสะเทือนใต้ดินรุนแรงมาก

ทะลุจุดศูนย์กลางโลกไปสู่ลานพระบรมรูปทรงม้า

แรงจนกระทั่ง “หมุดเก่า” กระเด็นออกนอกโลก

ส่วน “หมุดหน้าใส” ที่เข้ามาสวมแทนที่นั้น ก็เกิดจากการทดลองยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

ที่มีข่าวว่าการทดลองไม่สำเร็จนั้นไม่จริง

แต่ “ขีปนาวุธ” นั้น ข้ามมายังประเทศไทย

ตกลงที่อ่าวไทย

สะเก็ดระเบิดของขีปนาวุธนั้นกระเด็นกระดอนไกล

หล่นมาที่ลานพระบรมรูปทรงม้า

ตกลงไปในหลุมของ “หมุดเก่า” พอดี

กลายเป็น “หมุดหน้าใส” ในที่สุด

“แล้วทำไมสะเก็ดขีปนาวุธจึงมีข้อความหน้าใสแบบนั้น”

คำตอบ ก็คือ ข้อความนั้นเป็นคำฮิตของวัยรุ่นเกาหลีเหนือ

ในเมืองไทยใช้คำว่า “โกหกหน้าตาย”

แต่ที่เกาหลีเหนือจะใช้คำว่า “โกหกหน้าใส”

เป็นการโกหกแบบ “ตะมุตะมิ” ไปเรื่อย

“พอแล้ว ห้ามถามต่อ” แหล่งข่าวรีบจบ

“แค่นี้ก็หน้าใสจนจะถึงโครงกระดูกแล้ว”