หลังจากที่ “มาตรา 44” ดำรงรักษา “ความศักดิ์สิทธิ์” มายาวนาน

เพราะนำมาใช้กับเรื่องใหญ่ๆ

และนานๆ จะใช้สักครั้ง

แต่มาวันนี้ “มาตรา 44” กลับกลายเป็น “ยาสามัญประจำบ้าน” ของ คสช.

ละม้าย “พาราเซตามอล”

เป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน

…มาตรา 44

ครั้งก่อนตอนกรมการขนส่งทางบกมีปัญหากับ “อูเบอร์” คนระดับรองอธิบดีก็ออกมาขู่ว่าจะใช้มาตรา 44 กับ “อูเบอร์”

“ขำ” กันไปครั้งหนึ่งแล้ว

มาวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ตัดสินใจใช้มาตรา 44 ซึ่งเป็น “ดาบอาญาสิทธิ์”

กับเรื่องการบังคับใช้ “เข็มขัดนิรภัย”

ขีดเส้นใต้ 44 เส้น

เรื่อง “เข็มขัดนิรภัย” คร้าบ

พ่วงมาด้วยเรื่องการใช้รถกระบะ ห้ามคนนั่งกระบะท้าย และห้ามเล่นสงกรานต์บนรถกระบะบนถนนสายหลัก ฯลฯ

ใครจะไปนึกว่าเรื่อง “ความปรองดอง” ที่รัฐบาลเพรียกหามานาน

จะเกิดขึ้นทันทีที่ใช้มาตรา 44 กับเรื่องนี้

เสียงชมเชยมาจากทุกสารทิศ

ชนิดที่เขียนเป็นตัวอักษรไม่ได้

เพราะ “สุภาพ” เกินไป

ความแตกต่างระหว่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกับรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจอยู่ที่ “กระบวนการ”

เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะต้องรับฟังความเห็นจากตัวแทนประชาชนในสภาผู้แทนราษฎร

ถ้าเป็นภาวะปกติ เรื่องนี้จะต้องมีกระทู้ถามเกิดขึ้นในสภาอย่างแน่นอน

ถือเป็น “รูระบาย” ความรู้สึกของประชาชน

แต่วันนี้ประชาชนจะหวังพึ่งพิง สนช. ที่มาจากการแต่งตั้งคงไม่ได้

เพราะเมื่อ “แป๊ะ” เป็นคนแต่งตั้ง

สนช. ก็ต้องฟังเสียง “แป๊ะ”

ไม่เคยส่งเสียง “หือ”

มีแต่ “อือ” เพียงอย่างเดียว

ในทางการเมืองเรื่องนี้ส่งผลสะเทือนต่อรัฐบาลมากทีเดียว

เพราะเป็นครั้งแรกที่เกิดกระแส “มหาชน” แบบ “ปรองดอง” ชนิดที่แทบจะไม่มี “คนเห็นต่าง” จากทุกระดับชั้น

และไม่ใช่แค่แสดงความไม่เห็นด้วยกับมาตรการนี้

แต่ร้ายแรงถึงขั้น “เสียดสี” และ “ล้อเลียน”

เรื่องนี้คนในแวดวงการเมืองกลัวมาก

เพราะทันทีที่ “ผู้นำ” กลายเป็น “ตัวตลก”

“ความกลัว” เปลี่ยนเป็น “เสียงหัวเราะ”

“อำนาจ” ก็จะกลายเป็น “ปราสาททราย”

ที่หากน้ำทะเลสาดเข้ามา

…จะไม่เหลืออะไรเลย