มองกระแส “The Mask Singer” ในมุมเล็กๆ เหล่าแคนดิเดต “หน้ากากอีกาดำ” รับมืออย่างไร? เมื่อถูกแฟนๆ คาดหวัง ในสิ่งที่พวกเขา “ไม่ได้เป็น”

รายการ “The Mask Singer หน้ากากนักร้อง” ซีซั่นแรก ที่ออกอากาศผ่านทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี และสร้างปรากฏการณ์โกยเรตติ้งสูงสุดทั้งในจอโทรทัศน์แบบเดิม และในเทคโนโลยีการสื่อสารออนไลน์ยุคใหม่ ได้ “บทสรุป” ในระดับหนึ่งแล้ว เมื่อวันที่ 23 มีนาคม

นั่นคือ ได้ผู้ชนะว่าเป็น “หน้ากากทุเรียน”

แม้รายการจะขยับเลื่อนกำหนดการเปิด “หน้ากากทุเรียน” ออกไปอีกหนึ่งสัปดาห์ เป็นวันที่ 30 มีนาคม

แต่อย่างน้อย ผู้ชมจำนวนมหาศาลที่เฝ้าหน้าจอรูปแบบต่างๆ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 23 ก็ได้รับรู้ว่า “รองแชมป์ The Mask Singer” ซีซั่นแรก ที่อยู่ภายใต้ “หน้ากากอีกาดำ” มาตลอดการแข่งขัน

คือ นักร้องดัง “เอ๊ะ จิรากร สมพิทักษ์”

ก่อนหน้านั้น มีหลายคนพยายามคาดเดาว่า “หน้ากากอีกาดำ” คือใคร?

แม้ “เอ๊ะ จิรากร” จะเป็นเต็งหนึ่งมาแรงในช่วงหลังๆ แต่ก็ยังมีแคนดิเดตอีกหลายรายที่ถูกสาธารณชนกล่าวถึง

เช่น “อู๋ ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา” “ประกาศิต สากลวารี” หรือ “ศิต โมทีฟ” “พิเชษฐ์ บัวขำ” หรือ “คิง เดอะ วอยซ์ ซีซั่น 1” และ “ทานต์ เจิดสวัสดิ์” หรือ “แทน อุลตร้า ช้วดส์”

ทีมข่าวมติชนทีวีมีโอกาสได้พูดคุยกับศิลปินสองรายที่ถูกคาดเดาว่าน่าจะใช่ “หน้ากากอีกาดำ”

แม้สุดท้าย ทุกคนจะได้รับทราบโดยกระจ่างกันแล้วว่า ศิลปินเหล่านี้ไม่ใช่ “หน้ากากอีกาดำ” แต่มุมคิดบางด้านที่พวกเขาเผยออกมาเกี่ยวกับปรากฏการณ์เรื่อง “The Mask Singer” ก็น่าสนใจอยู่มิใช่น้อย

เริ่มจากการไปสนทนากับ “คิง เดอะ วอยซ์” ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวไปชวนคุยนั้น เจ้าตัวได้แต่แสดงสีหน้ายิ้มๆ บ่ายเบี่ยง ไม่ยอมตอบตรงๆ ว่าตนเองใช่ “หน้ากากอีกาดำ” หรือไม่

โดยให้เหตุผลว่าอยากให้ผู้ชมทุกคนได้สนุกกับรายการมากกว่า เพราะตนเองก็ชอบความรู้สึกตอนได้ดูผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนถูกเปิดหน้ากากออกมาเหมือนกัน

แม้ในท้ายที่สุด คิงจะไม่ใช่ “หน้ากากอีกาดำ” แต่เขาก็ได้รับอานิสงส์จากเรื่องนี้ไปมากพอสมควร

เขาเล่าว่ามีคนสอบถามเข้ามาเยอะมาก ทุกช่องทาง ทั้งแฟนคลับ, เพื่อนๆ หรือแม้แต่ญาติพี่น้อง ว่าตัวเขาใช่ “หน้ากากอีกาดำ” หรือไม่ แต่เขาไม่ให้คำตอบกลับไป

อย่างไรก็ตาม คิงยอมรับว่าหลังถูกโยงว่าเป็น “หน้ากากอีกาดำ” เขาก็มีงานเข้ามาบ้าง ทั้งๆ ที่ช่วงนี้เป็นช่วงพัก เพราะกำลังเก็บตัวทำเพลงใหม่อยู่ เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมวงการคนอื่นๆ ซึ่งถูกโยงว่าเป็นหน้ากากอีกาดำ ก็มีงานเยอะขึ้นมากด้วยเช่นกัน

“รู้สึกว่าจะมีงานกันนะ เท่าที่เห็นโพสต์กัน ก็มีเพื่อนคนนึง รู้สึกจะเป็น เอ๊ะ จิรากรณ์ มั้ง ก็ก่อกระแสของเขานะครับ เขาก็บอกว่าเนี่ย งานก็เกาะกระแสอีกากันไปนะครับ มีงานเข้ามา

“สำหรับผม ก็มี (งาน) บ้าง ไม่มีบ้าง แต่ยังไงก็ยังรับจ้างร้องเพลงอยู่นะครับผม” คิงบอก

อีกคนที่ทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยสอบถามด้วย ได้แก่ “แทน อุลตร้า ช้วดส์”

“อุลตร้า ช้วดส์” เคยเป็นวงดนตรีดาวรุ่งฝีไม้ลายมือดีในเครือแกรมมี่ยุคทศวรรษ 2540 แต่แล้วทางวงกลับตัดสินใจ “พักตัวเอง” หลังออกอัลบั้มชุดที่สองเมื่อปี 2548

แต่ใช่ว่าจู่ๆ ชื่อของ “แทน อุลตร้า ช้วดส์” จะโผล่ขึ้นมาเป็นแคนดิเดต “หน้ากากอีกาดำ” แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

เพราะเมื่อปี 2558 แทนและแฟนสาวในนามวง “Meal 6” ได้เข้าประกวดร้องเพลงในรายการ “เดอะ วินเนอร์ อิส ไทยแลนด์ ซีซั่น 2”

ก่อนที่เพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของวง “อุลตร้า ช้วดส์” จะปรากฏขึ้น พร้อมๆ กับการออกทัวร์คอนเสิร์ตของทางวง

แทนระบุว่า แรกๆ เขาค่อนข้างตกใจว่ากระแส “หน้ากากอีกาดำ” มาถึงตัวเองได้อย่างไร?

นอกจากนี้ ชื่อของวง “อุลตร้า ช้วดส์” ที่หายไปนานแล้ว ก็เพิ่งกลับมารวมวงกันพอดี เพราะมีแฟนเพลงเฉพาะกลุ่มคิดถึง แต่พอตนเองถูกนำมาเปรียบเทียบว่าเป็น “หน้ากากอีกาดำ” วงก็มีงานเพิ่มขึ้นชัดเจน

แม้แทนจะยืนยันมาเกือบตลอดว่าเขาไม่ใช่ “หน้ากากอีกาดำ” ตั้งแต่ทางรายการยังไม่ได้เปิดหน้ากากของ “เอ๊ะ จิรากร”

“งานก็มาจากเค้า (หน้ากากอีกาดำ) ด้วย หนึ่งก็คือขอบคุณเค้าด้วย แต่คราวนี้ในการที่เรามีงานเพิ่มขึ้น อยากจะบอกว่าถ้าเป็นงานมากขึ้น อยากให้คุณน่ะอยากฟัง “เรา” (อุลตร้า ช้วดส์) มากกว่า “หน้ากากอีกา” หรืออย่ามาวัดกันในงานนั้นว่าเราคือ “หน้ากากอีกา” มั้ย?

“เราแอบเสียใจอยู่เล็กๆ ว่า คุณแค่มาฟังเรา ว่าต้องร้องเพลง Endless Rain ได้ ต้องร้องเพลงกลับมาได้ ต้องร้องเพลง Zombie ต้องร้องเพลงอะไรที่เขา (หน้ากากอีกาดำ) ร้องได้ ทิ้งรักลงแม่น้ำอีกเพลงนึง

“ถึงแม้จะกระแสตอบรับดี แต่เราก็แอบเสียใจอยู่นิดนึง ถ้าเกิดว่าคุณอยากฟังเราก็มาฟัง “อุลตร้า ช้วดส์” สิ” แทนสะกิดแฟนเพลงที่กำลังเห่อกระแส “หน้ากากอีกาดำ”

ท้ายสุด แม้ “คิง” และ “แทน” จะไม่ใช่ “หน้ากากอีกาดำ” ในรายการ The Mask Singer แต่พวกเขากลับได้รับอานิสงส์จากกระแสฮ็อตฮิตของรายการและผู้เข้าแข่งขันบางราย จนมีงานร้องเพลง-แสดงดนตรีเพิ่มเติม แม้จะไม่ใช่ช่วง “พีกสูงสุด” ทางอาชีพของทั้งคู่ก็ตาม

อย่างไรก็ดี ทั้ง “คิง” และ “แทน” คงอยากให้แฟนเพลงยอมรับพวกเขาในแบบที่ “พวกเขาเป็น” มากกว่าจะมาคลั่งไคล้ชื่นชม

เพราะเชื่อว่าทั้งคู่เป็นผู้อยู่ภายใต้ “หน้ากาก” ใดๆ