ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 มีนาคม - 6 เมษายน 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
แม้ทางทหารหรือตำรวจไม่ยอมเปิด “คลิป” ภาพจากวงจรปิดกรณีทหารยิง “ชัยภูมิ ป่าแส” แกนนำเยาวชนกลุ่มรักษ์ลาหู่เสียชีวิต
แต่ดูเหมือนทุกคนจะอ่านออกไม่ยากว่าภาพในวงจรปิดนั้นเป็นอย่างไร
เพราะความยากลำบากของการเผยแพร่คลิปนั้นแตกต่างจากกรณีการจับกุมอาวุธสงครามของเครือข่าย “โกตี๋” ราวฟ้ากับดิน
กรณี “โกตี๋” ทันทีที่มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการจัดฉาก
ไม่เชื่อว่าจะมีการซุกซ่อนอาวุธสงครามจริง
คลิปการจับกุมที่ทหารเป็นคนถ่ายภาพก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
ภาพและเสียงชัดเจน
ไม่นับข้อความไลน์ที่อ้างว่าเป็นการสื่อสารระหว่าง “โกตี๋” กับพรรคพวก
ทุกอย่างเป็นหลักฐานในสำนวนคดี
แต่ก็เผยแพร่สู่สาธารณะโดยไม่มีข้ออ้างเรื่อง “ความลับ” อะไร
เหตุผลอ่านไม่ยาก
“รัฐ” ได้เปรียบ
“โกตี๋” เสียเปรียบ
ในขณะที่คดีทหารยิง “ชัยภูมิ” เสียชีวิต
ทุกอย่างเต็มไปด้วยปริศนา
ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งที่เห็น “ชัยภูมิ” อำนวยความสะดวกให้ทหารตรวจค้นรถ
ที่สำคัญ กางเกงขาสั้นที่ “ชัยภูมิ” ใส่ก็เป็นกางเกงขาสั้นทรงแคบ
ยากที่จะเอา “ระเบิดขว้าง” ขนาดใหญ่ซุกเข้าไปในกระเป๋าได้
สคริปต์ที่ฝ่ายทหารเล่ามาตั้งแต่วันแรกจึงเต็มไปด้วยข้อสงสัย
หลักฐานที่ดีที่สุดจึงเป็น “คลิป”
ถ้ามี “คลิป” แบบเดียวกับกรณี “โกตี๋” เผยแพร่สู่สาธารณะเมื่อไร
“ชัยภูมิ” ตายซ้ำสองแน่นอน
แต่…
คําถามแรกที่เกิดขึ้นก็คือ ด่านตรวจแห่งนี้มี “วงจรปิด” หรือไม่
ตามปกติถ้าคดีแบบนี้ โอกาสสูงมากที่ “วงจรปิด” จะเสียกะทันหัน
ไม่มีภาพให้ดู
หรือจะอ้างว่าไม่มีวงจรปิด
แต่ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กลับยอมรับว่าสถานที่เกิดเหตุมี “วงจรปิด”
ตามมาด้วยประโยคฮิตประจำเดือนมีนาคม
“ถ้าเป็นผม อาจกดออโต้ไปแล้ว”
ในขณะที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก บอกว่าได้ดูภาพจากวงจรปิดแล้ว
“แต่เห็นว่าไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด”
สุดท้ายก็ไม่มีการเผยแพร่คลิปภาพ “วงจรปิด”
จากเรื่องราวทั้งหมดคงปะติดปะต่อได้ไม่ยากว่าภาพในวงจรปิดเป็นอย่างไร
“รัฐ” ได้เปรียบ
หรือ “เสียเปรียบ”