หน้า 8 : คลิป-ขลิบ

แม้ทางทหารหรือตำรวจไม่ยอมเปิด “คลิป” ภาพจากวงจรปิดกรณีทหารยิง “ชัยภูมิ ป่าแส” แกนนำเยาวชนกลุ่มรักษ์ลาหู่เสียชีวิต

แต่ดูเหมือนทุกคนจะอ่านออกไม่ยากว่าภาพในวงจรปิดนั้นเป็นอย่างไร

เพราะความยากลำบากของการเผยแพร่คลิปนั้นแตกต่างจากกรณีการจับกุมอาวุธสงครามของเครือข่าย “โกตี๋” ราวฟ้ากับดิน

กรณี “โกตี๋” ทันทีที่มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการจัดฉาก

ไม่เชื่อว่าจะมีการซุกซ่อนอาวุธสงครามจริง

คลิปการจับกุมที่ทหารเป็นคนถ่ายภาพก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

ภาพและเสียงชัดเจน

ไม่นับข้อความไลน์ที่อ้างว่าเป็นการสื่อสารระหว่าง “โกตี๋” กับพรรคพวก

ทุกอย่างเป็นหลักฐานในสำนวนคดี

แต่ก็เผยแพร่สู่สาธารณะโดยไม่มีข้ออ้างเรื่อง “ความลับ” อะไร

เหตุผลอ่านไม่ยาก

“รัฐ” ได้เปรียบ

“โกตี๋” เสียเปรียบ

 

ในขณะที่คดีทหารยิง “ชัยภูมิ” เสียชีวิต

ทุกอย่างเต็มไปด้วยปริศนา

ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งที่เห็น “ชัยภูมิ” อำนวยความสะดวกให้ทหารตรวจค้นรถ

ที่สำคัญ กางเกงขาสั้นที่ “ชัยภูมิ” ใส่ก็เป็นกางเกงขาสั้นทรงแคบ

ยากที่จะเอา “ระเบิดขว้าง” ขนาดใหญ่ซุกเข้าไปในกระเป๋าได้

สคริปต์ที่ฝ่ายทหารเล่ามาตั้งแต่วันแรกจึงเต็มไปด้วยข้อสงสัย

หลักฐานที่ดีที่สุดจึงเป็น “คลิป”

ถ้ามี “คลิป” แบบเดียวกับกรณี “โกตี๋” เผยแพร่สู่สาธารณะเมื่อไร

“ชัยภูมิ” ตายซ้ำสองแน่นอน

แต่…

คําถามแรกที่เกิดขึ้นก็คือ ด่านตรวจแห่งนี้มี “วงจรปิด” หรือไม่

ตามปกติถ้าคดีแบบนี้ โอกาสสูงมากที่ “วงจรปิด” จะเสียกะทันหัน

ไม่มีภาพให้ดู

หรือจะอ้างว่าไม่มีวงจรปิด

แต่ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กลับยอมรับว่าสถานที่เกิดเหตุมี “วงจรปิด”

ตามมาด้วยประโยคฮิตประจำเดือนมีนาคม

“ถ้าเป็นผม อาจกดออโต้ไปแล้ว”

ในขณะที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก บอกว่าได้ดูภาพจากวงจรปิดแล้ว

“แต่เห็นว่าไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด”

สุดท้ายก็ไม่มีการเผยแพร่คลิปภาพ “วงจรปิด”

จากเรื่องราวทั้งหมดคงปะติดปะต่อได้ไม่ยากว่าภาพในวงจรปิดเป็นอย่างไร

“รัฐ” ได้เปรียบ

หรือ “เสียเปรียบ”